กรมการแพทย์ยันระบบดูแลผู้ติดเชื้อโควิดที่บ้านพร้อมรองรับผู้ติดเชื้อ

กทม. 19 ส.ค.-กรมการแพทย์ไม่หวั่นใช้ชุดตรวจ ATK แล้วจะเจอผู้ติดเชื้อโควิดจำนวนมากจนระบบ Home Isolation, Community Isolation รับมือไม่ไหว ชี้ระบบบริการสามารถเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้ป่วยจำนวนมากๆ ได้ ในทางกลับกันยิ่งตรวจเจอเร็วก็แยกแยกตัวผู้ติดเชื้อได้เร็ว ควบคุมโรคดีขึ้น พร้อมเตรียมดึง HA เข้ามาร่วมประเมินคุณภาพหน่วยบริการที่ดูแลผู้ป่วยแบบ Home Isolation เพื่อการันตีคุณภาพการดูแลรักษา

นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวในการเสวนาออนไลน์ “Home Isolation ทางรอดวิถีใหม่ ทำอย่างไรให้รอดจริง” เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2564 ที่ผ่านมาว่า ในช่วงนี้ก็มีนโยบายการใช้ชุดตรวจ Antigen test kit หรือ ATK เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้เร็วขึ้น ซึ่งจะช่วยให้สามารถแยกตัวผู้ติดเชื้อออกจากคนที่ไม่ติดเชื้อได้เร็ว อย่างไรก็ดี ก็มีบางส่วนที่กังวลว่าหากใช้ ATK ตรวจแล้วเจอผู้ติดเชื้อจำนวนมากๆ ระบบการดูแลแบบ Home Isolation, Community Isolation จะรองรับได้ไหวหรือไม่ ประเด็นนี้ยืนยันว่าทางกรมการแพทย์และฝ่ายที่เกี่ยวข้อง สามารถเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้ป่วยจำนวนมากๆได้ เช่น การใช้บุคลากรจากโรงพยาบาลต่างจังหวัดมาช่วยทำ Telemedicine ติดตามอาการผู้ป่วยได้ โดยให้ส่วนกลางจัดการเรื่องการจัดส่งอุปกรณ์และยาต่างๆให้ หรือทาง กทม.เอง ก็มีการจัดตั้ง Community Isolation ประมาณ 60 แห่งและเท่าที่ติดตามสถานการณ์พบว่ายังมีเตียงว่างอยู่ หรือในส่วนของการรองรับผู้ป่วยสีเหลือง ทางกรมการแพทย์คาดว่าจะสามารถเพิ่มเตียงสนามหรือ Hospitel ได้อีก 2,000-3,000 เตียง ภายในสิ้นเดือนนี้ ดังนั้นจึงไม่ห่วงว่าการตรวจ ATK แล้วเจอผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ในทางกลับกัน การตรวจด้วย ATK จะช่วยแยกคนไข้ได้เร็วและควบคุมโรคได้ดีขึ้น


นพ.สมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า โดยหลักการเมื่อตรวจ ATK แล้วผลเป็นบวก กระบวนการต่อไปคือการเข้าสู่ระบบการดูแลแบบ Home Isolation, Community Isolation โดยทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จะสนับสนุนอาหาร 3 มื้อ เครื่องวัดอุณหภูมิ เครื่องวัดออกซิเจนในเลือด ยา และมีแพทย์ติดตามอาการผ่านระบบการดูแลผู้ป่วยทางไกล ซึ่งปัจจุบันมีคนไข้ที่เข้าระบบการดูแลแบบ Home Isolation, Community Isolation แล้วประมาณ 7-8 หมื่นคน และพบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรอเตียงที่เคยสูงถึงหลักหมื่น ปัจจุบันลดจำนวนลงเรื่อยๆ หรือตัวเลขระยะเวลาการรอเตียงของผู้ป่วยสีเหลือง-แดง ที่มากกว่า 1 วัน ก็ลดลงกว่า 50% ข้อมูลเหล่านี้คือสิ่งที่สะท้อนว่ากระบวนการ Home Isolation สามารถเข้ามาแบ่งเบาภาระเตียงในโรงพยาบาลได้อย่างดี

นอกจากนี้ กรมการแพทย์พยายามเน้นย้ำกับหน่วยบริการในเรื่องคุณภาพการดูแลในระบบ Home Isolation เพราะที่ผ่านมายอมรับว่าหลังจากจับคู่ผู้ป่วยเข้า Home Isolation แล้วต้องส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ อาหาร ยา ไปให้ผู้ป่วย เพราะพอลงไปถึงระดับปฏิบัติในพื้นที่ เช่น คลินิกชุมชนอบอุ่น ก็ยังมีความลักลั่นกันอยู่ ในส่วนนี้ได้มีการหารือกันว่าจะดึงสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (HA) มาทำการประเมินคุณภาพในทุกๆระดับ ทั้งโรงพยาบาลและคลินิกชุมชนอบอุ่น ซึ่งจะเป็นหลักประกันใน 2 ส่วนคือ กรณีผู้ป่วยมีอาการแย่ลงหน่วยบริการจะต้องทราบ และช่วยในเรื่องการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ


ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ภารกิจหลักของ สปสช.คือการสนับสนุนงบประมาณแก่หน่วยบริการ เช่นการสนับสนุนอาหาร 3 มื้อ เครื่องวัดอุณหภูมิ เครื่องวัดออกซิเจน ยาต่างๆ รวมทั้งให้สายด่วน 1330 ช่วยจับคู่ผู้ป่วยกับหน่วยบริการ ตลอดจนการส่งยาเบื้องต้นระหว่างผู้ป่วยรอจับคู่กับหน่วยบริการ ขณะที่ในส่วนของการใช้ชุดตรวจ ATK นั้นก็จะเป็นกระบวนการหนึ่งที่จะทำให้ค้นหาผู้ป่วยได้เร็วขึ้นเมื่อเทียบกับการตรวจแบบ RT-PCR

“เมื่อมีนโยบายจะใช้ ATK ทาง สปสช.ก็ได้เตรียมงบประมาณจัดซื้อ ATK สำหรับให้ประชาชนตรวจด้วยตัวเอง อย่างไรก็ดี ขั้นตอนในขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดซื้อโดยองค์การเภสัชกรรม (อภ.) แต่ที่ผ่านมาอาจมีคำถามเรื่องคุณภาพผลิตภัณฑ์ ดังนั้นขอเวลาให้ทีมวิชาการได้สร้างความมั่นใจ และเมื่อจัดซื้อเสร็จแล้ว สปสช.จะรีบกระจาย ATK โดยขณะนี้แม้ชุดตรวจยังไม่มา แต่ก็วางแผนจัดส่งไปตามโรงพยาบาล ศูนย์บริการสาธารณสุข คลินิกชุมชนอบอุ่น หรือแม้แต่ร้านยา หรือแม้แต่การส่งทางไปรษณีย์หรือให้ Rider ขับไปส่ง โดยเน้นในพื้นที่สีแดงที่มีการระบาดมากๆก่อน” นพ.จเด็จ กล่าว

นพ.จเด็จ กล่าวด้วยว่า เมื่อมีการจัดซื้อและจัดส่งให้ประชาชนแล้ว ในกรณีที่ตรวจพบว่ามีผลเป็นบวก วิธีที่ง่ายที่สุดคือติดต่อกลับไปยังหน่วยบริการที่ส่งชุดตรวจมาให้ ทางหน่วยบริการก็จะประสานให้ผู้ป่วยรายนั้นๆเข้าสู่การดูแลแบบ Home Isolation หรืออาจโทรสายด่วน 1330 ต่อ 14 หรือเว็บไซต์ของ สปสช. https://crmsup.nhso.go.th/#TicketHI หรือไลน์ สปสช. เพิ่มเพื่อนที่ @nhso ก็ได้


ขณะที่ พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวถึงแนวทางการใช้สมุนไพรในการดูแลผู้ติดเชื้อในระบบ Home Isolation ว่า ในกรณีที่ผู้ติดเชื้อมีร่างกายแข็งแรง แพทย์ผู้ดูแลสามารถพิจารณาจัดยาสมุนไพรให้ได้หลายตัว โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่มใหญ่ 1.กลุ่มยาลดไข้ บรรเทาอาการปวดเมื่อย อาทิ ยาเขียวหอม ยาจันทน์ลีลา ยาประสานจันทน์แดง ยาห้าราก 2.บรรเทาอาการในระบบทางเดินหายใจ เช่น น้ำมูกไหล ไอ เจ็บคอ ได้แก่ ยาแก้ไอผสมกานพลู ยาแก้ไอผสมมะขามป้อม ยาแก้ไอผสมมะนาวดอง ยาตรีผลา 3.บรรเทาอาการในระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ท้องอืดท้องเฟ้อ ได้แก่ น้ำขิง และ 4.อาการอื่นๆ เช่น อ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ อาทิ ยาโกฏจุฬารัมภา เป็นต้น อย่างไรก็ดี ต้องย้ำว่ายาเหล่านี้ต้องบอกว่าเป็นยาที่ใช้บรรเทาอาการเท่านั้น และกรณีที่มีการลือกันว่าทานสมุนไพรตัวนั้นตัวนี้แล้วจะป้องกันโควิด-19 ได้ ขอยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีสมุนไพรตัวใดที่มีการยืนยันว่าป้องกันโควิด-19 ได้ แต่ในแง่การรักษาที่มีการศึกษาแล้วว่าช่วยได้คือฟ้าทะลายโจร และอีกตัวที่มาแรงและอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลการศึกษาในมนุษย์คือกระชาย

“ในส่วนฟ้าทะลายโจรนั้น สามารถใช้ในกลุ่มที่ทำ Home Isolation ที่อาการไม่รุนแรง แต่มีข้อพึงระวังคือหากผู้ป่วยมีโรคประจำตัวเดิม เช่น โรคไต อาจเกิดปัญหาได้ ดังนั้นผู้ป่วยโรคไตต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้สมุนไพรทุกชนิด รวมทั้งผู้ที่เป็นโรคตับ ก็ต้องระวังการใช้และควรปรึกษาแพทย์ก่อน ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อสงสัยในการใช้ยาสมุนไพร สามารถเข้าไปที่ไลน์ @FAH FIRST AID โดยจะมีเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมให้” พญ.อัมพร กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

บุรีรัมย์สั่งอพยพชาวบ้านเพิ่ม 3 อำเภอ

บุรีรัมย์ 27 ก.ค.-บุรีรัมย์ ประกาศให้ชาวบ้านอพยพเพิ่มอีก 3 อำเภอ หลังพื้นที่ปะทะและรัศมีอาวุธขยายไปไกลขึ้น ทั้งวัด โรงเรียน ศูนย์พักพิงชั่วคราว และ รพ.อีก 2 แห่ง ต้องอพยพผู้ป่วยด่วน เหลือเพียงหน่วยรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ช่วงเวลาบ่าย 2-3 โมง เมื่อวานนี้ ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีเสียงปืน เสียงระเบิดดังเป็นระยะ และมีกระสุนปืนใหญ่ ตกในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จึงประกาศให้ชาวบ้านในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.ละหานทราย อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.โนนดินแดง อพยพไปอยู่ตามบ้านญาติ หรือศูนย์พักพิงที่ห่างไกลจากรัศมีวิถีกระสุนปืนใหญ่ และอาวุธหนัก บางครัวเรือนก็มีลูกหลานมารับออกไปแล้ว ส่วนชาวบ้านที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ทางเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ก็ได้จัดรถไปช่วยอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ด้วย ด้าน โรงพยาบาลในพื้นที่ 2 แห่ง คือ รพ.ละหานทราย และ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ก็มีการอพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลเช่นกัน รวมถึงให้แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ถอนกำลังออกจากพื้นที่ เหลือไว้แค่หน่วยที่จะรับผู้ป่วยฉุกเฉิน […]

Trump says he is seeking a ceasefire between Thailand, Cambodia

“ทรัมป์” โยงเรื่องการค้ากับหยุดยิงไทย-กัมพูชา

เอดินบะระ 27 ก.ค.-  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ พูดคุยกับผู้นำของทางการไทยและกัมพูชา โดยโยงเรื่องการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐกับเรื่องหยุดยิงของทั้ง 2 ประเทศ ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ในระหว่างการเยือนสกอตแลนด์เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ไทยและกัมพูชา 3 โพสต์ติดต่อกัน โพสต์แรกระบุว่า ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี มาเนตกัมพูชาและนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษานายกรัฐมนตรีของไทย เรื่องการหยุดยิงและยุติสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ สหรัฐซึ่งกำลังหารือทางการค้ากับทั้ง 2 ประเทศอยู่ในขณะนี้ไม่ต้องการทำข้อตกลงกับประเทศใดประเทศหนึ่งหากยังมีการสู้รบกันอยู่ กัมพูชาจะแสดงท่าทีเรื่องหยุดยิงหลังจากที่เขาได้คำตอบจากไทยในเรื่องนี้ นายทรัมป์ระบุด้วยว่า สถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาทำให้เขานึกถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างปากีสถานกับอินเดียที่ได้รับการยับยั้งเป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้นราว 1 ชั่วโมง ประธานาธิบดีทรัมได้โพสต์ข้อความใหม่ว่า ได้สนทนากับรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ฝ่ายไทยต้องการหยุดยิงและสันติภาพเช่นเดียวกับกัมพูชา และหลังจากนั้นไม่นานผู้นำสหรัฐโพสต์ข้อความที่ 3 ว่า เพิ่งเสร็จสิ้นการสนทนากับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและแจ้งเรื่องที่ได้หารือกับทางการไทย ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการหยุดยิงและสันติภาพ และต้องการกลับมาเจรจาทางการค้ากับสหรัฐ โดยตกลงจะพบหารือและหาทางหยุดยิงโดยทันที ด้านนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย เปิดเผยกับสื่อที่เมืองปุตราจายาเมื่อวานนี้ว่า จะเดินหน้าผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งยังคงมีการยิงปะทะกันอยู่ เขาได้ขอให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียประสานงานกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชา และหากเป็นไปได้ เขาจะเข้าไปประสานงานด้วยตัวเองเพื่อหยุดยั้งการสู้รบ รอยเตอร์รายงานว่า กัมพูชาสนับสนุนข้อเสนอของนายอันวาร์ ส่วนไทยระบุว่า เห็นชอบในหลักการ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ “กัมพูชา” เปิดฉากยิงทหารไทยแต่เช้าตรู่

กทม. 27 ก.ค.-โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ กัมพูชาโจมตีทหารไทยแต่เช้าตรู่ หลัง “ทรัมป์” ขอให้หยุดยิง พบบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากจรวดBM-21 เมื่อวันที่ 27 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือ นายกฯ กัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ หากไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาเรื่องภาษีสหรัฐนั้น ว่า กัมพูชายังไม่หยุดยิง และยังตอบโต้มาอยู่ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ มีจรวดตกนอกเขตปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ เมื่อเวลา 04.30 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงทหารไทย ด้วยเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 แต่ด้วยเป้าหมายของทางกัมพูชาไม่ใช่พื้นที่ทางทหาร แต่เป็นบ้านเรือนประชาชน รวมถึงสถานพยาบาล และชุมชน โดยเมื่อ เวลา 06.30 น. กระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านตาโสร์ ม.10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สรินทร์ […]

“ภูมิธรรม” เผยเห็นชอบข้อเสนอ “ทรัมป์” แต่กัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผยคุย “ทรัมป์” เห็นชอบข้อเสนอหยุดยิง แต่ต้องการเห็นความตั้งใจจริงของกัมพูชาและเร่งหารือทวิภาคี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านfacebook Phumtham Wechayachai เมื่อคืนวานนี้ (27 ก.ค.) ว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที เพื่อยุติความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นบริเวณชายแดน ฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีจากสหรัฐฯ พร้อมยืนยันว่า “ในหลักการ ฝ่ายไทยเห็นชอบต่อการหยุดยิง” อย่างไรก็ดี ไทยยังต้องการเห็น “ความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว” ไทยจึงได้ขอให้สหรัฐฯ ช่วยถ่ายทอดจุดยืนนี้ไปยังกัมพูชา โดยเสนอให้มีการหารือแบบทวิภาคีโดยเร็วที่สุด และให้กัมพูชาแสดงความจริงจังและจริงใจ เพื่อกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนในการหยุดยิง ซึ่งจะนำไปสู่การยุติข้อพิพาทอย่างสันติและยั่งยืนในระยะยาว การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของนานาชาติในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา สำหรับข้อความที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai ระบุว่า “เมื่อครู่ที่ผ่านมา ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที ผมได้กล่าวขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีของฝ่ายสหรัฐฯ และยืนยันว่า […]