ทุจริตลงทะเบียนฉีดวัคซีนศูนย์ฯ บางซื่อ เป็นพฤติกรรมจิตอาสา

สำนักข่าวไทย 1 ก.ค.-ผอ.ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ยันทุจริตลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิดไม่ใช่การแฮ็กระบบ แต่เป็นพฤติกรรมของจิตอาสาค่ายมือถือ ว่าจ้างแอบเข้าระบบมาเติมสิทธิ์ คาดมีคนสวมสิทธิ์มากถึง 7 พันคน และจ่ายใต้โต๊ะคนละ 400-1,200 บาท มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 7 ล้านบาท

พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ์ ผอ.สถาบันโรคผิดหนัง และในฐานะ ผอ.ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ กล่าวชี้แจงการแก้ไข ปัญหาทุจริตลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด ว่า เริ่มพบเห็นความผิดปกติ ในการฉีดวัคซีน ที่สถานีกลางตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เรื่องของการแฮ็กข้อมูลเข้าระบบของสถาบันโรคผิวหนัง หรือเครือข่ายมือถือ แต่เป็นเรื่องของช่องโหว่ที่เปิดให้สิทธิกับกลุ่มจิตอาสา ที่ทางเครือข่ายโทรศัพท์มือถือเข้ามาเติมสิทธิของคนเข้ามาในระบบ ซึ่งเดิมปกติมีเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ในการอัปโหลดเข้ามูล 10 คน และจะทำเสร็จเวลา 22.00 น. ซึ่งในช่วงเวลานั้น จะมีการเปิดคิวฉีดวัคซีนให้กับเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ เฉลี่ย 300 คน/วัน แต่ปรากฏว่าคนจำนวนรับวัคซีนมากผิดสังเกต เพิ่มเป็นหลัก 10 คนต่อวัน จึงได้มีการประสานตำรวจไซเบอร์ และตำรวจรถไฟ และเจ้าหน้าที่ของกรมแพทย์ วางแผนจับกุมขบวนการนี้ เนื่องจากพบว่ามีการจองสิทธิ์ผิดสังเกตเป็นหลัก 1000-2000 คน/วัน ในระหว่างวันที่ 28-31 ก.ค. เฉลี่ยวัน 2000 คน รวมคาดว่ามีผู้สวมสิทธิ์เข้ามาในขบวนการนี้ช่วงเวลานี้ประมาณ 7,000 คน


พญ.มิ่งขวัญ กล่าวว่าทั้งนี้ในวันที่ 28 ก.ค. จึงได้มีการวางล่อซื้อ และจับกุมร่วมกับตำรวจไซเบอร์ จากการตรวจสอบพบว่า ในวันนั้นมีผู้สวมสิทธิ์เข้ามาฉีดวัคซีน 600 คน แต่สามารถจับกุมและกักตัวให้พยานได้ 300 คน และฉีดวัคซีนให้ แต่แลกเปลี่ยนให้ทั้งหมดต้องกรอกข้อมูลรายละเอียดเส้นทางการได้มาของสิทธิ์ฉีดวัคซีน บ้างว่ามาจากเพื่อน บ้างก็ว่าติดต่อทางไลน์ บ้างก็ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ และมีการเสียค่าใช้จ่าย ระหว่าง 400-1,200 บาท ซึ่งหากมีผู้หลงเข้าในรับบริการในลักษณะนี้มี 7,000 คน มูลค่าความเสียหายรวม 7 ล้านบาท พร้อมกันนี้เตรียมตรวจสอบย้อนหลังก่อนวันที่ 18 ก.ค. ว่าจะมีการสวมสิทธิ์เช่นนี้หรือไม่ และจากการขยายผลพบว่ามีการซื้อขายสิทธิ์ยาวไปถึงวันที่ 8 ส.ค. เบื้องต้นคาดว่าอาจมีผู้เกี่ยวข้องไม่ต่ำกว่า 10,000 คน

พญ.มิ่งขวัญ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบจิตอาสาร้อยละ 98 ไม่มีปัญหา เป็นผู้มีจิตใจบริสุทธิ์ พร้อมช่วยเหลือและทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี และมีเพียงแค่ร้อยละ 2 ที่เป็นแบบนี้ และไม่เกี่ยวข้องกับค่ายมือถือ เนื่องจากกลุ่มคนที่ทำพฤติกรรมนี้เป็นเพียงลูกจ้างของค่ายมือถือที่เข้ามาช่วยงานและยังไม่ถือว่าเป็นผู้กระทำผิด เพราะต้องสอบสวนหาตัวใหญ่กว่านี้ คนที่ทำพฤติกรรมนี้ต้องเข้าใจและรู้ระบบการทำงาน อย่างไรก็ตาม พบว่าความผิดปกตินี้เกิดขึ้นใน 11 ยูสเตอร์ จาก 19 ยูสเซอร์ และมีความผิดปกติหนัก ใน 4 ยูสเซอร์ มีอัพโหลดข้อมูลสิทธิ์ของคนฉีดมากกว่า 400-500 คนต่อวัน พฤติกรรมนี้จะมีการนัดหมายให้เข้ามาเฉพาะประตู 4 เท่านั้น และหากมีใครสอบถามก็ให้ตอบเหมือนกันทั้งหมด ที่ผ่านมาศูนย์ฉีดไม่เคยพบปัญหา เริ่มพบปัญหาเมื่อมีการฉีดแบบวอล์กอิน กลายเป็นช่องโหว่ และส่วนใหญ่ของคนที่เข้าสวมสิทธิ์เป็นคนในพื้นที่ กทม. คาดว่าไม่นานตำรวจจะสามารถจับตัวผู้บงการได้ และสาวถึงกระบวนการ เพราะมีไอพีแอดเดรส และ 5 บัญชีที่เป็นการโอนเงิน สามารถสอบเส้นทางการเงินได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้การป้องกันและปิดช่องโหว่ของข้อมูล ได้สั่งการให้ปิดระบบและคอมพิวเตอร์ทั้งหมดตั้งแต่ 18.00 น. ไม่เป็นระบบค้างไว้ข้ามคืน เพื่อป้องกันข้อมูล และผู้ที่เปลี่ยนแปลงข้อมูล จากนี้จะไม่ใช่จิตอาสาอีกต่อไป แต่เป็นเจ้าหน้าที่กรมฯ


พญ.มิ่งขวัญ กล่าวว่า ส่วนการทุจริตเรื่องวัคซีนจะมีเจ้าหน้าที่กรมการแพทย์เกี่ยวข้องหรือไม่ ต้องรอการสอบสวนจากเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นมีผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ประมาณ 19 คน อิงจากจำนวนยูสเซอร์ ทั้งนี้ยังคงเชื่อมั่นในเจ้าหน้าที่ เพราะผู้จับพิรุธเรื่องนี้ เป็นเจ้าหน้าที่กรม มารายงานและได้วางแผนจับกุม ส่วนการฉีดวัคซีนในเดือนสิงหาคม ที่เป็นการเริ่มฉีดในกลุ่มคนลงทะเบียนล่วงหน้า มี 20,000 คนต่อวัน เฉลี่ยอย่างละครึ่งเป็นผู้สูงอายุ 7 กลุ่มโรค คนท้อง และคนอายุ 18 ปีขึ้นไป อย่างไรก็ตามในส่วนของหญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ ยังคงเป็นกลุ่มเดียวที่อนุญาตให้วอล์กอินได้ ส่วนวัคซีนที่ที่ฉีดในสถานี ยังคงเป็นแอสตราฯ เป็นหลัก ยังไม่ใช้สูตร SA (ซิโนแวค+ แอสตราฯ) เพราะยังไม่ได้การสั่งการ ส่วนกลุ่มคนที่รับวัคซีนไปก่อนหน้านั้น จะเริ่มมารับเข็ม 2 ในสิ้นเดือนสิงหาคม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]

ตำรวจภาค 8 รวบ 3 ราย ขบวนการส่งยาขนมากับรถทัวร์

กระบี่ 11 มิ.ย. – รวบขบวนการค้ายาบ้า ขนมากับรถทัวร์ สายเชียงใหม่-ภูเก็ต 3 แสนเม็ด แวะลงกระบี่ ส่งให้เอเย่นต์สาขาสุราษฎร์ฯ ตำรวจรวบทีเดียวทั้งคนส่งและคนรับ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 รักษาการ ผบ.ภ.จ.กระบี่ แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 300,000 เม็ด ประกอบด้วย นายสัมพันธ์ อายุ 54 ปี นายสุรพล อายุ 30 ปี และนางสาวสุนารี อายุ 27 ปี พร้อมยึดรถเก๋ง 1 คัน และแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการส่งมอบยาบ้ากันบริเวณสามแยกเขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เมื่อถึงเวลาก็มีรถทัวร์สายเชียงใหม่-ภูเก็ต […]

‘ฮุน มาเนต’ ย้ำทหารกัมพูชาไม่ได้ถอยออกจากพื้นที่

ปารีส 10 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งสารจากฝรั่งเศสถึงชาวกัมพูชา ยืนยันจุดยืนกองทัพไม่ได้ถอนออกจากพื้นที่ภายใต้อธิปไตย พร้อมร่วมมือกับไทยปักปันเขตแดน ตามกลไกเจบีซี ยกเว้น 4 จุดที่จะส่งศาลโลกตัดสิน ฮุน มาเนต ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยมหาสมุทรของสหประชาชาติ ครั้งที่ 3 ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ส่งสารถึงชาวกัมพูชา มีใจความดังนี้ กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยสันติ แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการพยายามรุกรานใดๆ กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะเข้าร่วมสนับสนุนกลไกการเจรจาชายแดนกับไทยที่มีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม เพื่อดำเนินงานรังวัดและปักปันเขตแดนที่เหลือระหว่าง 2 ประเทศต่อไป ยกเว้นประเด็นที่กัมพูชาจะส่งให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเจ (ICJ) พิจารณา

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ดูบังเกอร์หลบภัย ถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ มท.

11 มิ.ย.- นายกฯ ดูชาวบ้านทำบังเกอร์ ร้องโถ่ ก่อนถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ ก.มหาดไทย หลังรายงานขอรับบริจาคมาใช้แทนยางรถยนต์ วันนี้ (11 มิ.ย. 68) เวลา 13.40 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ต่อมายังหมู่บ้านสกลพัฒนา ตำบลตะเคียน อำเภอกาบเชิง เพื่อพบปะชาวบ้าน มอบสิ่งของ และตรวจดูการทำบังเกอร์หลบภัย โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้มีชาวบ้านนำผ้าขาวม้ามามอบให้ ซึ่งนายกฯ รับมาก่อนจะหันไปหานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า “ผูกกันเป็นทีม” ก่อนจะมอบสิ่งของอุปโภค – บริโภค เพื่อให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมการสร้างบังเกอร์ โดยมีนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านสกลพัฒนา รายงาน โดยนายกรัฐมนตรี ถามผู้ว่าฯ ว่า ขอเข้าไปดูได้หรือไม่ และถามชาวบ้านบ้านว่า “ทำมานานหรือยัง” โดยชาวบ้านบอกว่า […]

คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา-ค้านประกันตัว

กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ ตำรวจคัดค้านการประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวฝากขังพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1 ควบคุมตัวหมอแอร์ ไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากการกระทำความผิดมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะมีการหลบหนีและยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในระหว่างควบคุมตัว หมอแอร์สวมหมวก แว่นตาดำ และแมสก์ปิดบังใบหน้า พยายามแอบอยู่หลังเจ้าหน้าที่ โดยไม่ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด สำหรับผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ วันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) .-สำนักข่าวไทย

เปิดขบวนการ “หมอแอร์” สวมชื่อคนตายซื้อยาเสียสาว

11 มิ.ย. – ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำแถลงกรณี “หมอแอร์” พร้อมพวกรวม 7 คน แอบอ้างชื่อคลินิก 12 แห่ง สั่งซื้อยายาเสียสาว นำมาขายต่อ นาน 3 ปี และยังสวมชื่อคนตาย 370 คน รับยา ขณะที่ รพ.ตำรวจ มีคำสั่งให้ “หมอแอร์” ออกจากราชการไว้ก่อน หลังเมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.68) เจ้าหน้าที่บุกจับ “หมอแอร์” คุณหมอชื่อดัง สังกัดโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมพวก แอบอ้าง 12 คลินิก สั่งซื้อยาควบคุม (ยาเสียสาว) นำมาขายต่อ นาน 3 ปี วันนี้ (11 มิ.ย.68) มีการแถลงข่าวเรื่องนี้ นำโดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย […]

เปิดภาพความจริง! อดีต-ปัจจุบันชายแดนช่องบก

11 มิ.ย. – ‘กองทัพไทย’ เปิดภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ ชายแดนช่องบก อุบลราชธานี เปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน พบการทำกิจกรรมทางทหาร-ขุดคูเลต-ทำถนนส่งกำลังบำรุง ก่อนเหตุปะทะช่องบก 28 พ.ค.2568 ทีมโฆษกกองทัพไทย เปิดข้อมูลแผนที่ทางอากาศ จัดทำโดยกองบัญชาการกองทัพไทย จากกรณีไทย และกัมพูชา มีข้อสังเกตหลายประเด็นที่ปรากฏในภาพถ่ายทางอากาศตรงจุดปะทะ โดยภาพถ่ายทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ปี 2497 ช่วงแรกถ่ายไว้จนถึงปี 2520, 2527 และมีการถ่ายภาพทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่อ้างถึงการยึดครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีปัญหานานมากแล้วนั้น หากมองตามภาพถ่ายทางอากาศ จะยืนยันได้ว่า ไม่มีการเข้าไปใช้พื้นที่อย่างที่อ้าง ข้อมูลของกองทัพไทย ยังได้เปรียบเทียบเส้นสีแดงในแผนที่ เป็นเส้นแนวที่ไทยยึดถือ ใช้แบ่งแนวเขตระหว่างไทย กัมพูชา และลาว ส่วนจุดปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เป็นพื้นที่ที่เข้ามาทางฝั่งไทย ทั้งนี้ กองทัพไทยยังมีการถ่ายทางอากาศต่อเนื่องยาวมาถึงปี 2539, 2546, 2553 และ 2561 เป็นที่สังเกตได้ว่า ช่วง 70 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2497 ไม่มีใครเข้ามาถือครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่นั้น หากมองถึงกิจกรรมของประเทศเพื่อนบ้านที่ประเด็นในปัจจุบันนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนตามภาพถ่ายทางอากาศว่า มีการเคลื่อนไหวทางการทหารที่แตกต่าง […]