สธ.เพิ่มศักยภาพ รพ.บุษราคัม ดูแลผู้ป่วยสีแดง

กทม. 26 ก.ค.-กระทรวงสาธารณสุข เพิ่มเตียงดูแลผู้ป่วยอาการวิกฤติ เครื่องช่วยหายใจไฮโฟลว์ อุปกรณ์การแพทย์ ระดมแพทย์และเภสัชกร เขตสุขภาพละ 3 คน พยาบาลจังหวัดละ 3 คน รองรับผู้ป่วยสีแดงให้ได้รับการดูแลอย่างเต็มที่ พร้อมสร้างขวัญกำลังใจผู้ปฏิบัติงาน เสนอเพิ่มค่าตอบแทน 3 เท่าจากภาระงานหนัก

วันนี้ (26 กรกฎาคม 2564) นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีความห่วงใยผู้ป่วยโควิด 19 ต้องการให้ทุกคนได้เข้าสู่ระบบการรักษา โดยกลุ่มสีเขียวที่ไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อยได้รับการดูแลที่บ้านหรือในชุมชน ติดตามดูแลโดย ทีมปฏิบัติการเชิงรุก Comprehensive COVID-19 Response Team (CCR Team) สำหรับการดูแลผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองและกลุ่มสีแดงที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น กระทรวงสาธารณสุขได้ให้โรงพยาบาลบุษราคัมร่วมดูแล ขณะนี้รับผู้ป่วยรายใหม่วันละ 300 กว่าราย ยอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ 14 พฤษภาคม – 17 กรกฎาคม 2564 จำนวน 9,435 ราย ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านเพิ่มขึ้นถึง 2,622 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วย ณ วันที่ 25 กรกฎาคม 2564 มีจำนวนสะสม 12,057 ราย ขณะนี้มีผู้ป่วยนอนรักษาในโรงพยาบาล 3,610 ราย กลับบ้านไปแล้ว 8,000 กว่าราย


นายแพทย์เกียรติภูมิกล่าวต่อว่า จากสถานการณ์การระบาดต่อเนื่องและรุนแรงในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทำให้ขณะนี้สัดส่วนของผู้ป่วยที่มีอาการหนักในโรงพยาบาลบุษราคัมมีจำนวนมากขึ้น ที่ประชุม EOC กระทรวงสาธารณสุขได้เห็นชอบให้พัฒนาพื้นที่รองรับผู้ป่วยวิกฤติสีแดงเข้มเพิ่มจำนวน 17 เตียง และได้จัดงบประมาณในการจัดหาเครื่องช่วยหายใจไฮไฟลว์ และอุปกรณ์การแพทย์ที่สำคัญอื่นๆ เพิ่มเติม รวมทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนเครื่องช่วยหายใจไฮโฟลว์เพิ่มอีก 45 เครื่อง เพื่อให้การดูแลผู้ป่วยซึ่งขณะนี้ที่จำเป็นต้องใช้ออกซิเจน 700 ราย และต้องใส่เครื่องช่วยใจไฮโฟลว์ 200 ราย ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากช่วงที่ผ่านมา โดยจนถึงวันที่ 17 กรกฎาคม 2564 มีผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจไฮโฟลว์ 158 ราย, ช่วงวันที่ 18 – 22 กรกฎาคม 2564 มีจำนวน 164 ราย

นอกจากนี้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ได้ระดมกำลังคนเพิ่มจากส่วนภูมิภาค ประกอบด้วย แพทย์และเภสัชกร เขตสุขภาพละ 3 คน พยาบาลจังหวัดละ 3 คน และส่วนกลางสนับสนุนเจ้าหน้าที่ back office วันละ 20 คน เพื่อเป็นกำลังเสริมการทำงานให้ทุกหน่วยงาน รวมทั้งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจบุคลากรที่มีภาระงานหนักมากในเดือนกรกฎาคม โรงพยาบาลบุษราคัมได้เสนอปรับค่าตอบแทนสำหรับผู้ปฏิบัติงานเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการขออนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง


“โรงพยาบาลบุษราคัมยังคงมีเจตจำนงมุ่งมั่นที่จะเป็นที่พึ่งของประชาชน โดยบุคลากรที่มีจิตอาสา จากภูมิภาคของประเทศไทยเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลรักษาอย่างดีที่สุด กระทรวงสาธารณสุข ขอขอบคุณในน้ำใจ ความเสียสละของบุคลากรทุกท่าน ” นายแพทย์เกียรติภูมิกล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง