สปสช.เผยมีผู้ติดเชื้อโควิดเข้าระบบการดูแลที่บ้าน-ชุมชน แล้ว 3.9 หมื่นราย

กรุงเทพฯ 29 ก.ค.-สปสช.สร้างความมั่นใจให้ ‘คลินิกชุมชนอบอุ่น’ ปรับแนวทางการจ่ายเงินหนุนรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 เข้าสู่การดูแลที่บ้านหรือที่ชุมชน (Home-Community isolation) พร้อมเดินหน้าจัดซื้อชุดตรวจโควิด Antigen Test Kit แจกจ่ายประชาชน


นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า สปสช.ได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกับหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ทั้งคลินิกชุมชนอบอุ่น ศูนย์บริการสาธารณสุข และโรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชน เรื่องระบบการเบิกจ่ายเงินในการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่บ้านหรือที่ชุมชน (Home-Community isolation) ไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 ก.ค.64 ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาความล่าช้าในการรับตัวผู้ติดเชื้อโควิด-19 เข้าระบบการรักษาตัวที่บ้านหรือที่ชุมชน (Home-Community isolation) ของคลินิกชุมชนอบอุ่นได้ เพราะที่ผ่านมาคลินิกชุมชนอบอุ่นอาจยังไม่มั่นใจในเรื่องนี้

นพ.จเด็จ กล่าวว่า ขณะนี้ สปสช.ได้ปรับระบบการจ่ายเงินใหม่ โดยหากหน่วยบริการตอบรับพร้อมดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ขึ้นทะเบียนรักษาผ่านระบบการดูแลที่บ้านหรือที่ชุมชน (Home-Community isolation) ด้วยการให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 พิสูจน์ตัวตน (Authentication Code) ผ่านระบบออนไลน์ด้วยบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด หรือตามแนวทางที่ สปสช.กำหนดแล้ว ทาง สปสช. ก็จะโอนเงินเบื้องต้นเหมาจ่ายในอัตรา 3,000 บาท/ราย ให้แก่หน่วยบริการ โดยจะโอนทุกสัปดาห์


“ถ้าเป็นระบบปกติ หน่วยบริการจำเป็นต้องให้บริการรักษาผู้ป่วยจนครบก่อน จึงจะสามารถเบิกเงินกับทาง สปสช.ได้ และอาจต้องรออีก 2 สัปดาห์ จึงจะได้รับเงิน ฉะนั้นการปรับกระบวนการดังกล่าวนี้จะเป็นกลไกช่วยสนับสนุนให้หน่วยบริการบางแห่งที่ไม่มีกระแสเงินสด เพราะในวันแรกจะต้องมีการส่งอาหาร ปรอทวัดไข้แบบดิจิทัล เครื่องวัดออกซิเจนที่ปลายนิ้วให้กับผู้ป่วย ฉะนั้นเงิน 3,000 บาท จะเป็นงบเบื้องต้นที่ช่วยให้หน่วยบริการมีกระแสเงินสดหมุนเวียนในการให้บริการ” นพ.จเด็จ กล่าว

นพ.จเด็จ กล่าวต่อไปว่า ในช่วงแรกมีหน่วยบริการเข้าร่วมโครงการ 104 แห่ง จากทั้งหมดกว่า 200 แห่ง และจากข้อมูลเมื่อวันที่ 29 ก.ค.64 พบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่หน่วยบริการตอบรับและนำเข้ารักษาด้วยระบบการดูแลที่บ้านหรือที่ชุมชนแล้ว จำนวน 39,500 ราย จึงอยากจะขอความร่วมมือกับหน่วยบริการ โดยเฉพาะคลินิก ให้รับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พักอาศัยอยู่ในละแวกเข้าระบบ ส่วนผู้ติดเชื้อที่ไม่ได้อยู่ใกล้คลินิกก็สามารถรับบริการได้ เนื่องจากมีการใช้ระบบติดต่อผู้ป่วยทางไกล เช่น Video call หรือ Line official

“เราได้มีการทดลองมาแล้วกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก ดังนั้นก็จะสื่อสารกับทางคลินิกว่า แม้จะไม่ได้อยู่ในพื้นที่ แต่ถ้าคลินิกมีความสนใจ หรืออยากจะรับเพิ่ม ก็จะมีการจัดผู้ป่วยให้ เพราะหลักๆ แล้วจะเป็นเรื่องอาหารและยา ซึ่งขณะนี้ได้ใช้การส่งแบบเดลิเวอรี รวมถึงการติดตามผู้ป่วยผ่าน Video call ซึ่งไม่จำเป็นต้องอยู่ใกล้กันก็ได้” นพ.จเด็จ กล่าว


นพ.จเด็จ กล่าวด้วยว่า ในช่วงแรกคาดการณ์ว่า คลินิก 1 แห่ง สามารถบริการผู้ป่วยได้ประมาณ 20-30 ราย ต่อบุคลากรทางการแพทย์ 1 คน แต่จากการประเมินในขณะนี้ ส่วนตัวเชื่อว่าสามารถเพิ่มจำนวนผู้ป่วยเป็นหลักร้อยได้ เนื่องจากมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการติดตาม-ดูแลผู้ป่วย

ทั้งนี้ จากการนำร่องใช้ชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ในการตรวจเชิงรุกนั้นได้ผลค่อนข้างดี โอกาสที่จะเกิดผลบวกปลอมมีต่ำกว่า 3% จึงทำให้ความมั่นใจได้ว่า ชุดตรวจนี้มีความถูกต้อง และในขณะนี้จะใช้ชุดตรวจดังกล่าวเป็นมาตรฐานเบื้องต้นตามมติคณะกรรมการควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และผู้ติดเชื้อสามารถเข้าระบบ Home isolation ได้โดยไม่จำเป็นต้องถามหาผลตรวจ RT-PCR เพื่อยืนยัน ส่วนผู้ป่วยต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลผู้รับจะใช้วิจารณญาณในการจะตรวจ RT-PCR เพื่อยืนยันได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องตรวจด้วยวิธี RT-PCR ก่อนถึงจะได้รับบริการ

อย่างไรก็ตาม ชุดตรวจ ATK ที่จะแจกจ่ายให้กับประชาชนใน 2 เดือนนี้ มีทั้งสิ้น 8.5 ล้านชุด แต่สำหรับหน่วยบริการไม่ได้จำกัดจำนวนชุดในการใช้ ขณะเดียวกัน ในสัปดาห์หน้า นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข จะทำแผนตรวจคัดกรองให้ได้วันละ 1 แสนราย คาดว่าใช้เวลาทั้งหมด 10 วัน จะอยู่ที่ 10 ล้านชุด ตรงนี้จะแยกกันกับในส่วนที่จะแจกให้ประชาชน

ทั้งนี้ ในกรณีที่ตรวจด้วยชุดตรวจ ATK แล้วพบว่าผลเป็นบวก สามารถติดต่อหน่วยบริการใกล้บ้านที่เคยไปรับบริการได้ หรือสายด่วน 1330 กด 14 อย่างไรก็ดี ในขณะนี้เบอร์สายด่วนค่อนข้างหนาแน่น ฉะนั้น สปสช.ได้เพิ่มช่องทางการลงทะเบียนเพื่อเข้าสู่การดูแลที่บ้านหรือที่ชุมชน (Home-Community Isolation) ที่ https://crmhi.nhso.go.th/ กรณีที่ลงทะเบียนแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการติดต่อ ให้กรอกข้อมูลที่ https://crmsup.nhso.go.th/ กรณีผู้ติดเชื้อในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ต้องการกลับไปรักษาที่ภูมิลำเนา ลงทะเบียนที่ https://crmdci.nhso.go.th/ หรือเพิ่มเพื่อนผ่านไลน์ Official Account หรือไลน์ OA ของ สปสช. @nhso เลือกบริการเกี่ยวกับโควิด-19 เพื่อกรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบได้เช่นกัน เนื่องจากทุกข้อมูลจะเข้าสู่ระบบเดียวกัน และจะถูกส่งต่อให้กับคลินิกใกล้บ้านเริ่มดำเนินการดูแลผู้ป่วยด้วยระบบการดูแลที่บ้านหรือที่ชุมชน (Home-Community Isolation).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนรำลึก 20 ปี สึนามิ

ค่ำคืนนี้ที่อนุสรณ์สถานรำลึกสึนามิบ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา สว่างไสวจากแสงเทียนนับพันเล่มที่ถูกจุดขึ้นเพื่อรำลึกถึงบุคคลที่รักซึ่งจากไปในเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี 2547 จากวันนั้นถึงวันนี้ ครบ 20 ปีเต็ม

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการ ปชช.เดินทางช่วงปีใหม่

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยไม่แจ้งล่วงหน้า กำชับ บขส. อำนวยความสะดวกเตรียมพร้อมรถ สั่งเข้มตรวจแอลกอฮอล์-ยาเสพติดพนักงานขับรถ ป้องกันอุบัติเหตุ

เดินทางปีใหม่สายเอเชีย

ถนนสายเอเชียมุ่งสู่ภาคเหนือรถเริ่มมาก

ประชาชน เริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา และไปท่องเที่ยวช่วงส่งท้ายปี 2567 รับปีใหม่ 2568 การจราจรถนนสายเอเชีย ฝั่งขาขึ้นภาคเหนือ ช่วงชัยนาท รถเริ่มมาก

ฉายาตำรวจปี67

เปิด 10 ฉายาตำรวจ ปี 67

สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมฯ เปิด 10 ฉายา ตำรวจ “บิ๊กต่าย” ฉายา “กัปตันเรือกู้” จากภารกิจร้อนในการกอบกู้วิกฤติศรัทธา-ภาพลักษณ์องศ์กร “สารวัตรแจ๊ะ” ได้ฉายา “อย่าเล่นกับระบบ แจ๊ะ”