กทม. 27 ก.ค.-สธ. เผยตรวจโควิดด้วย Antigen Test Kit (ATK) พบเป็นผลบวกลวง 3-5% ต้องตรวจซ้ำด้วย RT-PCR คู่ขนาน ระหว่างรอผลต้องแยกรักษา แต่ถ้าเข้า Home Isolation ไม่ต้องตรวจซ้ำ ส่วนยาฟาวิพิราเวียร์มีในสตอกเกือบ 10 ล้านเม็ด และจะทยอยเข้ามาเกือบ 40 ล้านเม็ด
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ แถลงข่าวประเด็นการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วย Antigen Test Kit หรือ ATK และขั้นตอนการเข้าสู่กระบวนการรักษา ที่กระทรวงสาธารณสุข ว่า การตรวจแบบATK กำลังอยู่ในความสนใจของประชาชน เนื่องจากเป็นชุดตรวจที่ได้ผลเร็ว แต่ที่ขายในท้องตลาด มีหลายชนิด และคุณภาพแตกต่างกัน และยังพบว่าการตรวจด้วย ATK ร้อยละ 3-5 เป็นผลบวกลวง หมายความว่า ผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่ผลเป็นบวกจากการตรวจด้วย ATK อาจจะไม่ได้ติดเชื้อจริง ซึ่งเป็นสิ่งที่แพทย์กังวล การที่นำผู้ไม่ติดเชื้อจริง ไปรักษารวมกับผู้ติดเชื้อในโรงพยาบาลสนาม หรือโรงพยาบาล ฮอสพิเทล อาจจะรับเชื้อได้ หากจะเข้าสู่ระบบการรักษาในโรงพยาบาล หรือ community isolation แยกกักในชุมชน ต้องมีการตรวจซ้ำอีกครั้ง โดยให้ตรวจRT-PCR คู่ขนาน กันไปด้วย เพื่อให้กระบวนการรักษามีประสิทธิภาพ แต่ระหว่างอยู่ในศูนย์พักคอยให้แยกกลุ่มที่ตรวจด้วยATK จากผู้ป่วยทั่วไป รวมถึงแยกห้องน้ำ เมื่อผลตรวจRT-PCR ออกมาว่าเป็นบวก ก็เข้าสู่กระบวนการรักษาตามขั้นตอน แต่หากเป็นลบให้แยกออกมาทันที
แต่กรณีที่หากตรวจ ATK ให้ผลบวก สามารถเข้าระบบ Home Isolation ได้เลย โดยไม่ต้องตรวจซ้ำ ด้วย RT-PCR แต่ต้องอยู่คนเดียว ต้องใช้ห้องนอนคนเดียว ต้องไม่ไปมีปฏิสัมพันธ์กับคนในบ้านคือแยกกิน แยกอยู่ แยกนอน แยกใช้ห้องน้ำ หากแยกห้องน้ำไม่ได้ให้ใช้เป็นคนสุดท้าย แยกทุกอย่าง โดย สปสช.สนับสนุน คืออาหาร 3 มื้อ ส่งถึงที่บ้าน ปรอทวัดไข้ เครื่องวัดออกซิเจนในกระแสเลือด และยาที่จำเป็น หากเริ่มมีอาการ หรือเป็นคนไข้ที่มีโรคประจำตัว ให้เริ่มยาฟาวิพิราเวียร์ให้เร็วที่สุด สามารถส่งยาไปที่บ้านได้ หากเข้าเกณฑ์ ย้ำว่า หากตรวจATK ผลเป็นบวกสามารถ รักษาตัวที่บ้าน หรือ Home Isolation ได้เลยไม่ต้องตรวจซ้ำ
นพ.สมศักดิ์ กล่าวถึง กรณีสามเณรในโรงเรียนพระปริยัติธรรม ย่านบางนา ติดเชื้อกว่า 200 รูป ว่า ได้เข้าสู่กระบวนการรักษาแบบ Community Isolation แยกกักในชุมชนแล้ว แต่กรณีนี้เรียก temple Isolation ซึ่งวัดแห่งนี้ได้ทำศูนย์พักคอยให้พระไปรักษาในศูนย์นี้ ซึ่งมีแพทย์ พยาบาลไปช่วยดูแลและรักษา มีการวัดไข้ วัดออกซิเจนในกระแสเลือด หากมีอาการหนักขึ้น จะนิมนต์มา รพ.สงฆ์ต่อไป เป็นหลักการเดียวกับ Community Isolation
ส่วนสถานการณ์เตียงใน กทม. ขณะนี้ทั้ง รพ.รัฐและเอกชน ตึงเต็มที่ ทั้งสีเหลืองและแดง และตอนนี้กำลังรอเครื่องผลิตออกซิเจน ในหลายๆ ส่วน เพื่อไปฮอสพิเทลรองรับคนไข้สีเหลือง ซึ่งฮอสพิเทล มีห้องประมาณ 20,000 กว่าห้อง หากแปลงตรงนี้ได้ จะมีเตียงรับผู้ป่วยสีเหลืองเพิ่มขึ้น
ส่วนยาฟาวิพิราเวียร์ ขณะนี้องค์การเภสัชกรรม ยืนยันว่า ประเทศไทยมียาฟาวิพิราเวียร์ในสตอกเกือบ 10 ล้านเม็ด และจะทยอยเข้ามาเกือบ 40 ล้านเม็ดในเดือนหน้า ดูจากอัตราการใช้ไม่มีปัญหาเรื่องสตอกยา ในขณะเดียวการ เดิมการเบิกยาค่อนข้างวุ่นวาย ตอนนี้มีการตัดขั้นตอนให้ง่ายขึ้น ทั้งนี้คนไข้ที่เริ่มมีอาการ ก็จะมีการส่งยาฟาวิพิราเวียร์ ไปให้ รวมทั้งขณะนี้มีกลุ่มประชาสังคม ที่ทำงานจิตอาสาช่วยประสานหายาให้คนไข้ที่เริ่มมีอาการเข้ามาทางกรมการแพทย์ ได้จัดยาไปให้ เพียงขอชื่อคนไข้มาขึ้นทะเบียน ย้ำว่าหากสบายดี ไม่มีอาการ ไม่มีโรคร่วม ยังไม่ต้องกินยาฟาวิพิราเวียร์ ให้กินยาลดไข้ ฟ้าทะลายโจรก่อน หากเริ่มมีอาการให้เริ่มยาให้เร็วที่สุด.-สำนักข่าวไทย