ราชทัณฑ์ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,072 ราย

กทม. 23 ก.ค.-ราชทัณฑ์ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,072 ราย เร่งค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก ชี้รีบรักษา-รับยาเร็ว ช่วยลดความรุนแรงและลดการเสียชีวิตได้ดี

นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 22 กรกฎาคม 2564 เวลา 16.00 นาฬิกา) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,072 ราย (พบในเรือนจำสีแดง 1,001 ราย และพบในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 71 ราย) หายป่วยเพิ่ม 194 ราย รวมยังมีผู้ต้องขังติดเชื้อที่อยู่ใน การดูแลของกรมราชทัณฑ์ 5,187 ราย และไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตต่อเนื่องเป็นวันที่ 13


ในวันนี้ มีเรือนจำสีขาวที่ปลอดเชื้อเพิ่มขึ้น 1 แห่ง คือ เรือนจำกลางเชียงใหม่ ขณะเดียวกัน เรือนจำสีแดงก็เพิ่มขึ้น 1 แห่งเช่นกัน จากเรือนจำจังหวัดปทุมธานีที่พบการแพร่ระบาด ส่งผลให้จำนวนเรือนจำสีขาวรวม 112 แห่ง และเรือนจำสีแดง 22 แห่ง สำหรับผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ระหว่างรักษา แบ่งเป็นกลุ่มสีเขียว 84.3% สีเหลือง 15.3% และสีแดง 0.4% มีผู้ป่วยที่รักษาหายสะสมแล้ว 36,864 ราย หรือ 86.9% ของผู้ติดเชื้อสะสม 42,445 ราย และมีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 0.1% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด

นายอายุตม์ กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์ภายนอกที่พบการแพร่กระจายเชื้อในวงกว้างมากขึ้น ส่งผลให้เรือนจำและทัณฑสถานทุกแห่งมีความเสี่ยงมากขึ้น กรมราชทัณฑ์ ได้ยกระดับมาตรการที่เข้มข้นในการป้องกัน โดยเฉพาะการตรวจหาเชื้อเชิงรุก ทั้งในเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง ยิ่งในเรือนจำสีแดงที่แพร่ระบาดเดิมต้องเร่งค้นหาและคัดแยกผู้ติดเชื้อให้ได้รับการรักษาโดยเร็ว อันจะเป็นประโยชน์ต่อการควบคุมโรค สามารถควบคุมการระบาดและกลับคืนสู่สภาวะปกติได้อย่างรวดเร็ว จึงอาจทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อและมีเรือนจำที่พบการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นได้ในระยะนี้ ซึ่งจากดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่า การให้ผู้ติดเชื้อเข้าถึงการรักษา
ที่รวดเร็ว และได้รับยาทันเวลา จะสามารถลดความรุนแรงของโรคได้อย่างมีนัยสำคัญ อันจะช่วยลดผู้ป่วยอาการหนัก และลดความสูญเสียได้ในท้ายที่สุด


นอกจากนี้ กรมราชทัณฑ์ ได้กำชับแนวทางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เพื่อป้องกันการ แพร่ระบาดของเชื้อ โดยก่อนการเข้าปฏิบัติงานจะต้องตรวจหาเชื้อพร้อมยืนยันผลว่าไม่ติดเชื้อทุกครั้ง และในเรือนจำสีแดงจะต้องตรวจซ้ำอีกครั้งก่อนออก เพื่อป้องกันการนำเชื้อเข้าและออกจากพื้นที่แพร่ระบาด โดยในระหว่างพักเวร หรือไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ จะต้องป้องกันตนเองจากเชื้อตามมาตรการ D-M-H-T รวมถึงมาตรการอื่นๆ ของกรมราชทัณฑ์ที่วางไว้อย่างเคร่งครัด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนรำลึก 20 ปี สึนามิ

ค่ำคืนนี้ ที่อนุสรณ์สถานสึนามิบ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา สว่างไสวจากแสงเทียนนับพันเล่มที่ถูกจุดขึ้นเพื่อรำลึกถึงบุคคลที่รักซึ่งจากไปในเหตุการณ์สึนามิ เมื่อปี 2547 จากวันนั้นถึงวันนี้ ครบ 20 ปีเต็ม

สอบแล้ว 5 ปาก คลี่ปม “แบงค์ เลสเตอร์” ยังปฏิเสธจ้างดื่มโชว์

ผบช.ภ.2 เผย สอบแล้ว 5 ปาก พยานสำคัญ คลี่ปม “แบงค์ เลสเตอร์” ยังปฏิเสธจ้างดื่มโชว์ พร้อมไล่ไทม์ไลน์ เปิดผลชันสูตรเบื้องต้นหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ส่งชิ้นเนื้อ สารคัดหลั่ง เลือด และเศษอาหารในกระเพาะตรวจแล็บ หาสาเหตุที่แท้จริง

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการ ปชช.เดินทางช่วงปีใหม่

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยไม่แจ้งล่วงหน้า กำชับ บขส. อำนวยความสะดวกเตรียมพร้อมรถ สั่งเข้มตรวจแอลกอฮอล์-ยาเสพติดพนักงานขับรถ ป้องกันอุบัติเหตุ