สธ. จัดกิจกรรมโสดออนซูม จุดพลังใจ ต้านโควิด-19

กทม. 8 ส.ค.-​กระทรวงสาธารณสุข จัดกิจกรรมโสดออนซูม ภายใต้แนวคิด “สัมพันธภาพ คือพลังใจ ต้านภัยโควิด-19” เพื่อสร้างเครือข่ายคนโสดรุ่นใหม่ ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การทำงานที่แตกต่างกัน เป็นกำลังใจให้กันและร่วมสร้างสิ่งที่ดีให้กับสังคม

วันนี้ (8 สิงหาคม 2564) ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมพูดคุยในกิจกรรม “โสดออนซูม” เปิดหน้าจอ รอเจอหน้าจริง ณ Visualize Lab โครงการนาซ่าสตรีท ถนนรามคำแหง กรุงเทพมหานคร ว่า นโยบายส่งเสริมการใช้ชีวิตคู่ เป็นหนึ่งในนโยบายพัฒนาคุณภาพประชากร ที่มีแนวคิดมาจากความเข้าใจในวิถีชีวิตคนโสดที่มุ่งให้ความสำคัญกับการทำงาน เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต โอกาสในการพบเจอกับเพื่อนต่างสาขาอาชีพมีน้อย ได้เจอเพื่อนกลุ่มเดิมๆ ใช้ชีวิตกับโทรศัพท์ และโซเชียล มีเดีย การพบปะกันในช่องทางออนไลน์ก็มีความเสี่ยงมาก ทำให้มีคนโสดแบบไม่ได้ตั้งใจจำนวนมาก สอดคล้องกับผลการศึกษาจากโครงการเจริญพันธุ์และสุขภาวะ พบว่า คนไทยต้องการมีคู่รักหรือคู่สมรส ร้อยละ 63.3 แต่ในความเป็นจริงคนไทยมีคู่เพียงร้อยละ 53.9 โดยสาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้ไม่มีคู่รักคือ ไม่เจอคนที่ใช่


“โจทย์สำคัญที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันคือ ทำอย่างไรให้คนไทย “มีสมดุลในชีวิต เพื่อสร้างครอบครัวให้มีคุณภาพ” เพราะการสร้างสมดุลให้กับชีวิต ไม่ใช่แค่เรื่องงาน เงิน หรือ สุขภาพ เท่านั้น การมีเพื่อนที่ดี หรือ มีคนพิเศษเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้มีพลังใจในการสู้กับปัญหาและอุปสรรคได้ โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่พวกเรา ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การให้กำลังใจกันและกันเป็นสิ่งสำคัญมาก การจัดกิจกรรมครั้งนี้จึงนับเป็นจุดเริ่มต้นของการผลักดันนโยบายส่งเสริมการใช้ชีวิตคู่ในประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งขอเน้นย้ำว่าเราไม่ได้ทำหน้าที่หาคู่ แต่เราทำหน้าที่เปิดโอกาสให้คนโสดได้มีโอกาสพบเจอกันในช่องทางที่เหมาะสม เน้นการสร้างเครือข่าย การพัฒนาศักยภาพ และการให้ความรู้เพื่อให้คนโสดเลือกคู่ที่ “พอดี” กับตัวเอง ลดการหย่าร้างที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เพื่อให้ครอบครัวที่จะเกิดขึ้นมีความแข็งแรง ตั้งแต่เริ่มสร้างครอบครัว” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว

ทางด้าน นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัย ได้ขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมการใช้ชีวิตคู่อย่างมีคุณภาพ ควบคู่ไปกับนโยบายพัฒนาคุณภาพประชากรในด้านอื่นๆ อาทิ การส่งเสริมให้คู่รักที่ต้องการมีบุตร มีการวางแผน มีการเตรียมความพร้อมก่อนมีบุตร การช่วยเหลือให้คู่รักที่ประสบปัญหามีบุตรยาก เข้าถึงการรักษาภาวะมีบุตรยาก การดูแลสุขภาพของแม่และเด็ก ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ ถึงหลังคลอด เพื่อให้ลูกเกิดรอด แม่ปลอดภัย การส่งเสริมให้เด็กได้รับการเลี้ยงดูที่ดีเพื่อให้มีพัฒนาการที่สมวัย มีสติปัญญาดี ซึ่งการเลือกคู่ที่ดี เป็นจุดเริ่มต้นของการ สร้างครอบครัวคุณภาพ และไม่ได้ดำเนินการแบบมาตรการเดี่ยว ๆ แต่ดำเนินการไปพร้อมกับการพัฒนาสิทธิประโยชน์ที่จำเป็น การสร้างความรอบรู้ด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ กิจกรรม“โสดออนซูม” ในรูปแบบออนไลน์ผ่านทางเพจวิวาห์สร้างชาติครั้งนี้ เป็นการปรับรูปแบบให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จัดขึ้นเพื่อสร้างเครือข่ายคนโสดรุ่นใหม่ ที่สามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การทำงานที่แตกต่างกัน เป็นกำลังใจให้กัน และร่วมสร้างสิ่งที่ดีให้กับสังคม ซึ่งอาจจะพัฒนาไปเป็นคู่รัก หรือคู่สมรสได้ในอนาคต ซึ่งกิจกรรมนี้ยังไม่สิ้นสุด เมื่อสถานการณ์ดีขึ้นจะมีการจัดกิจกรรมที่พบเจอกัน เพื่อพัฒนาศักยภาพและให้ความรู้สำหรับคนที่ตกลงคบหากันต่อไป


ทางด้าน นายแพทย์โอฬาริก มุสิกวงศ์ กรรมการแพทยสภา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดีที่ภาครัฐได้มีนโยบายส่งเสริมการใช้ชีวิตคู่อย่างเป็นรูปธรรม เพราะที่ผ่านมาการดำเนินงานในเรื่องของการ Matching จะดำเนินการผ่านบริษัทจัดหาคู่ที่เป็นภาคเอกชน การออกแบบกิจกรรมมีความน่าสนใจ ตั้งแต่กระบวนการรับสมัครที่ให้สิทธิการเข้าร่วมกิจกรรมอย่างเท่าเทียมมีรูปแบบที่ไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องการหาคู่เป็นหลัก แต่มุ่งเน้นในการสร้างเครือข่ายคนโสด ซึ่งสามารถต่อยอดได้ในอนาคต การที่ภาครัฐเข้ามาส่งเสริมอย่างจริงจังนอกจากจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นในการเข้าร่วมกิจกรรม ยังเป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้สังคมตื่นตัว และมีทัศนคติที่ดีต่อการมีคู่ และผมคิดว่าความตั้งใจที่ดี กระบวนการที่ดี จะเป็นประโยชน์ และส่งผลทางบวก สิ่งที่ทุกคนจะได้คือ “เพื่อน” ส่วนเรื่อง “คู่” เป็นเรื่องของบุพเพสันนิวาส เพราะไม่ว่าอย่างไร ชีวิตต้องก้าวเดินต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

สื่อเกาะติด! นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก ถกผลประชุม JBC

บ้านพิษณุโลก 16 มิ.ย.- นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก เรียกถกหน่วยงานความมั่นคง หารือผลประชุม JBC กำหนดแนวทางแก้ปัญหาข้อพิพาทพื้นที่ชายแดน ท่ามกลางสื่อมวลชนเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด ความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เช้าวันนี้ (16 มิ.ย.) ได้แจ้งเลื่อนภารกิจการให้ นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World 2025 และคณะ Miss World เข้าคาราวะ ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 10.00 น. ไปเป็นวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย. 68) โดยนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานด้านความมั่นคง ถึงกรณีผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 หรือ The Sixth Meeting of The Cambodian-Thai Joint Commission on Demarcation for […]

‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์ 5 หมายเหตุ สะท้อนปมชายแดน

16 มิ.ย.- ‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์หมายเหตุ 5 ข้อ สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์หมายเหตุ 5 ประเด็น สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย ขาดความตั้งใจแก้ปัญหา

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย แก้ปัญหาลดความตึงเครียด ขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคี บนพื้นฐานเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมโต้ทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา เมื่อ 22.30 น. กระทรวงการต่างประเทศของไทย ออกแถลงการณ์ผลการประชุม JBC ทั้งที่เดิมนัดสื่อเเถลงวันนี้ (16 มิ.ย.) ระบุว่าการหารือมีความคืบหน้าสำคัญ 4 เรื่อง ซึ่งหลักๆ ทั้ง 4 เรื่องในคำเเถลงออกมาตรงกัน ซึ่งการรับรองผลการประชุม JTSC ครั้งที่ 4 สองฝ่ายเห็นตรงกันต่อตำแหน่งที่ตั้งของหลักเขตถึง 45 หลัก และเห็นชอบให้นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำภาพถ่ายทางอากาศเพื่อความรวดเร็วในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ซึ่งในการเห็นชอบให้เเก้ไขแผนแม่บทว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา จัดทำขึ้นเมื่อปี 2546 (TOR 2003) ก็นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศเช่นกัน ส่วนในข้อ 4 เห็นชอบให้มีการจัดทำข้อกำหนดทางเทคนิคการเดินสำรวจในพื้นที่ตอนที่ 6 ไทยลงรายละเอียดว่า เป็นพื้นที่จากเขาสัตตะโสม จนถึงหลักเขตแดนที่ 1 ช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมอบหมาย JTSC […]

อุตุฯ เผยไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส .-สำนักข่าวไทย