กทม. 21 ส.ค.-ศูนย์รับวัคซีนธรรมศาสตร์ ปรับแผนฉีดวัคซีนแบบผสม หลังมีแอสตราเซเนกาฉีดได้แค่พรุ่งนี้ ขณะประชาชนแห่ลงทะเบียนรับวัคซีนแบบผสมรอบ 2 เต็มตั้งแต่เที่ยง
ผศ.นพ.อาทิตย์ บุญยรางกูร รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รับวัคซีนโควิด-19 ธรรมศาสตร์รังสิต เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเปิดลงทะเบียนผู้สนใจฉีดวัคซีนแบบผสมยี่ห้อ ให้กับกลุ่มคนที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไปตั้งแต่ 19-22 สิงหาคม 64 จำนวน 10,000 คน ผ่านคิวอาร์โค้ด หลังเปิดลงทะเบียนเพียง 1 วัน มีผู้ลงทะเบียนจนเต็มจำนวน ในจำนวนนี้มี 4,000 คนที่ลงทะเบียนผ่านคิวอาร์โค้ดแล้ว ไม่สามารถลงทะเบียนผ่านหมอพร้อมได้ เพราะไม่ประสงค์จะรับซิโนแวคเป็นเข็ม 1 สแกนจองมา และระบุว่าไม่ประสงค์ลงทะเบียนในระบบหมอพร้อม บางคนจองวัคซีนในหมอพร้อมที่อื่น หรือวันอื่นอยู่แล้ว จึงไม่สามารถลงทะเบียนซ้ำได้ ทำให้ต้องรอยืนยันอีกครั้ง ขณะเดียวกันเมื่อเวลา 08.30 น. ของวันนี้ (21 ส.ค.64) ได้มีการเปิดลงทะเบียนรอบ 2 เพิ่มอีก 5,000 คน ล่าสุดพบว่า 12.00น. ที่ผ่านมา มีผู้ลงทะเบียนเต็มจำนวนแล้วเช่นกัน โดยผู้ที่ลงทะเบียนจะได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวค เข็ม 1 และได้รับแอสตราเซเนกาเป็นเข็ม 2 ระหว่างวันที่ 23-27 สิงหาคม 64
ผู้อำนวยการศูนย์รับวัคซีนวิด-19 ธรรมศาสตร์รังสิต ระบุสาเหตุที่ต้องปรับการฉีดวัคซีน มาใช้การฉีดแบบผสมยี่ห้อ เนื่องจากวัคซีนแอสตราเซเนกาที่ได้รับจัดสรรมา จะมีฉีดให้กับประชาชนได้ถึงแค่วันพรุ่งนี้เท่านั้น (22 ส.ค.64) ทำให้ต้องตัดสินใจปรับแผนการฉีด 1 สัปดาห์ ระหว่างรอจัดสรรวัคซีนแอสตราเซเนกามาเพิ่ม ไม่เช่นนั้นจะต้องปิดศูนย์ฉีดชั่วคราว อาจทำให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นและสับสนได้
ผศ.นพ.อาทิตย์ ย้ำว่าทางศูนย์ยังคงยึดแนวทางการฉีดยี่ห้อเดียวกัน 2 เข็ม เพราะเป็นแนวทางที่มีข้อมูลทางวิชาการรองรับมากกว่า ในขณะที่การฉีดแบบผสมยี่ห้อ แม้จะมีการรับรองถึงประสิทธิภาพการสร้างภูมิคุ้มกันได้ดี และยังไม่มีรายงานผลข้างเคียง แต่ยังถือว่ามีข้อมูลน้อยมาก ซึ่งหากได้รับการจัดสรรวัคซีนแอสตราเซเนกามาเพิ่ม ก็พร้อมกลับมาใช้แนวทางฉีดแบบเดิม แต่หากหลังวันที่ 27ส.ค.64 ยังไม่มีวัคซีนแอสตราเซเนกา อาจจะต้องกลับมาทบทวนแนวทางอีกครั้ง
ด้าน นพ.พฤหัส ต่ออุดม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เปิดเผยว่าศูนย์รับวัคซีนธรรมศาสตร์รังสิต ยืนยันแนวทางที่จะฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาทั้ง 2 เข็มมาตลอดนับตั้งแต่เปิดศูนย์ เมื่อ 7 มิ.ย.64 โดยได้รับการจัดสรรวัคซีนจากกระทรวง อว.และคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.ปทุมธานี ซึ่งการจัดสรรวัคซีนในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค. ไม่มีปัญหา แต่เริ่มสะดุดในช่วงเดือนสิงหาคม ที่วัคซีนมาไม่ได้ตามเป้า จนกระทั่งวัคซีนกำลังจะหมดในวันที่ 22 ส.ค.นี้ ทางศูนย์ได้รับการติดต่อจากหน่วยงานที่จัดสรรวัคซีนว่า ได้รับปากว่าจะเร่งจัดสรรแอสตราเซเนกามาให้เพิ่มเติม หลัง 27 ส.ค.64 แต่ยังไม่ได้ระบุถึงจำนวน และวันเวลาที่จะได้รับชัดเจน ทำให้ช่วงนี้จึงต้องปรับเป็นการฉีดผสมยี่ห้อไปก่อน
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ระบุว่าการที่วัคซีนแอสตราเซนกามีไม่พอ จนต้องปรับแผนการฉีดเป็นแบบผสมแล้ว ยังกระทบกับประชาชนที่ลงทะเบียนก่อนหน้านี้ กว่า 10,000 คน ที่รอฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา เข็ม 1 ในช่วง 23-27 ส.ค.64 ต้องเลื่อนออกไปอีกประมาณ 2 สัปดาห์ นอกจากนี้วัคซีนลอตใหม่ที่รอจัดสรรมา จะต้องแบ่งสัดส่วนในการฉีด ทั้งฉีดให้กลุ่มแอสตราเข็ม 1 และยังต้องฉีดผู้ที่จะเข้ารับวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็ม 2 ประมาณ 2,000 คนต่อวัน ที่จะเริ่มฉีดในวันที่ 30 ส.ค.64 ซึ่งจะทำให้การบริหารจัดการมีความยุ่งยากขึ้น
ศูนย์รับวัคซีนโควิด-19 ธรรมศาสตร์รังสิต ให้บริการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 7 มิ.ย.64 มีศักยภาพการฉีดได้มากสุด 3,000 คน/วัน ฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 127,000 คน เป็นวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็ม1 กว่า 120,000 คน เข็ม 2 กว่า 7,000 คน แต่มียอดลงทะเบียนในกลุ่มที่รอรับการฉีดวัคซีนแอสตราทั้งเข็ม 1 และ 2 อีกกว่า 400,000 คน.-สำนักข่าวไทย