fbpx

ราชทัณฑ์เตรียมปล่อยผู้พ้นโทษ คดีพืชกระท่อม

กรมราชทัณฑ์ 24 ส.ค.-กรมราชทัณฑ์ เตรียมปล่อยตัวผู้พ้นโทษคดีความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อมหลัง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ฉบับที่ 8 เริ่มบังคับใช้วันแรก

กรมราชทัณฑ์ พร้อมปล่อยตัวผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อมคดีเดียว ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2564 ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2564 กำหนดให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป จึงทำให้เริ่มมีผลบังคับใช้ในวันนี้ (24 สิงหาคม 2564) เป็นวันแรก โดยมีการยกเลิกฐานความผิดที่เกี่ยวกับพืชกระท่อม จากการเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 ส่งผลให้บทกำหนดโทษเปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งผลต่อคำพิพากษาและการลงโทษจำเลย กล่าวคือ ให้ถือว่าผู้นั้นไม่เคยต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำความผิดนั้น หากยังรับโทษอยู่ก็ให้การลงโทษนั้นสิ้นสุดลง


กรมราชทัณฑ์ แจ้งว่า การที่พระราชบัญญัติฯ ดังกล่าวมีผลบังคับใช้ ส่งผลให้ผู้ต้องขังที่ถูกตัดสินจำคุกในฐานความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อมจะได้รับการพิจารณาปล่อยตัวพ้นโทษ หรือพิจารณาโทษจำคุกใหม่ตามแต่กรณี โดยผู้ต้องขัง ทั้งกลุ่มผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีและนักโทษเด็ดขาดที่กระทำความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อมคดีเดียว จะได้รับการปล่อยตัว ส่วนในรายที่กระทำความผิดคดีอื่นร่วมด้วย หากเป็นผู้ต้องขังระหว่างการพิจารณาคดี จะยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาคดีต่อไป ส่วนนักโทษเด็ดขาด จะได้รับการพิจารณาออกหมายจำคุกฉบับใหม่แทนหมายเดิม ซึ่งกรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการส่งรายชื่อและคำร้องของผู้ต้องขังไปยังศาลที่ออกหมายจำคุก เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปัจจุบัน มีผู้ต้องขังที่กระทำความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อมในเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ ทั้งสิ้น 1,297 ราย (เป็นนักโทษเด็ดขาด 1,038 ราย และผู้ต้องขังระหว่างฯ 259 ราย) โดยเป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อมคดีเดียว และจะได้รับการปล่อยตัว จำนวน 121 ราย (เป็นนักโทษเด็ดขาด 20 ราย และผู้ต้องขังระหว่างฯ 101 ราย) ซึ่งอยู่ระหว่างรอหมายศาลเพื่อปล่อยตัว และที่กระทำความผิดคดีอื่นร่วมด้วย จำนวน 1,176 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาคดีและออกหมายจำคุกฉบับใหม่

ทั้งนี้ การปล่อยตัวผู้ต้องขังทุกราย เป็นไปตามแนวทางการปล่อยตัวผู้พ้นโทษในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กรมราชทัณฑ์อย่างเคร่งครัด ทั้งกระบวนการตรวจหาเชื้อ กักโรค รักษา และการกักตัว โดยผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวกลับภูมิลำเนาทุกรายจะต้องปลอดเชื้อ และต้องไม่มีการปล่อยตัวผู้พ้นโทษที่ติดเชื้อเพื่อทำการกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) โดยเด็ดขาด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบรอง ผอ.โรงเรียนดัง หน.แก๊งค้ายา พบข้าราชการเป็นลูกค้าเพียบ

รวบหัวหน้าแก๊งค้ายาเป็น “รอง ผอ.” โรงเรียนดังย่านปากเกร็ด พร้อมสมุน ขยายผลพบลูกค้าเป็นข้าราชการอีกจำนวนมาก

คนไทย-คนจีนขับรถไล่ชนกันหน้าคลับดังเมืองพัทยา คาดหึงหวงสาวที่มาด้วย

รถตู้ 3 คัน และรถฟอร์จูนเนอร์ 1 คัน ขับไล่ชนกันไปมา บริเวณหน้าคลับแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา พบเป็นศึกระหว่างคนไทย 1 กลุ่ม และคนจีน 1 กลุ่ม สาเหตุคาดมาจากคนจีนหึงหวงแฟนสาวที่มาด้วย

ปัญหาต่างชาติในภูเก็ต ตอนที่ 3

ปัจจุบันการเข้ามาทำธุรกิจรถเช่าของต่างชาติที่ใช้คนไทยเป็นนอมินีในภูเก็ตมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดจากการขับขี่รถของชาวต่างชาติในภูเก็ตก็มากขึ้นด้วย ปัญหานี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่โยงใยไปถึงเรื่องของภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยทางการท่องเที่ยว ไม่เฉพาะแค่ภูเก็ต แต่เป็นของเมืองไทยด้วย

ศาลอาญาทุจริตฯ ยกฟ้อง คุณหญิงพรทิพย์ และพวก ในคดี GT200

ศาลอาญาทุจริตฯ ยกฟ้อง “คุณหญิงพรทิพย์” และพวกรวม 10 คน ในคดีจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด GT200 ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์
ระบุไม่พบมีมูลความผิด ทุจริต มีการแสวงหาประโยชนแก่ตนเองและผู้อื่นโดยมิชอบ

ข่าวแนะนำ

สยอง! เครนก่อสร้างถล่ม เสียชีวิตหลายราย

เครนถล่มในไซต์ก่อสร้างบริษัทจีนแห่งหนึ่งใน อ.ปลวกแดง จ.ระยอง เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตแล้ว 6 ราย บาดเจ็บอีกหลายราย กู้ภัยถูกปิดล้อม ยังไม่ยอมให้นำศพออกมา

นายกฯ ขอให้เชื่อมั่น นำ ปท.แก้วิกฤติ เหน็บบางคนนั่งบนหอคอย  

“เศรษฐา” ขอให้เชื่อมั่นในตัวนายกฯ เข้าใจธุรกิจ พร้อมนำประเทศแก้วิกฤติ เหน็บบางคนนั่งบนหอคอย ลงมามือเปื้อนดิน ตีนเปื้อนโคลนบ้าง น้อยใจ รมว.คลัง ไม่มีอำนาจลดดอกเบี้ย  

“บิ๊กต่อ” ส่งทนายยื่นฟ้อง “ทนายตั้ม” แฉโยงเส้นเงินพนัน

“บิ๊กต่อ” ส่ง “อัจฉริยะ” เดินหน้าชน “ทนายตั้ม” ยกแรกยื่นฟ้องฐานหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท หลังถูกกล่าวหาว่ามีเส้นเงินจากเว็บพนันโยงคนใกล้ชิด ผบ.ตร.