จังหวัดอีสานใต้พร้อมรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลับภูมิลำเนา

สำนักข่าวไทย 24 ก.ค.-จังหวัดอีสานใต้พร้อมรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใน กทม.-ปริมณฑล กลับไปรักษาตัวในภูมิลำเนา แนะโทรแจ้งล่วงหน้าผ่านหมายเลขโทรศัพท์ที่แต่ละจังหวัดจัดเตรียมไว้ก่อนหรือลงทะเบียนที่เว็บไซต์ สปสช. เพื่อจะได้เตรียมเตียง สถานที่และยา พร้อมประสานจัดหารถรับส่งฟรี

นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ ผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพที่ 9 กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 ที่เพิ่มมากขึ้นในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล จนเตียงไม่เพียงพอ ผู้ป่วยจำนวนมากไม่มีเตียงรองรับ ขณะเดียวกัน ก็มีประชากรจำนวนหนึ่งที่แม้ทำงานใน กทม.และปริมณฑล แต่มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัดโดยเฉพาะประชากรจากภาคอีสานซึ่งมีจำนวนมาก ทางเขตสุขภาพที่ 9 ซึ่งประกอบด้วยจังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ สุรินทร์ บุรีรัมย์ รวมถึงจังหวัดในเขต 10 อาทิเช่น ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ยโสธร และ อำนาจเจริญ เป็นต้น จึงพร้อมรับตัวพี่น้องที่ไปทำงานใน กทม.และปริมณฑล ที่ติดเชื้อโควิด-19 กลับมารักษาในภูมิลำเนา


“เรื่องนี้ทางบุรีรัมย์เป็นโมเดลต้นแบบ ทางภาคีเครือข่ายและผู้นำในจังหวัดเขามองว่าลูกหลานทำไมต้องไปนอนรอความเจ็บป่วยอยู่ที่ กทม.และปริมณฑล ถ้าพอจะกลับบ้านได้ก็เอากลับมาดูแลที่ภูมิลำเนาก็ได้ จึงเป็นที่มาของเรื่องนี้ แต่การย้ายกลับบ้านไม่ใช่ปุ๊ปปั๊บย้ายมาเลยเพราะอาจแพร่เชื้อให้คนอื่น ผู้ป่วยต้องติดต่อมาทางจังหวัดก่อนว่ามีความประสงค์จะกลับภูมิลำเนา โดยสามารถลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ของ สปสช. https://crmdci.nhso.go.th/ หรือโทร.แจ้งที่สายด่วน สปสช. 1330 กด 15 หรือโทรติดต่อตามหมายเลขที่ทางจังหวัดจัดเตรียมไว้ให้ จากนั้นจังหวัดก็จะประสานเรื่องการรับส่งโดยมีสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ร่วมกับกรมขนส่งทางบกและทหาร สนับสนุนในเรื่องการเดินทางให้ฟรี ขณะเดียวกันก็ต้องเช็คความพร้อมที่ปลายทางว่าพร้อมรับตัวผู้ป่วยหรือไม่ด้วยเช่นกัน” นพ.พงศ์เกษม กล่าว

อย่างไรก็ดี คาดว่าอาจมีผู้ป่วยบางส่วนที่เดินทางกลับมาเองโดยไม่ได้แจ้งก่อน ซึ่งกรณีแบบนี้ไม่สามารถรับรองได้ว่าจะมีสถานที่ให้หรือไม่ ดังนั้นถ้าจะให้ดีควรแจ้งมาก่อนเพราะทางเจ้าหน้าที่จะได้เตรียมเตียง เตรียมยาและอุปกรณ์ต่างๆรอไว้ให้


นพ.พงศ์เกษม กล่าวอีกว่า ในส่วนการเตรียมระบบรองรับผู้ป่วยที่เดินทางกลับจาก กทม.นั้น ในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 9 ตนเน้นว่าในกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว ถ้าอยู่บ้านเองได้ก็ให้ทำ Home Isolation โดยมีการส่งเครื่องวัดออกซิเจน ปรอทวัดอุณหภูมิและมีแพทย์ติดตามดูแลอาการอยู่ตลอด รวมทั้งการดูแลในชุมชนหรือ Community Isolation เช่น การใช้วัดหรือพื้นที่อื่นๆ เป็นสถานที่พักแก่ผู้ป่วยโดยมีแพทย์ติดตามอาการเช่นเดียวกัน ส่วนเตียงในโรงพยาบาลต่างๆก็ให้ขยายจำนวนเตียงเพื่อรองรับผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดง

นอกจากนี้ ในส่วนของการให้ยา ทางกรมการแพทย์ปรับหลักเกณฑ์ให้สามารถจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์แก่ผู้ป่วยที่อาการเล็กน้อยได้แล้วเพื่อป้องกันไม่ให้อาการทรุดลง ซึ่งก็จะทำให้มีการหมุนเวียนการใช้เตียงได้เร็วขึ้นหรือใช้เตียงน้อยลง ดังนั้นถ้าเอา 2 ปัจจัยนี้มาประกอบกันก็น่าจะมีจำนวนเตียงรองรับพี่น้องที่กลับมารักษาในภูมิลำเนาได้ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าควักหัวใจ

รวบชายชาวจีนฆ่าโหดคู่ขา กรีดหน้าอก ควักหัวใจ-ปอด

ตำรวจรวบชายชาวจีน ก่อเหตุสะเทือนขวัญฆ่าขู่ขาหมกห้องน้ำอพาร์ตเมนต์ กลางเมืองพัทยา พบร่องรอยถูกกรีดหน้าอก ควักหัวใจ ปอดหายไปข้างหนึ่ง

อุทาหรณ์! จอดรถยนต์ติดเครื่องไว้ เจอขโมยขับหนีหาย

อากาศร้อนเป็นเหตุ หนุ่มสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์รถยนต์จอดไว้ ก่อนลงไปซื้อของ เดินออกมาอีกที เจอคนขโมยรถ ขับหนีหายไปแล้ว

ดับแล้ว 8 ราย รถชนบนมอเตอร์เวย์ อัดก๊อปปี้พังยับ

เกิดอุบัติเหตุใหญ่ช่วงกลางดึก บนมอเตอร์เวย์ สาย 7 มุ่งหน้าชลบุรี รถเทรลเลอร์ 2 คัน กับเอสยูวีอีก 1 คัน คนในรถเอสยูวี เสียชีวิต 8 ราย

ข่าวแนะนำ

ญาติเศร้ารับร่าง ตร.เสียชีวิตจากเครื่องบินเล็กตกทะเลชะอำ

ตั้งแถวรับร่างอย่างสมเกียรติ 2 ตำรวจเสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินเล็กตกทะเลชะอำ ตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.ลำปาง และราชบุรี ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว ด้านพ่อของ “ร.ต.อ.จตุรงค์” เผยลางบอกเหตุก่อนเครื่องบินตก ลูกมาขอนอนค้างที่บ้าน รู้ข่าวแทบช็อก

“กล้าธรรม” ขอบคุณคะแนนเสียงชาวนครฯ ลั่นพร้อมพัฒนาแก้ปัญหาให้คนใต้

หัวหน้าพรรคกล้าธรรม ขอบคุณทุกคะแนนเสียงของชาวนครฯ เขต 8 ที่ให้โอกาสพรรคกล้าธรรม เข้ามารับใช้ ลั่นพร้อมช่วย “บิ๊กโอ” พัฒนาแก้ปัญหาให้คนใต้ เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน

“บิ๊กโอ” กล้าธรรม นำโด่งเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีฯ เขต 8

“บิ๊กโอ” ผู้สมัครจากพรรคกล้าธรรม นำโด่งทิ้งห่าง “ไสว” จากภูมิใจไทย แล้วกว่าหมื่นคะแนน ในการเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช เขต 8

ตำรวจได้เบาะแสสำคัญโจรชิงทอง กลางห้างฯ อุดรธานี

วงจรปิดเผยคนร้ายใช้เวลาไม่ถึง 30 วินาที ก่อเหตุชิงทองมูลค่ากว่าล้านบาท กลางห้างฯ จ.อุดรธานี ล่าสุดตำรวจได้เบาะแสสำคัญ ทั้งเส้นทางหลบหนี รวมถึงพาหนะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุแล้ว