ยื่น 4 ข้อสธ.ดูแลหญิงตั้งครรภ์พ้นโควิด

สธ.27 ส.ค.-เครือข่ายภาคประชาชน บุก สธ. ยื่น4ข้อเรียกร้องดูแลหญิงตั้งครรภ์ ให้พ้นโควิด หลังพบเป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้ออัตราเสียชีวิตสูงกว่าคนปกติ แต่ยอดฉีดวัคซีนไม่ถึง 3% ซ้ำเจอปัญหา รพ.ไม่รับทำคลอด วอน สธ.กำชับ รพ.ดูแลรอบด้าน ตั้งแต่อยู่ในท้อง-คลอด-รักษา


ที่กระทรวงสาธารณสุข เครือข่ายภาคประชาชน นำโดย น.ส.ศรีไพร นนทรีย์ แกนนำกลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง น.ส.จรีย์ ศรีสวัสดิ์ หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมภาคีเครือข่าย มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล และนายชูวิทย์ จันทรส เลขาธิการมูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว กว่า10 คน เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ผ่าน นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอให้มีมาตรการเร่งด่วนแก้ไขปัญหาหญิงตั้งครรภ์ติดโควิด-19 ทั้งนี้เครือข่ายฯได้มีการแต่งกายด้วยชุดคลุมท้อง แสดงเชิงสัญลักษณ์ “ขอวัคซีนให้คนท้อง-อย่าเทอย่าทิ้งเรา” อีกทั้งได้เปิดคลิปเสียงหญิงตั้งครรภ์หลังติดโควิด-19 กำลังจะคลอด แต่ถูกโรงพยาบาลปฏิเสธการทำคลอด ทำให้ต้องใช้เวลาประสานหาโรงพยาบาลอยู่บนท้องถนนนานกว่า 2 ชั่วโมง

น.ส.ศรีไพร กล่าวว่า นับตั้งแต่มีการระบาดของโรคโควิดระลอกแรกเมื่อปี 63 จนถึงปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อแรงงานจำนวนมาก บางคนรายได้ลดลง บางคนต้องตกงานสูญเสียรายได้ ซ้ำร้ายบางคนต้องสูญเสียคนในครอบครัว แรงงานจำนวนมากต้องไปกู้หนี้ยืมสินเพื่อมาเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างที่มีคำประกาศปิดกิจการชั่วคราว โดยไม่ได้รับค่าชดเชย หลายคนตัดสินใจทำร้ายตัวเองดังที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ ยกตัวอย่างพื้นที่ปทุมธานีที่มีผู้ติดเชื้อ เสียชีวิตจำนวนมาก แต่สถานประกอบการบางแห่งกลับไม่มีมาตรการตรวจเชิงรุกหรือตรวจเจอก็ไม่มีเตียงรักษา และจากการสำรวจยังพบจำนวนหนึ่งไม่ได้เข้าระบบสาธารณสุข ทำให้ไม่ได้รับยา ไม่ได้รับการเอ็กซเรย์ปอด


“บริษัทบางแห่งมีมาตรการให้พนักงานกักตัว แต่เพียง 7 วันเท่านั้น ไม่เป็นไปตามมาตรการสาธารณสุข มีการเปิดบริษัทฯ ให้คนงานเข้าออกประตูด้านหลัง โดยไม่มีหน่วยงานรัฐเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่น่าห่วงคือหญิงตั้งครรภ์ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ได้รับการปกป้องเท่าที่ควร ไม่มีการแยกออกจากพื้นที่เสี่ยง ยังต้องเจอคนจำนวนมาก ทำให้มีจำนวนไม่น้อยติดโควิด และประสบปัญหาถูก รพ.ปฏิเสธการทำคลอด โดยระบุว่าไม่มีความพร้อมทำคลอดกรณีที่มีการติดโควิดด้วย ทำให้ผู้ป่วยและญาติต้องหา รพ.ทำคลอดกว่า4แห่ง บางรายที่ติดโควิดทำคลอดที่ รพ.เอกชนก็ถูกเรียกเก็บเงินกว่า150,000บาท นับเป็นการซ้ำเติมแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากโควิดอย่างมาก หลายคนเลือกใช้วิธีดูแลตัวเอง บางรายดีขึ้น แต่บางรายทรุด ถึงเสียชีวิต มีกรณีหนึ่งภรรยาเสียชีวิตระหว่างตั้งครรภ์ เคสนี้ใช้เวลาหลายวันกว่าจะได้รับการตรวจรักษา และต้องคลอดก่อนกำหนด รักษาอยู่หลายวันอาการไม่ดีขึ้น ปอดเสียหายรุนแรง สุดท้ายภรรยาก็เสียชีวิต ส่วนลูกที่เพิ่งคลอดไม่ได้ติดเชื้อจากแม่ ซึ่งทราบว่าพ่อเด็กต้องลาออกจากงานพาลูกกลับไปเลี้ยงที่ต่างจังหวัด เป็นเคสที่สะเทือนใจกันมาก” น.ส.ศรีไพร กล่าว

น.ส.จรีย์ กล่าวว่า เครือข่ายฯ มีข้อเสนอต่อกระทรวงสาธารณสุข ดังนี้ 1.ขอให้กำกับดูแล รพ.ที่รับฝากครรภ์ ไม่ควรปฏิเสธการทำคลอด-รักษาหญิงตั้งครรภ์ที่ติดโควิด-19 หากเกินศักยภาพที่ รพ.จะดูแลรักษาได้ ต้องมีเจ้าหน้าที่ดูแล ประสานต่อ ไม่ปล่อยให้ผู้ป่วยและครอบครัวไปหาสถานพยาบาลเอง และควรเร่งประชาสัมพันธ์การปฏิบัติตัว การดูแลหญิงตั้งครรภ์ที่ถูกต้องให้กว้างขวาง 2.เร่งฉีดวัคซีนให้หญิงอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไปให้ครอบคลุมมากขึ้น เนื่องจากพบว่าปัจจุบันมีการฉีดวัคซีนไม่ถึง 3% ในขณะที่อัตราการเสียชีวิตในหญิงตั้งครรภ์สูงถึง 2.5%

3.กรณีหญิงตั้งครรภ์ติดโควิด-19เสียชีวิต หรือลูกเสียชีวิต หรือเสียชีวิตทั้งแม่ทั้งลูก โรงพยาบาลต้องจัดให้นักสังคมสังเคราะห์ประเมิน และวิเคราะห์รายกรณี เพื่อประสานการช่วยเหลือ เยียวยาสภาพจิตใจครอบครัว ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นต้น และ 4.กระทรวงสาธารณสุขต้องเชื่อมต่อกับโรงงานต่างๆ ให้บริษัทฯ ตรวจคัดกรองเชิงรุกให้กับคนงานต่อเนื่องเพื่อแยกผู้ติดเชื้อฯ ออกมารักษาตามระบบป้องกันการแพร่กระจายสู่ผู้อื่น สนับสนุนให้แต่ละสถานประกอบการมีFactory isolation ที่มีมาตรฐาน โดยมีบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาลในการดูแลผู้ติดเชื้อ มีระบบการประสานส่งต่อคนงานที่มีอาการเริ่มรุนแรง รวมถึงเชื่อมโยงการทำ Home isolation ที่ถูกต้อง


นพ.โสภณ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า กระทรวงสาธารณสุขรับข้อเรียกร้องและเห็นด้วยทั้ง 4 ข้อ เพราะมีการประชุมก็ยกปัญหาการดูแลหญิงตั้งครรภ์ในช่วงสถานการณ์โควิด เพราะมีอัตราการเสียชีวิตมากกว่าปกติถึง 2.5 เท่า และไม่ใช่แค่ชีวิตเดียว ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ จึงต้องช่วยกันดูแลดังนั้นหากป่วยต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล ฝากท้องที่ไหนต้องคลอดที่นั่น หากเกินศักยภาพจะต้องดูแล ส่งต่อ สำหรับการรักษาจะใช้ยาเรมดิซีเวีย ซึ่งจะมีการกำชับให้มากขึ้นเพราะไม่อยากให้เกิดการสูญเสีย ทั้งนี้ ดีที่สุดคือการป้องกันโดยการฉีดวัคซีน ซึ่งขณะนี้หญิงตั้งครรภ์สามารถฉีดได้ที่คลีนิคต่างๆ ด้วย ส่วนเรื่องการทำงานนั้นได้มีการทำบับเบิลแอนด์ซีลอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กรมอนามัยได้จัดแนวทางการทำงานของหญิงตั้งครรภ์ เสนอต่อที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (ศปก.สธ.) พิจารณาออกข้อบังคับให้หญิงตั้งครรภ์ทำงานที่บ้าน (work from home) 100% จากเดิมที่เป็นเพียงมาตรการขอความร่วมมือเท่านั้น

ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า ตามกฎหมายกำหนดให้โรคโควิด -19 เป็นการเจ็บป่วยฉุกเฉิน สถานพยาบาลต้องให้การรักษา ปฏิเสธไม่ได้ หากเกินศักยภาพต้องดูแลประสานส่งต่อ หากฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ยังห้ามเรียกเก็บเงินค่ารักษาด้วย จากนี้จะมีการกำชับสถานพยาบาลเรื่องนี้มากขึ้น .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ศึกชิงนายก อบจ.เพชรบุรี แชมป์เก่ายังแรง

เลือกตั้งนายก อบจ.เพชรบุรี ไม่คึกคัก ผลไม่เป็นทางการ “ชัยยะ อังกินันทน์” แชมป์เก่า คะแนนนำทิ้งห่างคู่แข่ง ด้านเลขาฯ กกต. เผยภาพรวมทั้ง 3 จังหวัด คนมาใช้สิทธิน้อย คาดเบื่อเลือกตั้ง 2 รอบ

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

ลุ้นผลเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ขณะนี้การนับคะแนนตามหน่วยต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว อยู่ในขั้นตอนการรวมคะแนน ซึ่งในเขตเมือง ผลปรากฏว่าผู้สมัครจากพรรคประชาชนมีคะแนนนำ แต่อำเภอรอบนอก ตัวแทนพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำอยู่หลายหน่วยเลือกตั้ง