เรือนจำ-ทัณฑสถาน พบผู้ติดเชื้อใหม่ 743 ราย

กทม. 3 ส.ค.-กรมราชทัณฑ์ รายงานเรือนจำและทัณฑสถาน พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 743 ราย ไม่พบเรือนจำระบาดเพิ่มต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 พร้อมเตรียมแผน EXIT เรือนจำ/ทัณฑสถานเพิ่ม 12 แห่ง

นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 2 สิงหาคม 2564 เวลา 16.00 น.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 743 ราย (พบในเรือนจำสีแดง 669 ราย และพบในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 74 ราย) รักษาหายเพิ่ม 920 ราย เสียชีวิต 2 ราย รวมมีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 7,518 ราย (กลุ่มสีเขียว 81% สีเหลือง 18.6% และสีแดง 0.4%) เป็นพื้นที่กรุงเทพมหานคร 846 ราย ปริมณฑล 1,970 ราย และต่างจังหวัด 4,702 ราย


นายอายุตม์ กล่าวว่า วันนี้ ยังคงไม่พบเรือนจำที่ระบาดเพิ่มเป็นวันที่ 2 ส่งผลให้มีเรือนจำสีแดงคงที่ 29 แห่ง เรือนจำสีขาวที่ไม่พบการระบาด 106 แห่ง และสิ้นสุดการระบาดแล้วจำนวน 7 แห่ง มีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 40,176 ราย หรือ 83.2% ของผู้ติดเชื้อสะสม 48,291 ราย เสียชีวิตสะสมรวม 63 ราย คิดเป็นอัตรา 0.1% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด

สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย เป็นผู้ต้องขังจากเรือนจำกลางนครปฐม และเรือนจำจังหวัดสระบุรี จากข้อมูลพบว่ามีโรคประจำตัว และอาการอื่นร่วม ทำให้มีความรุนแรงของโรคมากกว่าปกติ ซึ่งผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างเต็มประสิทธิภาพตามมาตรฐานโดยทีมแพทย์ และส่งต่อการรักษายังโรงพยาบาลภายนอก แต่อาการยังคงไม่ดีขึ้น จนกระทั่งเสียชีวิตลงในที่สุด กรมราชทัณฑ์ ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไป มา ณ โอกาสนี้ ทั้งนี้ ได้ประสานญาติเพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ตามวิธีการจัดการศพผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นที่เรียบร้อย


นายอายุตม์ กล่าวถึง กรณีที่มีรายงานการพบผู้ติดเชื้อในเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และทัณฑสถานบำบัดพิเศษพระนครศรีอยุธยากว่าพันรายว่า จำนวนผู้ติดเชื้อดังกล่าวเป็นยอดสะสมตั้งแต่มีการพบเชื้อวันแรก จากการค้นหาเชิงรุกในเรือนจำที่มีการแพร่ระบาด ไม่ใช่ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่แต่อย่างใด ซึ่งกรมราชทัณฑ์ ได้รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อให้ทราบเป็นประจำทุกวันอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด พร้อมทั้งได้สนับสนุนเครื่องเอกซเรย์พระราชทาน ตลอดจนยา เวชภัณฑ์ และบุคลากรเพื่อช่วยเหลือในการคัดกรอง รักษา และควบคุมโรค ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขในพื้นที่ และโรงพยาบาลแม่ข่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกับเรือนจำสีแดงที่พบการแพร่ระบาดอื่นๆ

นอกจากนี้ ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม หรือ ศบค.ยธ. ซึ่งมีปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานในช่วงเช้าวันนี้ ได้พิจารณาแผนการสิ้นสุดการระบาดของโรค (EXIT) รวม 10 แห่งในระยะแรก คือ เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา ทัณฑสถานหญิงกลาง เรือนจำจังหวัดสงขลา เรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร เรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี ทัณฑสถานหญิงสงขลา สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี เรือนจำกลางสงขลา เรือนจำกลางสมุทรปราการ และเรือนจำกลางนครปฐม และ EXIT บางแดนในเรือนจำอีก 2 แห่ง คือ เรือนจำกลางคลองเปรม และเรือนจำพิเศษมีนบุรี ที่คาดว่าจะเริ่ม EXIT ได้ตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง