สำนักข่าวไทย 23 ส.ค.-รมว.ยุติธรรม ควงเลขา ป.ป.ส. ลงพื้นที่ 3 จังหวัดใต้ คิกออฟปลดล็อกพืชกระท่อมพรุ่งนี้ ย้ำทำกฎหมายเพื่อประโยชน์ของประชาชน ใช้ได้เสรีตามวิถีชีวิตแต่อย่าไปทำ 4×100 หวังผลักดันเป็นพืชเศรษฐกิจส่งออกสร้างรายได้ชาวบ้าน
เมื่อเวลา 10.00 น. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน พร้อมด้วยนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. เดินทางตรวจเยี่ยมพื้นที่ 3 จังหวัดพื้นที่นำร่องพืชกระท่อม คือ บ้านนาสาร ต.น้ำพุ จ.สุราษฎร์ธานี ต.คลองกระบือ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช และ ต.นาพละ อ.เมือง จ.ตรัง เพื่อขอบคุณประชาชนที่สนับสนุนให้กระทรวงยุติธรรม ยกเลิกพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดได้สำเร็จ และมอบแนวนโยบายเกี่ยวกับพืชกระท่อมในอนาคต โดยมีนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ข้าราชการ หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนและชาวบ้านในพื้นที่ร่วมงาน ทั้งนี้ก่อนเดินทางนายสมศักดิ์ และคณะได้ทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยชุดตรวจ ATK ซึ่งผลออกมาเป็นลบทั้งหมด และในงานได้มีมาตรการคัดกรองและควบคุมโรคอย่างเข้มงวด
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า พืชกระท่อมเดิมเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท5 แต่หลังจากที่พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2564 ถอดพืชกระท่อมออกจากการเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2564 และมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 90 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งจะตรงกับวันพรุ่งนี้ประชาชนสามารถนำพืชกระท่อมมาใช้ประโยชน์ในรูปแบบวิถีชาวบ้านได้โดยไม่ผิดกฎหมาย รวมถึงการใช้พืชกระท่อมทางการแพทย์ การศึกษาวิจัย ในขณะนี้ ได้มีการเสนอร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อม พ.ศ…. ซึ่งอยู่ในกระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งร่างกฎหมายมีหัวใจการกำหนดมาตรการกำกับดูแลและป้องกันการนำพืชกระท่อมไปใช้ในทางที่ผิดภายหลังถอดให้โทษ โดยเฉพาะควบคุมไม่ให้เด็กและเยาวชนนำกระท่อมไปใช้ในทางทีผิด และให้ชาวบ้านเข้าถึงการปลูกและแปรรูปพืชกระท่อมได้ สามารถรวมกลุ่มสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน หรือเป็นรายบุคคลเพื่อจำหน่ายเองได้ ดังนั้น พ.ร.บ.พืชกระท่อม ฉบับนี้จึงถือเป็นกฎหมายที่มาจากวิถีชาวบ้านความต้องการของประซาชนโดยประชาชน เป็นผู้ได้ประโยชน์สูงสุดอย่างแท้จริง
“วันนี้ผมดีใจไม่แพ้กับพี่น้องชาวใต้ ซึ่งวันพรุ่งนี้ (24 ส.ค.) เราจะได้กระท่อมเสรี เป็นความดีใจและภาคภูมิใจร่วมกันกันที่เราได้ร่วมทำงานหนักกันมาโดยตลอด ผมลงมาที่นี่หลายครั้งตั้งแต่เราได้ดำเนินการปลดล็อก และได้มาพูดคุยหวังให้พืชกระท่อมเป็นพืชเศรษฐกิจ ตอนนี้เรากำลังปลูกเสรี ใช้เสรี แต่อย่าเอาไปผสมยาเสพติดทำเป็น 4×100 เพราะมีความผิด ผมขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมใจเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน หากเราไม่ร่วมมือกันโอกาสปลดล็อกก็คงยาก เราปฏิบัติดีประพฤดีทำให้หลายฝ่ายเห็นจนสนับสนุนเรา ในสมัยก่อนรัฐบาลก็เคยคิดจะปลดล็อกแต่ทำไม่สำเร็จ จนผมเข้ามาเป็น รมว.ยุติธรรม ได้เห็นแนวทาง และเห็นปัญหาคนล้นคุก มีคนที่เกี่ยวข้องกับคดีพืชกระท่อมเยอะ ซึ่งตนได้นำความรู้ของรุ่นพี่ที่ทำไม่สำเร็จ ทำให้เข้าถึงพี่น้องประชาชน และที่ผ่านมามี ส.ส.หลายท่านมีความคิดที่จะปลดล็อก เราจึงร่วมแรงร่วมใจกัน”นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า แต่สิ่งหนึ่งที่ตนตั้งใจให้พืชกระท่อมเป็นพืชเศรษฐกิจ เราจะทำอย่างไร พืชกระท่อมมีสรรพคุณทางยาสูง วันนี้มีการผลิตผงจากใบแห้งขายสหรัฐ ตรงนี้จะเป็นเศรษฐกิจใหม่ที่ขายต่างประเทศได้ เราต้องทำให้ได้ การดำเนินการต่างๆ ต้องทำให้สอดคล้องกับราคาตลาด เราไม่ควรใช้ในครัวเรือนอย่างเดียวแต่ต้องทำเป็นพืชเศรษฐกิจ หากในภาครัฐได้จัดระเบียบการปลูก การผลิต เป็นอุตสาหกรรมให้เรียบร้อย ตนเชื่อว่าประเทศไทยจะเป็นมหาอำนาจได้ต่อไป และที่ชาวบ้านยกย่องตนเป็นบิดาแห่งพืชกระท่อมไทย ผมคิดว่า น่าจะเป็นนายสงคราม บัวทอง กำนัน ต.น้ำพุ มากกว่า ที่เป็นผู้ริเริ่มและผลักดันมานานแล้ว ทั้งนี้ในขณะนี้ในส่วนของกรมราชทัณฑ์มีผู้ต้องขังคดีพืชกระท่อม 1,038 ราย ที่รอหมายศาลปล่อยตัว ส่วนในชั้นอัยการที่กำลังพิจารณาคดีมี 9,000 คดี ในชั้นสอบสวนของตำรวจมี 2,400 คดี ซึ่งทั้งหมดนี้จะรับการปล่อยตัวและยกเลิกคดีทั้งหมด
จากนั้นได้มีการมอบใบประกาศเกียรติคุณ ให้แก่ผู้สนับสนุนพื้นที่นำร่องในการควบคุมพืชกระท่อม โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน 189 คน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางชาวบ้าน ได้ให้วงฌา-มา แต่งเพลงเพื่อขอบคุณรัฐบาลและนายสมศักดิ์ ที่ช่วยปลดล็อกพืชกระท่อมจนสำเร็จ โดยมีชื่อเพลงว่า “24 สิงหาชาวประชาเฮโล” .-สำนักข่าวไทย