ตรวจโควิดเชิงรุก ‘พระภิกษุ-สามเณร-ปชช.’ วัดชลประทานฯ ด้วยชุด ATK

กทม .11 ส.ค.-“ศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน” เปิดปฏิบัติการตรวจโควิด-19 เชิงรุก แก่พระภิกษุสงฆ์-สามเณร-ประชาชน ในพื้นที่วัดชลประทานรังสฤษฏ์ “แพทย์หัวหน้าทีม” ระบุ หากผลเป็นบวก สามารถเข้าระบบการดูแลที่บ้านหรือที่ชุมชน ได้

คณะผู้บริหารสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) นำโดย นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช., นพ.อภิชาติ รอดสม รองเลขาธิการ สปสช. และ ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. ลงพื้นที่วัดชลประทานรังสฤษฏ์ จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2564 เพื่อเยี่ยมชมการดำเนินการตรวจคัดกรองเชิงรุกโควิด-19 ให้กับพระภิกษุสามเณร และบุคลากรวัดชลประทานรังสฤษฏ์ โดยมี ศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เป็นทีมตรวจ


สำหรับการตรวจคัดกรองเชิงรุกครั้งนี้ ได้กำหนดกลุ่มเป้าหมายไว้ที่ 500 ราย แต่ได้มีการประเมินเผื่อไว้ในกรณีที่มีพระสงฆ์ สามเณร และประชาชนนอกพื้นที่ที่จะเข้ามาตรวจด้วย โดยคาดว่าจะมีทั้งสิ้นประมาณ 800 ราย ซึ่งได้มีการเตรียมชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) เพื่อรองรับอย่างเพียงพอ

พระปัญญานันทมุนี (สง่า สุภโร) เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษดิ์ จ.นนทบุรี กล่าวว่า การตรวจคัดกรองเชิงรุกในครั้งนี้มีการปรึกษากันว่าจะต้องทำให้สมบูรณ์ เมื่อมีการตรวจแล้วพบเป็นบวกแต่ไม่มีอาการก็สามารถรักษาตามระบบได้ ขณะนี้วัดกู้ จ.นนทบุรี ก็ได้มีการจัดตั้งศูนย์พักคอย (Community isolation) รองรับได้ 60 เตียงและกำลังรอการขยาย ในกรณีถ้าเป็นสีแดงโรงพยาบาลชลประทานก็จะเข้าไปดูแล และมีสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นผู้อุปถัมภ์ รวมไปถึงเทศบาลนครปากเกร็ดลงพื้นที่เข้าไปบริการดูแล


“ถ้าทำแบบนี้ได้การใช้วัดก็จะเป็นประโยชน์ แต่ถ้าจะเอาคนป่วยมาให้พระดูแล โดยที่พระเองก็ไม่รู้ ก็จะทำให้ยิ่งพัวพันโดยไม่จำเป็น” พระปัญญานันทมุนี กล่าว

พระปัญญานันทมุนี กล่าวต่อว่า ที่ผ่านเคยมีการตรวจคัดกรองในวัดแล้ว และพบว่าผู้ที่เข้ามาช่วยเหลืองานในวัดนั้นครอบครัวติดเชื้อโควิด-19 3 ราย ด้วยการจัดการยังไม่เป็นระบบที่ถูกต้อง และไม่มีการตอบรับ ทำให้ผู้ป่วยต้องรอถึง 8 วันเนื่องจากระบบไม่เอื้ออำนวย

สำหรับสิ่งที่อยากเห็นคือ สปสช. เทศบาลนครปากเกร็ด โรงพยาบาลชลประทาน และคณะสงฆ์ จ.นนทบุรี ลุกขึ้นมาตรวจเชิงรุกมากกว่าการตั้งรับแบบไม่มีอนาคต รวมไปถึงถ้าในชุมชนสามารถขยายให้มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้หมดพระสงฆ์ก็จะได้ไปด้วย เพราะพระไม่ได้เรียกร้องสิทธิเฉพาะตนเองเท่านั้น


“อาตมาไม่อยากแยกว่าพระรอด ประชาชนต้องไม่รอด เราไม่อยากเห็นคนตายและวัดต้องทำหน้าที่เผา สุดท้ายไม่อยากเห็นแต่ก็ต้องเห็น การตรวจคัดกรอง มียาที่ใช้ดูแล และมีระบบอุปถัมภ์ อาตมาอยากเรียกร้องตรงนั้นมากกว่า” พระปัญญานันทมุนี กล่าว

นพ.ธนวัฒน์ อุณหโชค รองผู้อำนวยการฝ่ายสำนักศูนย์ ศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เปิดเผยว่า วัดชลประทานฯ เป็นพระอารามหลวง มีพระภิกษุสงฆ์และสามเณรทั้งที่อยู่ประจำและเวียนเข้ามาศึกษาปฏิบัติธรรมเป็นจำนวนมาก ทางพระปัญญานันทมุนี (สง่า สุภโร) เจ้าอาวาสวัดชลประทานสฤษดิ์ เห็นว่ามีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ได้ จึงอยากให้มีการตรวจคัดกรองเชิงรุก ซึ่งจะครอบคลุมทั้งพระสงฆ์ สามเณร ประชาชนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับวัด ตลอดจนประชาชนที่อยู่ในบริเวณพื้นที่วัด

นอกจากนี้ ทางเจ้าอาวาสวัดชลประทานฯ ยังได้ปรึกษากับรองเจ้าคณะจังหวัดเพื่อประกาศเชิญพระสงฆ์และสามเณรใน จ.นนทบุรี ที่ต้องการตรวจคัดกรอง ให้เดินทางมาตรวจได้ที่วัดชลประทานฯ โดยการตรวจครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างวัดชลประทานฯ เทศบาลนครปากเกร็ด จ.นนทบุรี โรงพยาบาลชลประทาน และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)

นพ.ธนวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับพระสงฆ์และสามเณรที่ตรวจคัดกรองแล้วมีผลเป็นบวก (ติดเชื้อ) หากเป็นกลุ่มอาการสีเขียวและได้รับการประเมินแล้วว่าสภาพกุฏิหรือสภาพแวดล้อมมีความเหมาะสม ก็สามารถรักษาตัวผ่านระบบ Home isolation ได้ แต่ถ้าไม่เข้าเกณฑ์ก็จะมีการส่งต่อไปรักษาด้วยระบบ Community isolation ที่วัดกู้ จ.นนทบุรี ซึ่งกำลังพัฒนาเป็น Community isolation สำหรับพระสงฆ์และสามเณรโดยเฉพาะ ส่วนกรณีที่เป็นพระสงฆ์และสามเณรที่อยู่นอกพื้นที่ก็จะมีระบบส่งต่ออย่างเป็นระบบต่อไป

สำหรับประชาชน ได้มีการประสานการทำงานกับเทศบาลนครปากเกร็ด โดยผู้ที่ผลตรวจเป็นบวกและอยู่ในกลุ่มอาการสีเขียวที่อยู่ในพื้นที่ปากเกร็ด ก็สามารถเข้ารักษาด้วยระบบ Home-Community isolation ได้ทันที แต่ในกรณีที่เป็นประชาชนนอกพื้นที่ ก็จะมีการประสานงานกับทาง สปสช. เพื่อส่งต่อผู้ป่วยเข้ารับการรักษาตามระบบต่อไป

“การตรวจคัดกรองครั้งนี้ทาง สปสช. ได้มีการสนับสนุนยาฟาวิพิราเวียร์ และฟ้าทะลายโจร รวมไปถึงโรงพยาบาลชลประทานก็เตรียมอุปกรณ์ เช่น ปรอทวัดไข้ เครื่องวัดออกซิเจนในเลือดแบบปลายนิ้ว และอุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็นเพื่อรองรับผู้ป่วยทั้งพระสงฆ์ และประชาชนในกรณีต้องรักษาตัวด้วยระบบ Home isolation” นพ.ธนวัฒน์ กล่าว

ด้าน นพ.จเด็จ กล่าวว่า การตรวจคัดกรองเชิงรุกนี้ นอกจากทำให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงสามารถเข้าถึงการตรวจได้ง่ายแล้ว หากกรณีพบผลเป็นบวกก็ยังทำให้ผู้ป่วยสามารถลงทะเบียนเข้าระบบ Home Isolation ได้ทันที และหากมีอาการก็จะมีการจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ เพื่อป้องกันไม่ให้อาการของผู้ป่วยเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลือง

สำหรับการเข้าระบบ Home Isolation สามารถทำได้ 2 วิธี คือผ่านสายด่วน สปสช. 1330 กด 14 และลงทะเบียนเข้าระบบผ่านเว็บไซต์ https://crmsup.nhso.go.th/ โดยขณะนี้สายด่วน 1330 มีการเพิ่มคู่สายเป็น 2,100 คู่สายต่อวัน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่คอยหมุนเวียนตลอด 24 ชั่วโมง หรือหากในกรณีที่คู่สายเต็ม เบอร์ที่โทรเข้ามาก็จะถูกเข้าคิวไว้เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำการติดต่อกลับในภายหลัง

นพ.จเด็จ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ สปสช. อยู่ระหว่างดำเนินการจัดหาชุดตรวจ ATK จำนวน 8.5 ล้านชุด เพื่อแจกให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงสามารถตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้ด้วยเอง ในช่วงเดือน ส.ค. – ก.ย. นี้ และหากไม่เพียงพอก็จะจัดหาเพิ่มเติมควบคู่ไปกับการจัดหายาฟาวิพิราเวียร์ด้วย โดย สปสช. พร้อมสนับสนุนการตรวจคัดกรองเชิงรุกด้วยชุดตรวจ ATK อย่างเต็มที่ เพื่อที่จะแยกตัวผู้ป่วยออกมาดูแลรักษาได้อย่างเร็วที่สุด

สำหรับหน่วยบริการหรือคลินิกเอกชนที่ร่วมดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มสีเขียวในระบบ HI หรือให้บริการตรวจคัดกรองด้วยชุด ATK สามารถเบิกค่าบริการจาก สปสช.ได้ โดยกรณีตรวจด้วยเทคนิค Chromatography จ่ายตามจริงไม่เกิน 450 บาท/ครั้ง และกรณีตรวจด้วยเทคนิค Fluorescent Immunoassay (FLA) จ่ายตามจริงไม่เกิน 550 บาท/ครั้ง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง ส.ค.นี้

ทำเนียบ 14 พ.ค.-รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 […]

เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 14 พ.ค.-“ชัยชนะ” เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ณ เรือนรับรองตำรวจชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา โดยในโอกาสนี้ นายชัยชนะได้มอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว นายชัยชนะ ได้พูดคุยกับ ด.ต.นิสาธิต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร หากมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือมีความต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด กรรมาธิการตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ปูพรมค้น 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง

ตรัง 14 พ.ค. – ตำรวจปูพรมปิดล้อม 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ล่าสุดตามยึดรถกระบะของกลางที่คนร้ายใช้ไปซื้อยางรถยนต์มาก่อเหตุ เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังร่วมกันตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีเทาดำ (สงวนหมายเลขทะเบียน) และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือ แจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมปมมติแพทยสภา

สธ. 13 พ.ค. – แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม “ทักษิณ ชินวัตร” รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง นายกองตรี […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 19 คนไทยรับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

15 พ.ค.- เปิดปฏิบัติการ “The Scam เงินแท้ คนเก๊” รวบ 19 คนไทยขายชาติ รับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดทรัพย์รวม 6.6 ล้านบาท พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ร่วมแถลงข่าว กรณีมีผู้เสียหายจากการถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง โดยทำกันเป็นขบวนการ ซึ่งสายที่ 1 อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ มีพัสดุมาส่ง จากนั้นได้ให้หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ส่ง (สายที่ 2) เมื่อผู้เสียหายโทรกลับไป อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กองคลัง โดยให้ทำตามขั้นตอนที่คนร้ายสั่ง อ้างเพื่อเพิ่มเงินบำนาญ โดยได้หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินครั้งแรกจำนวน 720,000 บาท และต่อมาได้มีสายที่ 3 โทรเข้ามาหาผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าการทำธุรกรรมที่ได้ทำไปก่อนหน้านั้นผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอก เป็นเหตุให้ต้องระงับบัญชี และให้ทำตามขั้นตอนจากธนาคารแทน ผู้เสียหายหลงเชื่อ ทำให้ต้องโอนเงินไปอีกเป็นจำนวน 6 ครั้ง แต่มาทราบภายหลังว่าสุดท้ายเป็นการโอนเงินออกจากบัญชีทุกบัญชีของตนเองไปยังบัญชีของคนร้าย รวมความเสียหายทั้งหมด 3,942,767 บาท พฤติการณ์ดังกล่าว ผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้ร่วมกันกระทำความผิดเป็นกระบวนการ ในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. จึงได้ทำการสืบสวนพิสูจน์ทราบข้อมูล […]

นายกฯ เยือนเวียดนามวันแรก เดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ

เวียดนาม 15 พ.ค. – นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการ พร้อมเดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะการผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินและเทคโนโลยี.-สำนักข่าวไทย

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

ยังปิดล้อม! เหตุชายคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า จ่อปรับยุทธวิธี

15 พ.ค.- ยังปิดล้อม! เหตุชายคลุ้มคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า ด้านผู้ช่วย ผบ.ตร. รุดลงพื้นที่ เน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบ เตรียมปรับยุทธวิธีระงับเหตุ เมื่อเวลา 17.30 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เดินทางลงพื้นที่เหตุชายคลุ้มคลั่งก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าและยิงใส่เจ้าหน้าที่ ภายในบ้านพักหลังวัดลครทำ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ โดย พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า จะเข้าไปพูดคุยกับทาง พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นยังเน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบพื้นที่ ซึ่งจะยังไม่มีการยกระดับมาตรการหรือยุทธวิธีใดๆ ยึดการเจรจาเป็นหลักแม้สถานการณ์จะล่วงเลยมานานกว่า 9 ชั่วโมง แต่ยืนยันว่าทุกอย่างยังอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย ส่วนกรณีชาวบ้านหลายครัวเรือนที่อยู่ในพื้นที่บริเวณบ้านของผู้ก่อเหตุนั้น เบื้องต้นจะหารือกับทาง พล.ต.ท.สยาม เรื่องมาตรการเยียวยา ตำรวจเตรียมปรับยุทธวิธีระงับผู้ก่อเหตุ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางลงพื้นที่อีกครั้ง พร้อมให้ข้อมูลว่า ตอนนี้กำลังให้แม่ของผู้ก่อเหตุเข้าไปเจรจาอยู่ เพื่อให้ผู้ก่อเหตุวางอาวุธและมอบตัว ตอนนี้ผู้ก่อเหตุได้ขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 2 ของบ้าน แต่ท่าทีโดยรวมของผู้ก่อเหตุเย็นลง อาการคลุ้มคลั่งก็ลดลงด้วย หากการเจรจาไม่เป็นผลหลังจากนี้อาจจะมีการปรับยุทธวิธีต่อไป -420 .-สำนักข่าวไทย