กรุงเทพฯ 2 ส.ค. – กระทรวงวิทยาศาสตร์ ยืนยันแผนการฉีดวัคซีนสลับชนิดในประชาชนทั่วไปจะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ต่อต้านไวรัสกลายพันธุ์อย่างสายพันธุ์เดลตาได้เป็นอย่างดี
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยผลการเฝ้าระวังสถานการณ์สายพันธุ์โควิดในประเทศไทยขณะนี้พบว่าในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา สายพันธุ์เดลตามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและกระจายอย่างรวดเร็วไป 73จังหวัดแล้ว ส่วนสายพันธุ์อัลฟา เบตา มีแนวโน้มลดลง แต่สายพันธุ์เบตาแม้เชื้อจะแพร่ไม่เร็วแต่ดื้อต่อวัคซีนที่สุด โดยยังพบสายพันธุ์เบตาที่ จ.นราธิวาส และใกล้เคียง รวมถึงที่ จ.บึงกาฬ ทำให้กรมวิทยาศาสตร์ต้องเฝ้าระวังการกลายพันธุ์ไวรัสชนิดต่างๆ อย่างใกล้ชิด เพราะขณะนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจทำให้เกิดการกลายพันธุ์ไวรัสโควิดมากขึ้นในอนาคต
ส่วนการรับมือการกลายพันธุ์ที่พบขณะนี้ ทำให้ต้องปรับแผนการฉีดวัคซีนเป็นการฉีดสลับชนิดแทนแบบเดิม เพราะวัคซีนที่มีอยู่ และการฉีดแบบเดิม อาจป้องกันเชื้อกลายพันธุ์ไม่ดีพอ กรมวิทยาศาสตร์ฯ ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ศึกษาทดลองการฉีดวัคซีนในรูปแบบอื่นๆ เพื่อทดสอบภูมิคุ้มกัน เช่น ทดลองในบุคลากรทางการแพทย์ 2,000-3,000 คน ที่แพ้วัคซีนซิโนแวค และเมื่อตรวจเลือด หลังฉีดแอสตราฯ เข็ม 2 ให้ พบภูมิขึ้นดีมาก จัดการสายพันธุ์เดลตาได้ดี ในระยะเวลาที่สั้นกว่าการฉีดแอสตราฯ 2 เข็ม.-สำนักข่าวไทย