ห่วงผู้ติดเชื้อโควิด กลับไปรักษาภูมิลำเนา “เหนื่อยล้าเดินทาง”

กทม. 26 ก.ค.-กรมควบคุมโรค ห่วงผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่กลับไปรักษาในภูมิลำเนา “เหนื่อยล้าเดินทาง” ร่างกายอ่อนแอ แนะให้ปรึกษาเจ้าหน้าที่ก่อน

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ห่วงผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ต้องการกลับไปรักษาหรือกักตัวที่ภูมิลำเนาต่างจังหวัด ขอให้ทำในกรณีจำเป็นจริงๆ แนะควรปรึกษาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขก่อนเพื่อประเมินอาการและความปลอดภัย เนื่องจากการเดินทางข้ามจังหวัด ทำให้ร่างกายเหนื่อยล้า ระบบภูมิต้านทานโรคอ่อนแอลง เสี่ยงเกิดอาการป่วยที่รุนแรงขึ้นได้ พร้อมแนะการปฏิบัติตัว 6 ประการ ระหว่างเดินทาง ป้องกันและลดแพร่กระจายเชื้อตลอดเส้นทาง


วันนี้ (26 กรกฎาคม 2564) นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีผู้ติดเชื้อโควิด 19 ที่ทำงานอยู่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล บางส่วนมีความประสงค์จะเดินทางกลับไปรักษาที่โรงพยาบาลหรือกักตัวที่ภูมิลำเนาในต่างจังหวัดว่า กรมควบคุมโรคมีความห่วงใยสุขภาพ เนื่องจากการเดินทางข้ามจังหวัดจะทำให้ร่างกายของผู้ติดเชื้อเกิดความเหนื่อยล้า ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันโรคอ่อนแอลง อาจเพิ่มความเสี่ยงให้อาการป่วยเร็วหรือรุนแรงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน เป็นต้น จึงต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง และทำในกรณีที่มีความจำเป็น ทั้งนี้ขอให้ผู้ติดเชื้อโควิด 19 ปรึกษาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขก่อน โดยอาจเป็นโรงพยาบาล สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปลายทางที่จะกลับไปรักษา เพื่อให้เจ้าหน้าที่ประเมินอาการก่อน และจัดเตรียมความพร้อมรองรับการรักษาอย่างเหมาะสม หรือขอรับคำปรึกษาได้ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพภาพแห่งชาติทางสายด่วน 1330 กด 15 หรือแจ้งลงทะเบียนทางเว็บไซต์ https://crmdci.nhso.go.th เพื่อเข้าสู่ระบบการดูแลในพื้นที่ตามมาตรฐาน

รวมถึงควรเตรียมเอกสารรับรองการเดินทางข้ามจังหวัด หรือ QR Code เพื่อแสดงแก่เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจ โดยสามารถลงทะเบียนได้ 3 วิธีคือ 1.ขอเอกสารรับรองที่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้อำนวยการเขต 2.หากไม่มีข้อ 1 ให้ลงทะเบียนการเดินทางข้ามจังหวัดผ่านทางเว็บไซต์ “หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” https://covid-19.in.th เพื่อนำ QR code แสดงแก่เจ้าหน้าที่ และ 3.ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ที่ด่านตรวจ


ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคขอแนะนำการปฏิบัติตัวในการเดินทาง เพื่อความปลอดภัยของผู้ติดเชื้อและป้องกันการแพร่กระจายเชื้อระหว่างเดินทาง โดยหากเป็นไปได้ขอให้ใช้รถยนต์ส่วนตัว ก่อนเดินทางให้เตรียมสิ่งของต่อไปนี้ให้เพียงพอ ได้แก่ หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ 70% ถุงใส่ขยะส่วนตัว ยาที่ใช้ทั้งรักษาโรคประจำตัวหรือยาบรรเทาอาการป่วยโควิด 19 เตรียมอาหารและน้ำดื่มชนิดขวด พร้อมจดเบอร์โทรศัพท์สายด่วนการแพทย์ฉุกเฉิน 1669 เพื่อแจ้งหากเจ็บป่วยฉุกเฉินในระหว่างเดินทาง และขอให้ประชาชนปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัดระหว่างที่เดินทาง 6 ประการ ดังนี้

  1. สวมหน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง
  2. หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น
  3. ล้างมือบ่อยๆด้วยเจลแอลกอฮอล์ 70 % ก่อนและหลังรับประทานอาหาร เข้าห้องน้ำ หลังจากไอจาม
  4. ห้ามแวะพักระหว่างเดินทาง ขอให้ตรงไปยังโรงพยาบาลหรือสถานที่ปลายทางที่ประสานไว้
  5. หากจำเป็นต้องใช้ห้องน้ำสาธารณะ เช่นที่ปั๊มน้ำมัน ต้องล้างมือฟอกสบู่ก่อนและหลังจากใช้ห้องน้ำ เพื่อตัดวงจรเชื้อและลดการปนเปื้อนพื้นผิวของห้องน้ำ เช่น กลอนประตู สายฉีดชำระ ขันตักน้ำ
  6. เปิดหน้าต่างหรือช่องหน้าต่าง เพื่อให้อากาศหมุนเวียนถ่ายเทภายในรถยนต์ และเมื่อใกล้ถึงปลายทาง
    ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ของสถานพยาบาลหรือสถานที่ที่ได้รับการประสาน เพื่อเข้ารักษาและปฏิบัติตามข้อกำหนดต่อไป หากมีข้อสงสัยสามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่สายด่วนควบคุมโรค โทร. 1422 .-สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Satellite images show wake of destruction of wildfires burning across California

เปิดปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าแอลเอไหม้ลามหนัก

มีหลายปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าในเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอ (LA) ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐไหม้ลามเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นวิกฤตไฟป่าครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูงฝั่งปอยเปต พบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูง 18 ชั้น ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เบื้องต้นพบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา และอาคารดังกล่าวถูกระบุเป็นฐานบัญชาการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีคนไทยถูกหลอกไปทำงานที่นี่จำนวนมาก

Palisades Fire

สหรัฐสั่งอพยพกว่าแสนคนหนีไฟป่า 6 จุดในแคลิฟอร์เนีย

ลอสแอนเจลิส 9 ม.ค.- สหรัฐสั่งอพยพประชาชนมากกว่า 100,000 คน เนื่องจากจำนวนไฟป่าที่โหมไหม้ในเทศมณฑลลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 6 จุดแล้ว เพราะกระแสลมแรงเทียบเท่าเฮอริเคนและสภาพอากาศแล้ง เจ้าหน้าที่เผยว่า ในจำนวนไฟป่าทั้ง 6 จุด มีอยู่ 4 จุดที่ยังไม่สามารถควบคุมได้เลย ไฟป่าจุดแรก คือ พาลิเซดส์ไฟร์ (Palisades Fire) เกิดขึ้นช่วงเช้าวันที่ 7 มกราคมตามเวลาท้องถิ่นใกล้แปซิฟิก พาลิเซดส์ ซึ่งเป็นย่านที่พักอาศัยทางตะวันตกเฉียงเหนือของเทศมณฑล ต้นเพลิงมาจากไฟไหม้พุ่มไม้ที่โหมไหม้จนเกินควบคุมเพราะกระแสลมแรง ต้องอพยพคนอย่างน้อย 30,000 คน ไฟป่าจุดที่ 2 คือ อีตันไฟร์ (Eton Fire) เกิดขึ้นในเย็นวันเดียวกันที่หุบเขาอีตันแคนยอน เผาไหม้พื้นที่ขยายวงกว้างมากพอ ๆ กับไฟป่าจุดแรก ไฟป่าจุดที่ 3 คือ เฮิร์ตส์ไฟร์ (Hurst Fire) เกิดขึ้นกลางดึกวันเดียวกันในย่านซิลมาร์ของนครลอสแอนเจลิส จากนั้นในเช้าวันที่ 8 มกราคมเกิดไฟป่าจุดที่ 4 คือ วูดลีไฟร์ […]

ข่าวแนะนำ

จับนายอำเภอเหนือคลอง เรียกรับเงินผู้รับเหมา แลกจบงาน

ตำรวจแถลงผลปฏิบัติการ “ไม่จ่าย ไม่จบ” จับนายอำเภอเหนือคลอง จ.กระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่ปกครอง เรียกรับเงินใต้โต๊ะบริษัทรับเหมา 50,000 บาท แลกจบงาน

นายกฯ เผยไม่มีคนไทยบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุไฟป่าแอลเอ

นายกฯ เผย ไม่มีคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากเหตุไฟป่าที่แอลเอ มีเพียงร้านอาหารไทยที่ได้รับความเสียหาย สั่ง กงสุลเปิดศูนย์ช่วยเหลือคนไทย