กรุงเทพฯ 12 ส.ค. – กรมควบคุมโรค ก.สาธารณสุข เผยการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จ.พิจิตร หลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์บูสเตอร์โดส อยู่ระหว่างการสอบสวน ขณะนี้ได้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับบุคลากรทางการแพทย์แล้ว 203,785 โดส พร้อมเฝ้าระวังและติดตามอาการภายหลังได้รับวัคซีนอย่างใกล้ชิด
วันนี้ (12 สิงหาคม 2564) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีความคืบหน้าการฉีดวัคซีนโควิด-19 กระตุ้นเข็มที่ 3 (Booster Dose) ด้วยวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) ตัวเลขล่าสุด 66,824 โดส ทำให้ยอดสะสม 203,785 โดส และฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา เข็ม 3 เพิ่มอีก 2,753 โดส ยอดสะสมอยู่ที่ 190,288 โดส รวมสะสมเข็ม 3 ทั้งสิ้น 394,073 โดส สำหรับยอดฉีดวัคซีนทุกชนิดที่เริ่มให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-12 ส.ค.64 รวมทั้งสิ้น 22,288,819 โดส โดยขณะนี้มีการเร่งฉีดกลุ่มเสี่ยงให้ครอบคลุม คือ กลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้มีโรคประจำตัว รวมถึงหญิงตั้งครรภ์ที่อายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ ซึ่งดำเนินการฉีดไปพร้อมๆ กับการฉีดเข็มกระตุ้นให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องให้บริการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19
นพ.โอภาส ยังกล่าวถึงกรณีบุคลากรสาธารณสุข โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จ.พิจิตร ที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ เป็นเข็มที่ 3 แล้วเสียชีวิตนั้น กรมควบคุมโรค ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ ยังได้ส่งทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรค จ.นครสวรรค์ ร่วมกับทีมจากโรงพยาบาลโพทะเล สำนักงานสาธารณสุขอำเภอโพทะเล จ.พิจิตร เข้าสอบสวนสาเหตุการเสียชีวิตในเบื้องต้น ส่งพิสูจน์ทางนิติเวช และจะรวบรวมข้อมูลโดยละเอียด เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาโดยคณะผู้เชี่ยวชาญกรณีเสียชีวิตภายหลังการได้รับวัคซีนโควิด-19 และคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญกรณีเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์รุนแรงหลังได้รับวัคซีนโควิด-19 ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ ข้อมูลเบื้องต้นของผู้เสียชีวิต เป็นเพศชาย อายุ 44 ปี มีโรคประจำตัวหอบหืด และฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เป็นวัคซีนไฟเซอร์ ในช่วงบ่ายวันที่ 10 ส.ค.64 ที่ผ่านมา หลังได้รับวัคซีนและสังเกตอาการ 30 นาทีแล้วไม่มีอาการใดๆ จึงขับจักรยานยนต์กลับที่พัก
ต่อมาช่วงเช้าของวันที่ 11 ส.ค.64 มีเพื่อนร่วมงานไปเรียก และทราบว่าเสียชีวิตภายในที่พัก จึงได้แจ้งไปยังสถานีตำรวจภูธรโพทะเล และได้เก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผลไม่พบเชื้อ และได้ส่งร่างไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต ทั้งนี้ ในกรณีที่พบอาการไม่พึงประสงค์รุนแรงหลังฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จะมีการนำกรณีดังกล่าวเข้าสู่คณะกรรมการเพื่อพิจารณาทุกราย และเมื่อทราบผลการชันสูตรแล้วจะแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและดูแลผู้รับวัคซีนต่อไป. – สำนักข่าวไทย