ทลายโรงงานผลิตยาฟ้าทะลายโจรปลอม

อย. 27 ส.ค.-ปคบ.ร่วม อย. ทลายโรงงานผลิตยาฟ้าทะลายโจรปลอม มูลค่าของกลางกว่า 1.1 ล้านบาท


ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) โดย พล.ต.ต. ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบก.ปคบ., พ.ต.อ. สำเริง อำพรรทอง, พ.ต.อ. ศารุติ แขวงโสภา, พ.ต.อ. ศรีศักดิ์ คัมภีรญาณ, พ.ต.อ. ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ รอง ผบก.ปคบ. และ พ.ต.อ. เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดย นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และ ภญ.สุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข และรักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติการ กรณีตรวจค้นโรงงานลักลอบผลิตยาฟ้าทะลายโจรโดยไม่ได้รับอนุญาต ตรวจยึดของกลางจำนวนมาก มูลค่ากว่า 1,100,000 บาท

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (กก.4 บก.ปคบ.) ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอให้ตรวจสอบ กรณีมีผู้ร้องเรียนพบการลักลอบผลิตและจำหน่ายยาฟ้าทะลายโจรปลอม โดยผู้ร้องเรียนแจ้งว่าตนได้สั่งซื้อยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร จากนางสาวก้อย (นามสมมุติ) ผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก โดยนางสาวก้อยฯ ได้เสนอขายยาฟ้าทะลายโจรชนิดแคปซูล ยี่ห้อ ดอกบัวตอง เลขทะเบียนที่ G46/53 และอ้างว่าตนเป็นเจ้าของโรงงานผลิตเครื่องสำอางและอาหารเสริมแห่งหนึ่ง ย่านคลองสามวา กรุงเทพฯ และได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลิตภัณฑ์ให้ผลิตยาฟ้าทะลายโจรยี่ห้อดังกล่าว ผู้เสียหายจึงได้สั่งซื้อยาฟ้าทะลายโจร เป็นจำนวนเงิน 1,127,065 บาท โดยผู้เสียหายได้โอนเงินและรับสินค้าครบ ตามจำนวน ต่อมาผู้เสียหายได้ตรวจสอบพบว่า ผงยาฟ้าทะลายโจรภายในแคปซูลมีลักษณะที่แตกต่างจากท้องตลาดทั่วไป จึงได้สอบถามไปยังบริษัทกฤษฎาสมุนไพร จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ยาฟ้าทะลายโจร ยี่ห้อ ดอกบัวตอง เลขทะเบียนที่ G46/53 และได้รับการยืนยันว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีรูปแบบฉลากแตกต่างของจริง และไม่ได้เป็นผลิตภัณฑ์ยาฟ้าทะลายโจร ที่ได้รับอนุญาตให้ผลิตหรือเคยสั่งทำกับทางกับทางบริษัทฯ แต่อย่างใด ภายหลังผู้เสียหายได้ติดต่อกับนางสาวก้อยฯ เพื่อคืนสินค้าและขอเงินคืน ปรากฏว่า ได้รับการบ่ายเบี่ยง จึงได้เดินทางมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ต่อมา เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ อย. นำหมายค้นของศาลอาญามีนบุรี เข้าทำการตรวจค้น สำนักงาน โรงงานผลิต และโกดังเก็บของ ของนางสาวก้อยฯ รวม 3 จุด ตรวจพบพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการผลิตยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรปลอมจำนวนหลายรายการ พร้อมกันนี้ได้ตรวจยึด ยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรปลอม จากผู้ร้องเรียน จำนวน 5,000 กระปุก นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. 2562 ฐาน “ร่วมกันผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพรปลอม” มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท, ฐาน “ร่วมกันผลิตหรือขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, ฐาน “ร่วมกันขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรปลอม” มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท

พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบก.ปคบ. ฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชน ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจรจากร้านขายยาหรือร้านค้าที่เชื่อถือได้ และขอแจ้งเตือนให้ผู้ที่กำลังกระทำความผิด ลักลอบผลิตยาสมุนไพรที่ไม่ได้รับอนุญาตให้หยุดการกระทำดังกล่าวทันที ถ้าตรวจพบจะดำเนินคดีถึงที่สุด หากพี่น้องประชาชน พบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน ปคบ. 1135 หรือเพจ ปคบ. เตือนภัยผู้บริโภค


ภญ.สุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข และรักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวในตอนท้ายว่า ขอให้ประชาชนระมัดระวังในการซื้อผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจรทางออนไลน์ เพราะเราไม่สามารถเห็นสินค้าจริงก่อนซื้อ ซึ่งขณะนี้มีผู้ฉวยโอกาสหลอกขายฟ้าทะลายโจรผิดกฎหมาย เป็นจำนวนมาก จากการเฝ้าระวังและตรวจสอบร้องเรียนที่ผ่านมา พบผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจรผิดกฎหมายแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1) กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. หรือใช้วัตถุดิบอื่นแทนฟ้าทะลายโจร เช่น ผงบอระเพ็ด 2) ผลิตภัณฑ์ปลอมโดยสวมเลข อย. ของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและอ้างว่ามีฟ้าทะลายโจรเป็นส่วนประกอบ ซึ่ง อย. ไม่อนุญาตให้ใช้ฟ้าทะลายโจรในผลิตภัณฑ์อาหาร เนื่องจากมีฤทธิ์ทางยา และ 3) ผลิตภัณฑ์ปลอมโดยสวมเลขทะเบียนตำรับยาของผลิตภัณฑ์อื่น ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อขอให้ตรวจสอบรายชื่อผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจรผิดกฎหมายที่หน้าเว็บไซต์ อย. และตรวจสอบการขึ้นทะเบียนโดยละเอียด ผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจรที่ถูกกฎหมายเป็นจัดเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพร ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ฉลากต้องมีเลขทะเบียนตำรับขึ้นต้นด้วย อักษร “G” โดยสามารถตรวจสอบได้ที่ www.fda.moph.go.th หัวข้อ ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ หรือ Oryor Smart Application และหากพบผลิตภัณฑ์ที่สงสัย ว่าจะผิดกฎหมาย สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่สายด่วน อย. 1556 หรืออีเมล 1556@fda.moph.go.th .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 163 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 20 ส.ค. – หนีไม่รอด รวบโจรสวมชุดไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทอง 163 บาท พบของกลางบางส่วนซุกตู้ลำโพงในบ้าน จากกรณีคนร้ายแต่งตัวคล้ายไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทอง พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน ก่อนกระโดดข้ามตู้หน้าร้าน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 163 บาท เป็นทองคำรูปพรรณประเภทสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท ประมาณ 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท, น้ำหนัก 3 บาท ประมาณ 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท ประมาณ 24 เส้น น้ำหนักรวม 48 บาท (รวมสร้อยข้อมือ 79 เส้น) ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ด้านหน้า […]

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“ทศพล” รุดมอบมาลัย “ภูมิธรรม” หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่

กองบินตำรวจ 20 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เตรียมแถลงจับยาเสพติดลอตใหญ่ “ทศพล” รุดมอบมาลัย หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 8.00 น. ที่กองบินตำรวจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางมาขึ้นเครื่อง เพื่อไปแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดล็อตใหญ่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตํารวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการ รมว.มหาดไทย ร่วมเดินทางด้วย ทั้งนี้เมื่อนายภูมิธรรมเดินทางมาถึง นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ที่ ครม. มีมติเมื่อ 19 ส.ค. แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำพวงมาลัยมามอบให้นายภูมิธรรมและปลัดกระทรวงมหาดไทย และร่วมเดินทางกับคณะด้วย โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รายงานสถานการณ์ยาเสพติดให้นายภูมิธรรมรับทราบ.-319.-สำนักข่าวไทย

มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง

กทม.19ส.ค.-มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำพู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” นั่งพ่อเมืองปากน้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง อาทิ นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ สมุทรปราการ นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าฯ ตาก เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ประชุม RBC ระดับเลขาฯ ไม่ยกเลิก หลังมีข่าวส่อแววล่ม

สระแก้ว 21 ส.ค.- ไม่ล่ม! การประชุม RBC ระดับเลขานุการ ยังไม่ยกเลิก กระบวนการหารือยังคงดำเนินต่อไป แม้ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวส่อล่ม เนื่องจากฝ่ายกัมพูชายังไม่เดินทางมาเข้าร่วม ภายหลังการประชุม คณะกรรมการร่วมชายแดนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 หลายฝ่ายจับตาไปที่การประชุมของกองทัพภาคที่ 1 ซึ่งจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.) แต่ปรากฏว่าวันนี้ เมื่อถึงเวลาประชุม RBC ระดับเลขานุการ ทางฝ่ายกัมพูชายังไม่ได้เดินทางมา บรรยากาศที่สโมสรนายทหาร มณฑลทหารบกที่ 19 จ.สระแก้ว การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย – กัมพูชา (RBC) สมัยวิสามัญ ซึ่งตามกำหนดในเวลา 14.00 น. จะมีการประชุม กองทัพภาคที่ 1 นำโดย พลตรี สุรวิชญ์ แดงจันทร์ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 เป็นประธานคณะทำงาน ฝ่ายไทย ขณะกัมพูชา นำโดย พลโท ซอ […]

ล่า 18 วัน รวบแล้วมือยิง “กำนันเล้น”

ตรัง 21 ส.ค.- เหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธสงครามเอ็ม 16 ยิงถล่มกำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิตคารถ เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดวันนี้ตำรวจรวบตัวคนร้ายได้แล้ว หลังหนีกบดานนานถึง 18 วัน พร้อมเตรียมสอบสวนหามูลเหตุจูงใจ ติดตามจากรายงาน -สำนักข่าวไทย

เสริมเขี้ยวเล็บ! ทัพเรือรับมอบปืนใหญ่ ระยะยิง 40 กม.

ชลบุรี 21 ส.ค.- กองทัพเรือเสริมเขี้ยวเล็บ! รับมอบปืนใหญ่ 155 มิลลิเมตร แบบอัตตาจร ระยะยิง 40 กม. เพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันและรักษาอำนาจอธิปไตยของประเทศ วันนี้ 21 ส.ค.68 ที่หน้ากองบัญชาการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ค่ายกรมหลวงชุมพร กองทัพเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พลเรือเอก ณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ (ผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ) รับมอบปืนใหญ่ ขนาด 155 มิลลิเมตร แบบอัตราจรล้อยาง จากศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ ศูนย์อุตสหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร จำนวน 6 กระบอก โดยมี พลเรือโท ธาดาวุธ ทัดพิทักษ์กุล รองเสนาธิการทหารเรือและประธานกรรมการบริหารโครงการจัดหาปืนใหญ่ฯ นายทหารชั้นผู้ใหญ่ ตลอดจนข้าราชการ กำลังพล เข้าร่วมในพิธี  การดำเนินโครงการจัดหาปืนใหญ่ ขนาด 155 มิลลิเมตร แบบอัตตาจร ล้อยาง (ATMG) นับเป็นการดำเนินการเพื่อสนับสนุนการเสริมสร้างกำลังรบหลักของ ทร. เพื่อให้ […]

แผ่นดินไหวนอกชายฝั่งเมียนมา เกิดจากรอยเลื่อนสะกาย ย้ำ กทม.ไม่กระทบโครงสร้าง

กรุงเทพฯ 21 ส.ค. – กรมทรัพยากรธรณี เผยเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 5.4 ความลึก 10 กม. เกิดจากการเคลื่อนตัวแนวระนาบของรอยเลื่อนสะกาย บริเวณนอกชายฝั่งตอนใต้ของเมียนมา ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 500 กม. ด้านสมาคมวิศวกรโครงสร้างฯ เตือนอย่าตื่นตระหนก คนกรุงบนตึกสูงรู้สึกสั่น แต่ไม่กระทบโครงสร้าง กรมทรัพยากรธรณีชี้แจงกรณีแผ่นดินไหวขนาด 5.4 ความลึก 10 กิโลเมตร เมื่อเวลา 09.58 น. ตามเวลาประเทศไทย บริเวณนอกชายฝั่งตอนใต้ของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 500 กิโลเมตร การตรวจสอบพบว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้ เกิดจากการเคลื่อนตัวของ “รอยเลื่อนสะกาย” แนวระนาบเหลื่อมขวา (right-lateral strike-slip fault) ซึ่งมีอัตราการเคลื่อนที่เฉลี่ยปีละ 2 เซนติเมตร รอยเลื่อนนี้เคยสร้างแผ่นดินไหวใหญ่หลายครั้ง อาทิ ปี 2473 ขนาด 7.3 มีผู้เสียชีวิตกว่า 500 คน และเมื่อ 28 […]