อย-อภ. ร่วมแจงชุดตรวจ ATK จีนมีคุณภาพ ไม่อาจล็อกสเปกทางอ้อมตามคำสั่งได้

สำนักข่าวไทย 13 ส.ค.- อย. แจงหลักเกณฑ์มาตรฐานชุดตรวจ ATK ก่อนรับรอง ตรวจทั้งแล็บและเอกสาร ให้ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ก่อน มีมาตรฐานเท่าสากล ชี้ปม ATK ของจีน ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน FDA USA เพราะไม่ได้วางขายที่สหรัฐ ส่วน อภ.เผยไม่อาจล็อกสเปกทางอ้อมตามคำสั่ง สปสช.ได้ เพราะเป็นการเปิดซองประมูล สินค้ามีคุณภาพ มีหลักฐานพร้อมชี้แจง

นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการ อย. กล่าวชี้แจงกรณีมาตรฐานการอนุญาตชุดตรวจ และการจัดหาชุดตรวจ ATK 8.5 ล้านชุด ว่า ชุดตรวจ Antigen Test Kit หรือ ATK จัดอยู่ในกลุ่มเครื่องมือแพทย์ ใช้ในการวินิจฉัยโควิด-19 โดยมีทั้งการตรวจแบบแยงจมูกหรือการตรวจด้วยตัวอย่างของน้ำลาย ใช้เวลาในการแสดงผลภายใน 30 นาที ปัจจุบันมีชุดตรวจ ATK ในไทย ที่ผ่านการอนุมัติจาก อย. รวม 86 รายการ เป็นการใช้ในประชาชนทั่วไป หรือ Home Use 34 รายการใช้ในบุคลากรทางการแพทย์ หรือ Professinal Use 52 รายการ ส่วนกระบวนการตรวจสอบก่อนการอนุญาตของ อย. ใช้ 4 หลักเกณฑ์ด้วยกัน
1.ผู้นำเข้าผู้ผลิต จะต้องมาขออนุญาต และนำชุดทดสอบดังกล่าว เข้าตรวจสอบจริง ในแล็บทดลองของรัฐ หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง มี 3 หน่วยงาน ได้แก่ คณะแพทย์ฯ รามาธิบดี, คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยสงขลาฯ และคณะแพทย์ จุฬาฯ เพื่อดูว่าสามารถใช้ได้ตามจริงหรือไม่
2.พิจารณาเอกสารคำขอขึ้นทะเบียนจากผู้ผลิต ดูเอกสารกำกับ และนำผลการทดสอบในแล็บมาประกอบ
3.ผู้เชี่ยวชาญของอย. และสภาเทคเนิคการแพทย์ จะทำหน้าที่ประเมินผล
4.อย.ออกใบอนุญาตให้ใช้ได้หรือไม่


นพ.ไพศาล กล่าวว่าจะเห็นว่าขั้นตอนการพิจารณาของอย.ไม่ได้ดูเรื่องของเอกสารอย่างเดียว แต่นำข้อมูลการทดสอบในแล็บจริงมาประกอบ ว่า ตรวจตามที่บริษัทยื่นเสนอมาหรือไม่ โดยหลักเกณฑ์ของชุดทดสอบ Antigen Test Kit นี้ จะต้องมีความไว 90% ความจำเพาะในการวินิจฉัย 95% และความไม่จำเพาะ 10% รวมถึงการตรวจสอบไปถึงสถานที่แหล่งผลิต ว่า ได้รับมาตรฐาน ISO 13485 ซึ่งเป็นมาตรฐานในส่วนของการผลิตเครื่องมือแพทย์ ที่ต้องได้มาตรฐานและคุณภาพเดียวกันในทุกลอตการผลิต ในส่วนชุดตรวจ ATK ของบริษัท Beijing Lepu Medical Technology นั้น มีการใช้แบบในส่วนของประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์ ได้รับการรับรองมาตรฐาน EC ในยุโรป ทั้งในส่วนของเยอรมัน โรมาเนีย เบลเยียม ส่วนเหตุผลที่ FDA USA ไม่ได้มีการรับรองหรือเรียกคืน เนื่องจากบริษัทผู้ผลิตไม่ได้มีการนำไปขึ้นทะเบียนในสหรัฐ จึงไม่ได้รับอนุญาต เปรียบเสมือนกับการที่ผลิตฟ้าทะลายโจร แต่ก็ไม่ได้มีทุกบริษัทมาขอการขึ้นทะเบียน เมื่อไม่ได้มีการมาขอขึ้นทะเบียนก็เหมือนกัน เป็นของที่ไม่ได้รับอนุญาต ใครนำมาใช้ก็ไม่อาจมั่นใจประสิทธิภาพได้ แต่ทั้งนี้จากการตรวจสอบก็ยังไม่มีผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการใช้ ATK ทั้งการบาดเจ็บและเสียชีวิต พร้อมย้ำมาตรฐานอย. ยึดตามหลักเทียบเท่าสากล ไม่แพ้ชาติใดในโลก

นพ.ไพศาล ยังกล่าวย้ำว่า สำหรับมาตรฐานสินค้าและผลิตภัณฑ์ ไม่ได้จำเป็นต้องมีการรับรองจากองค์การอนามัยโลก หรือมาตรฐานของ FDA USA เท่านั้นถึงจะปลอดภัยในต่างประเทศ บางสินค้าในต่างประเทศก็ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาในประเทศของตัวเอง เหมือนในยุโรป สินค้ายารายการก็ไม่ได้รับรองจากสหรัฐ หรือองค์การอนามัยโลก


นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผอ.อภ. กล่าวว่า อภ.ได้รับมอบหมายจาก รพ.ราชวิถี และ สปสช. ให้จัดหาชุดตรวจ ATK จำนวน 8.5 ล้านชุด ตามโครงการเร่งด่วนของ สปสช. ยืนยันไม่ได้ปรับลดสเปกการจัดซื้อเพื่อล็อกสเปกหรือเจาะจงเลือกบริษัทใด ทำทุกอย่างตามกรอบหลักธุรกิจ และหลักเกณฑ์เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม โดยกระบวนการจัดซื้อมีการเปิดซองแข่งขันได้ 16 บริษัท จาก 19 บริษัทที่ผ่านมาจากการตรวจสอบคุณสมบัติ จาก 24 บริษัท และมีการบันทึกขั้นตอนการจัดซื้อทุกขั้นตอน โดยผู้ชนะ คือ บริษัท ออสท์แลนด์ แคปปิตอล มีคุณสมบัติตามข้อกำหนดทุกอย่าง ชนะการประมูลชุดตรวจ ATK ในราคาชุดละ 70 บาท ซึ่งน้อยกว่างบประมาณที่ตั้งไว้ในราคาชุดละ 120 บาท ประหยัดงบประมาณได้ถึง 400 ล้านบาท และชี้แจงว่าแม้การจัดซื้อนี้ในภาวะฉุกเฉิน จะสามารถระบุชื่อบริษัทได้ หากต้องการ แต่ต้องให้เหตุผลว่าเป็นการทำในภาวะฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยอิงตามระเบียบพัสดุของอภ. มาตรา 13 (4 ) แต่นี่ทางสปสช. ระบุสเปกโดยอ้อม และระบุชื่อบริษัท เพื่อให้เกิดการล็อกสเปก ทางองค์การเภสัชกรรมไม่ยอม เพราะอันนี้เป็นการเปิดประมูลซองประกวดราคา สิ่งที่ได้ก็ไม่ใช่ของไม่มีคุณภาพ จึงไม่สามารถล้มการประมูลได้ และต้องเดินหน้าต่อไป และมีหลักฐานพร้อมชี้แจง

นพ.วิฑูรย์ กล่าวว่า ส่วนที่นำเรื่องสถานะทางการของบริษัท Beijing Lepu Medical Technology มาเปิดเผย ก็ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการประมูล เพราะไม่เช่นนั้นเท่ากับเป็นการกีดกันทางการค้า อีกทั้งการจัดซื้อของภาครัฐ จะมีการจ่ายเงินเมื่อได้สินค้าแล้ว จึงไม่ได้เป็นการทำให้ภาครัฐมีความเสียหาย .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

สื่อเกาะติด! นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก ถกผลประชุม JBC

บ้านพิษณุโลก 16 มิ.ย.- นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก เรียกถกหน่วยงานความมั่นคง หารือผลประชุม JBC กำหนดแนวทางแก้ปัญหาข้อพิพาทพื้นที่ชายแดน ท่ามกลางสื่อมวลชนเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด ความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เช้าวันนี้ (16 มิ.ย.) ได้แจ้งเลื่อนภารกิจการให้ นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World 2025 และคณะ Miss World เข้าคาราวะ ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 10.00 น. ไปเป็นวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย. 68) โดยนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานด้านความมั่นคง ถึงกรณีผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 หรือ The Sixth Meeting of The Cambodian-Thai Joint Commission on Demarcation for […]

‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์ 5 หมายเหตุ สะท้อนปมชายแดน

16 มิ.ย.- ‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์หมายเหตุ 5 ข้อ สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์หมายเหตุ 5 ประเด็น สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย ขาดความตั้งใจแก้ปัญหา

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย แก้ปัญหาลดความตึงเครียด ขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคี บนพื้นฐานเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมโต้ทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา เมื่อ 22.30 น. กระทรวงการต่างประเทศของไทย ออกแถลงการณ์ผลการประชุม JBC ทั้งที่เดิมนัดสื่อเเถลงวันนี้ (16 มิ.ย.) ระบุว่าการหารือมีความคืบหน้าสำคัญ 4 เรื่อง ซึ่งหลักๆ ทั้ง 4 เรื่องในคำเเถลงออกมาตรงกัน ซึ่งการรับรองผลการประชุม JTSC ครั้งที่ 4 สองฝ่ายเห็นตรงกันต่อตำแหน่งที่ตั้งของหลักเขตถึง 45 หลัก และเห็นชอบให้นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำภาพถ่ายทางอากาศเพื่อความรวดเร็วในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ซึ่งในการเห็นชอบให้เเก้ไขแผนแม่บทว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา จัดทำขึ้นเมื่อปี 2546 (TOR 2003) ก็นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศเช่นกัน ส่วนในข้อ 4 เห็นชอบให้มีการจัดทำข้อกำหนดทางเทคนิคการเดินสำรวจในพื้นที่ตอนที่ 6 ไทยลงรายละเอียดว่า เป็นพื้นที่จากเขาสัตตะโสม จนถึงหลักเขตแดนที่ 1 ช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมอบหมาย JTSC […]

อุตุฯ เผยไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส .-สำนักข่าวไทย