กรมควบคุมโรค ติดตามใกล้ชิด “โรคลัมปี สกิน”

กทม. 27 ก.ค.-กรมควบคุมโรค ติดตามสถานการณ์ “โรคลัมปี สกิน” อย่างใกล้ชิด หลังพบรายงานผู้ป่วยที่อิยิปต์ ยืนยันยังไม่พบผู้ป่วยในไทย

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีเกี่ยวกับการทำหนังสือจากกรมควบคุมโรคถึงผู้บริหารสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1-12 และสถาบันป้องกันโรคเขตเมืองเพื่อการควบคุมโรคลัมปี สกิน (Lumpy skin disease) ซึ่งพบการระบาดในสัตว์เคี้ยวเอื้องคือ โค กระบือ ในหลายพื้นที่ตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2564 ว่า สาระสำคัญของหนังสือดังกล่าว เป็นการตอกย้ำให้หน่วยงานในสังกัดของกรมควบคุมโรค จัดเตรียมความพร้อมทั้งทางด้านวิชาการ กำลังคน งบประมาณ เพื่อให้การสนับสนุนร่วมมือกับกรมปศุสัตว์ และหน่วยงานในสังกัด เพื่อป้องกันควบคุมโรคลัมปี สกิน โดยเฉพาะการกำจัดแมลงดูดเลือดที่เป็นพาหะนำเชื้อไวรัสชนิดนี้จากสัตว์ที่ติดเชื้อติดต่อยังสัตว์ตัวอื่นๆ เช่น แมลงวันดูดเลือด ยุงรำคาญ เห็บ เป็นต้น ซึ่งกรมควบคุมโรคมีความเชี่ยวชาญในด้านนี้อยู่แล้ว จะช่วยเสริมกลไกการควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว ทันสถานการณ์ เสริมประสิทธิภาพมาตรการอื่นๆ เช่น การฉีดวัคซีน เป็นต้น


อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวต่อไปว่า แม้ว่าขณะนี้ องค์การสุขภาพสัตว์โลก (OIE) ยังไม่มีการยืนยันว่าโรคนี้ติดต่อจากสัตว์สู่คน แต่มีรายงานพบกลุ่มเกษตรกรที่เลี้ยงโค กระบือ ในประเทศอียิปต์ ติดเชื้อนี้จากการสัมผัสสัตว์ที่มีเชื้อ และสัมผัสอุปกรณ์ที่มีเชื้อปนเปื้อน ในรายงานนี้ยังพบการติดต่อจากคนสู่คนได้อีกด้วย หลังติดเชื้อจะมีอาการเหนื่อยล้า น้ำหนักลด มีไข้ มีตุ่มขึ้นที่ผิวหนังที่ใบหน้า มือ บริเวณต้นขา ก้น รอบทวารหนัก มีอาการคันและเจ็บปวด เป็นความทุกข์ทรมาน ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันโรคที่อาจติดต่อจากสัตว์สู่คน กรมควบคุมโรคจึงเห็นควรมีการดำเนินงานเพื่อควบคุมโรคในสัตว์โดยเร่งด่วน ขณะเดียวกันควรต้องเพิ่มการเฝ้าระวังในคนด้วย หากมีปัญหาเกิดขึ้นในอนาคต จะสามารถตรวจจับสัญญาณความผิดปกติ และควบคุมโรคได้อย่างรวดเร็ว ทันท่วงที โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรซึ่งมีความเสี่ยงมากกว่ากลุ่มอื่น เพราะสัมผัสดูแลใกล้ชิดกับสัตว์

“หลักเกณฑ์การเฝ้าระวังโรคลัมปี สกิน ในคน จะเน้นการตรวจคัดกรองที่โรงพยาบาล ดำเนินการในผู้ป่วยที่มีอาการไข้ มีตุ่มขึ้นตามผิวหนัง ร่วมกับมีประวัติ สัมผัสกับสัตว์เคี้ยวเอื้อง เช่น โค กระบือ ที่สงสัยป่วยโรคลัมปี สกิน เพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการประกอบการวินิจฉัยและรักษา ผลการเฝ้าระวังจนถึงขณะนี้ ยังไม่พบผู้ป่วยแต่อย่างใด” นายแพทย์โอภาสกล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

พระเปย์สีกา ช่องโหว่ผลประโยชน์ในดงขมิ้น

รองเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในมหาสารคาม ขอลาสิกขากลางดึก หลังถูกแฉ เป็นพระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ขณะที่รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งตรวจสอบว่า เป็นเงินส่วนตัว หรือ เงินวัด เพราะจะมีความผิดแตกต่างกัน

“สันธนะ” เปิดใจหลังเคลียร์ใจ “ชูวิทย์” กลับไทยขึ้นศาล

“สันธนะ” เผย นอนคิดมา 1 คืนเริ่มใจอ่อนรับคำขอโทษ “ชูวิทย์” รับรู้ถึงความจริงใจ แต่คดีอาญาถอนฟ้องไม่ได้ ต้องปล่อยไปตามกฎหมาย

โผล่อีก! ผู้เสียหายถูก “หมอดูฮวงจุ้ย” คนดังหลอก

เหยื่อโผล่เพิ่ม ถูกหมอดูฮวงจุ้ยคนดัง หลอกปรับฮวงจุ้ยบ้าน สูญเงิน 350,000 บาท มอบหมายทนายส่งเรื่องฟ้องทั้งคดีแพ่งและอาญา

จนท.รุดช่วยอดีตครูจำใจสร้างห้องขังลูกติดยา

หลายหน่วยงานลงพื้นที่ช่วยอดีตครูจำใจสร้างห้องลูกกรง เตรียมขังลูกชายตกเป็นทาสยาเสพติด-พนันออนไลน์ บำบัดนับสิบครั้งไม่หาย พร้อมทำความเข้าใจผิดกฎหมายหน่วงเหนี่ยวกักขัง ขณะที่ รมว.ยุติธรรม เตรียมพิจารณาออกมาตรการบำบัดซ้ำโดยคำสั่งศาล