fbpx

โปรดเกล้าฯ พระราชทานอภัยโทษ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 ก.ค.64

กรุงเทพฯ 27 ก.ค. – พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ พระราชทานอภัยโทษ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2564 ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ทั่วประเทศ


วันที่ 27 กรกฎาคม 2564 เวลา 13.00 น. เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2564 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ทั่วประเทศ ที่มีความประพฤติดีให้ได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษและปล่อยตัว ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ เพื่อให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นกลับประพฤติตนเป็นพลเมืองดี อันจะเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป

โดยในครั้งนี้มีผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัว ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2564 คือ ผู้ต้องกักขัง ผู้ทำงานบริการสังคมหรือทำงานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับ ผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติ ผู้ต้องราชทัณฑ์ที่เหลือโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี รวมถึงผู้พิการ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคร้ายแรง และชราภาพ เป็นต้น และกลุ่มผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษลดโทษ ได้แก่ ผู้ต้องราชทัณฑ์นอกเหนือจากกลุ่มแรก โดยจะได้รับการลดโทษในอัตราส่วนมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับชั้นและฐานความผิด


นอกจากนี้ พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ได้เพิ่มอาการของโรคที่เป็นเงื่อนไขสำหรับผู้เจ็บป่วยให้ครอบคลุมกับสภาวการณ์ปัจจุบันมากขึ้น โดยได้เพิ่มเติมถึงผู้ป่วยที่มีภาวะติดเตียง ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ รวมทั้งผู้เจ็บป่วยด้วยโรคอัมพาต โรคสมองเสื่อม โรคสมองพิการ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังขั้นรุนแรง โรคโลหิตจางจากไขกระดูกไม่สร้างเม็ดโลหิต และโรคตับวายเรื้อรัง เป็นต้น ตลอดจนให้ผู้เจ็บป่วยที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 60 ปีบริบูรณ์ ที่จำเป็นต้องรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 1 ปี ในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ ให้อยู่ในข่ายได้รับการปล่อยตัวในครั้งนี้ด้วย

ในส่วนของผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ไม่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ประกอบไปด้วย 1) ผู้กระทำความผิดซ้ำและมิใช่นักโทษเด็ดขาดชั้นเยี่ยม 2) นักโทษเด็ดขาดชั้นต้องปรับปรุงหรือชั้นต้องปรับปรุงมาก 3) ผู้กระทำความผิดในคดียาเสพติดรายใหญ่ ที่ได้รับโทษจำคุกภายหลังพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2564 (เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2563) และ 4) นักโทษประหารชีวิตที่เคยได้รับพระราชทานอภัยโทษแล้ว ทั้งนี้ พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป โดยระบุให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน นับแต่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ

กรมราชทัณฑ์ ได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ และเอกชน องค์กรต่างๆ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยให้กับผู้ต้องราชทัณฑ์ทุกคนที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ลดโทษ และจะพ้นโทษในคราวเดียวกันตามพระราชกฤษฎีกานี้ จะต้องผ่านการอบรมโครงการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย โครงการพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว “โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์” ที่มีการอบรมในหลักสูตรฝึกปฏิบัติการเกษตรทฤษฎีใหม่ในพื้นที่ขนาดเล็กให้แก่ผู้ต้องขัง เพื่อให้มีความรู้ติดตัว สามารถนำไปประกอบอาชีพภายหลังพ้นโทษได้ ตลอดจนเป็นการเตรียมพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงทางด้านต่างๆ รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อันจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ และการใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวภายหลังพ้นโทษ นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับเครือข่ายผู้ประกอบการ หรือห้างร้านบริษัทต่างๆ เพื่อเปิดใจและให้โอกาสผู้พ้นโทษที่ได้รับพัฒนาทักษะฝีมือเข้าทำงาน และร่วมเป็นหนึ่งพลังในการผลักดันให้ผู้พ้นโทษหลุดพ้นจากวังวนการกระทำผิด เกิดการพัฒนาตนเอง มีความหวัง และไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ลุยทวงคืนที่ ส.ป.ก. เขาใหญ่ จากนายทุน ทำโรงแรม-บ้านจัดสรรรวม 29 แปลง

นครราชสีมา 16 มี.ค. – “รมว. ธรรมนัส” สั่งที่ปรึกษากฎหมายนำเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพื้นที่ส.ป.ก. ติดแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พบนายทุนบุกรุกครอบครอง ทำโรงแรม รีสอร์ต และบ้านจัดสรร 29 แปลง เตรียมแจ้งผู้ครอบครองรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและเพิกถอนสิทธิ หากไม่ยอมออกจากพื้นที่ จะแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายฟอกเงิน ชี้จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทั่วประเทศพบการใช้ประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินไม่ถูกต้องกว่า 2 ล้านไร่ นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับมอบหมายจากร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับนายวัฒนา มังธิสาร รองเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) นำคณะเจ้าหน้าที่ส.ป.ก. เข้าตรวจสอบพื้นที่ในเขตปฏิรูปที่ดินในอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมาที่อยู่ติดแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และคาบเกี่ยวกับพื้นที่ของนิคมสร้างตนเองซึ่งพบว่า นายทุนเข้าใช้ประโยชน์ที่ดินผิดวัตถุประสงค์และไม่เป็นไปตามระเบียบ โดยก่อสร้างเป็นโรงแรม รีสอร์ต และบ้านจัดสรรชื่อดัง ทั้งนี้มีหลักฐานชัดเจนว่า นายทุนครอบครองพื้นที่ส.ป.ก. บริเวณดังกล่าว รวม 29 แปลงซึ่งการดำเนินการตามกฎหมาย จะใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก โดยจะแจ้งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและเพิกถอนสิทธิในเอกสารส.ป.ก. 4-01 แต่หากผู้ประกอบการไม่ยอมรื้อถอนและออกจากที่ดินไป จะแจ้งความดำเนินคดีตามพ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (15) ความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อม โดยการใช้ […]

ส่งหมายเรียก “บิ๊กโจ๊ก” รับทราบข้อกล่าวหาคดีฟอกเงินเว็บพนัน

ตำรวจเดินทางไปส่งหมายเรียก “บิ๊กโจ๊ก” ที่บ้านพัก เพื่อให้มารับทราบข้อกล่าวหาคดีฟอกเงินเว็บพนัน 21 มี.ค.นี้ ขณะที่ “บิ๊กโจ๊ก” ไม่อยู่บ้าน ย้ำขอดูก่อนออกหมายโดยมิชอบหรือไม่

ข่าวแนะนำ

ประชาชนหลั่งไหลสักการะพระบรมสารีริกธาตุวันสุดท้าย

วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เปิดให้ประชาชนสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ ณ วัดมหาธาตุวชิรมงคล จ.กระบี่ แม้ตลอดทั้งวันสภาพอากาศร้อนจัด แต่ไม่เป็นอุปสรรคต่อพลังศรัทธาของศาสนิกชน

ส่งหนังสือแจ้งพฤติกรรม 2 นักท่องเที่ยวนิวซีแลนด์ ให้สถานทูตฯ รับทราบ

ตม.เพิกถอนวีซ่า 2 นักท่องเที่ยวนิวซีแลนด์ ทำร้ายตำรวจจราจร หลังถูกดำเนินคดี 5 ข้อหาหนัก จ่ออายัดตัวต่อหลังฝากขัง ด้านผู้ว่าฯ ภูเก็ต ย้ำทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย พร้อมทำหนังสือถึงสถานทูตนิวซีแลนด์ แจ้งพฤติกรรมให้ทราบ

นายกฯ สักการะพ่อขุนงำเมือง พบปะชาวพะเยา

นายกฯ สักการะพ่อขุนงำเมือง ก่อนปล่อยปลาและกุ้งกว่า 5 แสนตัว ลงกว๊านพะเยา พูดอ้อน “ฮักพี่น้องพะเยาทุกคนเน้อ” พร้อมกับยิ้มไม่หุบ หลังฟังเด็ก นร.หญิงพูด “พะเยาเมืองรอง แต่ไม่เป็นสองรองใคร” – “มาแล้วจะรู้ อยู่แล้วจะรัก พะเยารอเจอ”