กรุงเทพฯ 3 ส.ค. – กระทรวงสาธารณสุขเร่งกระจายและฉีดวัคซีนป้องกันโควิดให้ผู้ต้องขังในเรือนจำ และทัณฑสถานทุกแห่ง เพื่อควบคุมการระบาด หลังพบผู้ต้องขังยังมีแนวโน้มติดเชื้อเพิ่มขึ้น และกระจายไปแล้ว 29 เรือนจำทั่วประเทศ
หลังเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดในเรือนจำ และทัณฑสถานหลายแห่ง เช่น เรือนจำนราธิวาส เชียงใหม่ ก่อนกระจายไปตามเรือนจำต่างๆ ทั้งในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จากการที่ผู้คุมนำเชื้อมาติดผู้ต้องขัง และผู้ต้องขังได้รับเชื้อจากภายนอกขณะไปเบิกความที่ศาล ทำให้ต้องตรวจคัดกรองเชิงรุก แยกกักโรคผู้ต้องขังใหม่ และพบมีการติดเชื้อในเรือนจำพุ่งสะสมกว่า 48,000 คน เสียชีวิตสะสม 63 คน โดยวันนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 743 คน เสียชีวิต 2 คน และยังพบแนวโน้มการระบาดขยายวงกว้าง ไปยังเรือนจำอื่นๆ รวม 29 แห่ง และเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในเรือนจำ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดส่งรถตรวจพระราชทาน และบุคลากรทางการแพทย์ลงพื้นที่ช่วยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ สนับสนุนเวชภัณฑ์ยาฟ้าทะลายโจร ยาฟาวิพิราเวียร์ และยกระดับโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ดูแลผู้ติดเชื้อในเรือนจำ
ล่าสุดกรมควบคุมโรคสนับสนุนวัคซีนจำนวน 86,089 โดส ให้กรมราชทัณฑ์กระจายฉีดให้ผู้ต้องขัง นอกจากนี้ยังมีวัคซีนพระราชทาน 6,400 โดส และวัคซีนจากแหล่งอื่นอีก 17,913 โดส ซึ่งมีผู้ต้องขังได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว 55,945 คน เข็มที่ 2 จำนวน 52,516 คน รวม 108,461 โดส และมีผู้ต้องขังที่ยังไม่ได้ฉีดอีก 251,195 คน จากนี้จะเร่งกระจายวัคซีน โดยตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้กับผู้ต้องขังในเรือนจำ และทัณฑสถานในพื้นที่สีแดง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และ 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง ก่อนกระจายวัคซีนไปยังผู้ต้องขังคนอื่นๆ ในเรือนจำทั่วประเทศ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ลดการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย