fbpx

สธ.​ แถลงแนวทางส่งผู้ป่วยโควิด-19 กลับไปรักษาตัวภูมิลำเนา

กรุงเทพฯ 24 ก.ค.-สธ.​ แถลงแนวทางส่งผู้ป่วยโควิด-19 กลับไปรักษาตัวที่ภูมิลำเนา โดยผู้ป่วยที่ต้องการกลับไปรักษาตัวในบ้านเกิด สามารถลงทะเบียนได้ 2 ช่องทาง ผ่านหมายเลข 1330 หรือลงทะเบียน​ผ่านไลน์


นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้ ทำให้มีผู้ติดเชื้อในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นจำนวนมาก เตียงรองรับผู้ป่วยจึงไม่เพียงพอ รัฐบาลจึงมีนโยบายให้ประชาชนที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่ต่างจังหวัด สามารถกลับไปรักษาตัว ในพื้นที่ภูมิลำเนาของตัวเองได้

ประชากรในพื้นที่กรุงเทพฯ มีทั้งสิ้นประมาณ 8 ล้านคน ในจำนวนนี้ เดินทางมาจากต่างจังหวัดถึง 2 ล้าน 4 แสนคน และขณะนี้มีประชาชนที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่ต่างจังหวัดได้เดินทางออกจากกรุงเทพฯ เพื่อกลับภูมิลำเนาไปแล้ว 504,241 ราย เป็นการเดินทางกลับไปเอง ซึ่งเชื่อว่าในจำนวนกว่า 500,000 รายนี้ ติดเชื้อโควิด-19 กลับไปด้วย และอาจแพร่เชื้อสู่คนรอบข้าง ดังนั้นเพื่อให้การควบคุมการแพร่ระบาดรวมถึงการรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กระทรวงสาธารณสุขจึงมีเป้าหมายที่จะนำผู้ติดเชื้อกลับไปรักษาให้ได้อย่างปลอดภัยและรักษาอย่างทันท่วงที


ดังนั้น หากประชาชนหรือผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่ต่างจังหวัด ประสงค์จะกลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิด สามารถลงทะเบียนผ่านหมายเลข 1330 กด 5 หรือสามารถโหลด แอปพลิเคชัน​ไลน์​ กรอกข้อมูล ชื่อนามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ วันเวลาที่ท่านต้องการเดินทาง ลงไป จากนั้น สปสช. จะดำเนินการส่งข้อมูลของผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลปลายทาง เพื่อให้ทางโรงพยาบาลดำเนินการ เตรียมความพร้อมเรื่องเตียง พร้อมนัดหมายวันเวลาเดินทาง ซึ่งขั้นตอนระหว่างการประสานงาน ใช้เวลาประมาณ 3 วัน และส่งตัวผู้ป่วย ถึงโรงพยาบาลปลายทางเข้าสู่การรักษาไม่เกิน 4 วัน

สำหรับขั้นตอนการเดินทาง หลังผู้ป่วยลงทะเบียนผ่านหมายเลข 1330 หรือลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน​ไลน์​ ไปแล้ว ทางสปสช.จะทำหน้าที่ประสานข้อมูลไปยังโรงพยาบาลปลายทางเพื่อนัดวันเวลาในการส่งผู้ป่วย โดยทาง สปสช. จะทำหน้าที่รับผู้ป่วยจากบ้าน ในพื้นที่กรุงเทพฯไปส่งยังยานพาหนะ ซึ่งในขั้นตอนนี้ขึ้นอยู่กับผู้ป่วยว่าต้องการเดินทางในรูปแบบไหน เช่น บขส. รถไฟ เครื่องบิน หรือยานพาหนะอื่นๆ โดยเจ้าหน้าที่จะแนะนำวิธีการปฏิบัติตัว และประกบส่งถึงปลายทาง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดระหว่างทาง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กโจ๊ก” ร้อง ตร.ขอความเป็นธรรม ปมโดนให้ออกจากราชการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หอบหลักฐานยื่นคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ “ยากูซ่า” จ.นนทบุรี

คดีสะเทือนขวัญ พบชิ้นส่วนมือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ล่าสุดตำรวจจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาได้แล้ว และทราบว่าทั้งผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ เป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น