จับคู่คลินิกดูแลผู้ติดเชื้อโควิดที่บ้าน ยังมีตกค้าง

กรุงเทพฯ 3 ส.ค.-สปสช.เผยสถิติจับคู่หน่วยบริการกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพื่อดูแลแบบ Home Isolation แต่พบว่ายังมีผู้ติดเชื้ออีกจำนวนหนึ่งที่รอนานหลายวันกว่าจะมีหน่วยบริการติดต่อมาหา ย้ำโรงพยาบาล/คลินิกชุมชนอบอุ่น เมื่อตอบรับดูแลคนไข้แล้ว ให้รีบโทรแจ้งผู้ป่วยและเริ่มให้บริการภายใน 48 ชั่วโมง


นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงสถานการณ์การจัดหาโรงพยาบาล/คลินิกชุมชนอบอุ่นเพื่อรับดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 แบบ Home Isolation ในพื้นที่ กทม. โดยระบุว่า ณ วันที่ 3 ส.ค. 2564 มีจำนวนเคสผู้ติดเชื้อสะสมที่ติดต่อให้ สปสช. จัดหาหน่วยบริการให้จำนวน 57,944 ราย และมีหน่วยบริการที่ตอบรับดูแลผู้ป่วย 56,471 ราย ยังมีผู้ติดเชื้อที่จับคู่ไม่ได้ประมาณ 1,500 ราย มีผู้ติดเชื้อที่รักษาหายและจำหน่ายออกจากระบบแล้ว 5,504 ราย และอยู่ระหว่างรับบริการดูแลรักษาที่บ้าน 48,174 ราย เฉลี่ยมีหน่วยบริการตอบรับดูแลผู้ป่วยวันละ 2,382 ราย โดยทั้งหมดนี้ 52.4% เป็นผู้ใช้สิทธิบัตรทอง ขณะที่ผู้ใช้สิทธิประกันสังคมมีสัดส่วน 34.5% และสิทธิข้าราชการ 4.8%

นพ.จเด็จ กล่าวอีกว่า ระบบ ที่สปสช.ทำงานร่วมกับเครือข่ายหน่วยบริการนั้น เมื่อได้รับแจ้งจากผู้ติดเชื้อโควิดให้ประสานหาหน่วยบริการให้ ข้อมูลจะถูกส่งเข้าระบบแล้วโรงพยาบาลหรือคลินิกชุมชนอบอุ่นที่มีความพร้อม เช่น ผู้ป่วยรายนั้นอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับคลินิกและคลินิกมีกำลังบุคลากรและทรัพยากรพอที่จะดูแลผู้ติดเชื้อได้ ก็จะแจ้งตอบเข้ามาในระบบว่าจะรับผู้ติดเชื้อรายนั้นๆอยู่ในการดูแล จากนั้นทางคลินิกจะติดต่อไปยังผู้ติดเชื้อโดยตรงเพื่อแจ้งให้ทราบว่ามีหน่วยบริการรับดูแลแบบ Home Isolation แล้วและเข้าสู่กระบวนการรักษาต่อไป โดยระยะเวลาการตอบรับและแจ้งผู้ติดเชื้อนั้น ตั้งเป้าไว้ว่าไม่เกิน 48 ชั่วโมง


อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ผ่านมาพบว่ามีเสียงสะท้อนจากผู้ติดเชื้อจำนวนมากที่แจ้งเข้ามาทางสายด่วน สปสช. 1330 ว่ารออยู่หลายวันแล้วก็ยังไม่มีโรงพยาบาลหรือคลินิกติดต่อมาหา ซึ่งจากข้อมูลแล้วอัตราการจับคู่หน่วยบริการกับผู้ติดเชื้อสูงถึง 97% แต่อาจมีบางประเด็นที่ทำให้เป็นคอขวด ทำให้หน่วยบริการติดต่อไปยังผู้ติดเชื้อล่าช้า เช่น มีหลายวันที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายงานเข้ามาในระบบสูงกว่าจำนวนผู้ป่วยที่หน่วยบริการรับไปดูแล ทำให้มีผู้ป่วยจำนวนมากค้างสะสมในระบบ จน สปสช.ต้องแก้ปัญหาด้วยการประสานกับโรงพยาบาลสิชล จ.นครศรีธรรมราช ให้รับผู้ติดเชื้อตกค้างเหล่านี้ไปดูแลเพื่อแบ่งเบาภาระหน่วยบริการใน กทม.

ขณะเดียวกัน ในช่วงปลายเดือน ก.ค. จำนวนหน่วยบริการที่ตอบรับดูแลผู้ติดเชื้อต่อวันก็สูงขึ้น จากหลักร้อยในช่วงต้นเป็นเป็น 2,400-3,500 รายต่อวัน อย่างไรก็ดี ก็มีหน่วยบริการบางส่วนที่อาจจะตอบรับดูแลผู้ติดเชื้อไว้ก่อนแต่ในทางปฏิบัติยังอยู่ระหว่างเตรียมการ จึงยังไม่ได้ติดต่อไปยังผู้ติดเชื้อโควิด ทำให้ผู้ติดเชื้อหลายคนรอนานหลายวันกว่าจะมีหน่วยบริการติดต่อมาหา ซึ่งในกรณีนี้ก็ต้องฝากไปยังหน่วยบริการด้วยว่าเมื่อตอบรับดูแลผู้ติดเชื้อแล้ว ขอให้รีบติดต่อและให้บริการภายใน 48 ชั่วโมงตามที่ตกลงกันไว้ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

นักวิชาการชี้เลือกตั้งนายก อบจ.ไม่ใช่ภาพสะท้อนเลือกตั้งใหญ่

การเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผ่านพ้นไปแล้วทั้ง 47 จังหวัด ขณะนี้รอประกาศผลอย่างเป็นทางการจาก กกต. แต่ผลที่ออกมาชี้ให้เห็นว่าผู้สมัครที่มีเครือข่ายพรรคการเมืองใหญ่สนับสนุนได้ชัยชนะหลายจังหวัด แต่นักวิชาการชี้ว่ายังไม่สามารถสะท้อนให้เห็นภาพชัดถึงผลสนามเลือกตั้งใหญ่ในอนาคตได้

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ได้ชีวิตใหม่ ไม่สิ้นเคยหวัง เชื่อว่าต้องได้กลับบ้านในสักวัน เผยอยากกินลาบ-ซอยจุ๊

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน หลายประเทศทะลุ 190 AQI

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน “เมียนมา ลาว กัมพูชา มาเลเซีย” หลายประเทศทะลุ 190 AQI ส่วนไทย อีก 2 วัน มีลมแรงช่วยพัดฝุ่นกระจายตัวดีขึ้น ด้าน ปภ.ช. สั่งพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) ดีเดย์ ทุกหน่วยทั่วประเทศเคาะประตูบ้าน “ห้ามเผา” ฝ่าฝืนจับสถานเดียว