สธ.แจงการศึกษาประสิทธิผลของวัคซีน

สธ. 23 ก.ค.-สธ.แจงการศึกษาประสิทธิผลของวัคซีนกับโอกาสการติดเชื้อ เป็นการศึกษาในกรอบพื้นที่จังหวัด โดยติดตามกลุ่มคนที่สัมผัสเสี่ยงที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว และนำมาคำนวณหาค่าประสิทธิผลของวัคซีน ซึ่งการศึกษาในช่วงนั้นยังคงเป็นการติดเชื้อจากไวรัสสายพันธุ์อัลฟา


นพ.ทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อรายวันทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น ดูเหมือนจะควบคุมได้ แต่ก็กลับเพิ่ม แม้แต่ประเทศที่มีการฉีดวัคซีนให้ประชากรครอบคลุมถึง 60% ทำให้คาดการณ์ว่า โควิด-19 จะกลายเป็นโรคประจำถิ่นไปในที่สุด ที่น่าสนใจคือ สถานการณ์ของประเทศอังกฤษ ซึ่งอยู่ลำดับ 6 ของโลก เมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่แล้ว ผู้ติดเชื้อรายใหม่มีน้อย แต่ปัจจุบันกลับมากถึง 40,000 ราย/วัน แต่แม้ติดเชื้อมาก ก็ยังมีผู้เสียชีวิตน้อยลงกว่าการระบาดรอบแรก เพราะการเสียชีวิตขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง

ในไทยมีผู้ติดเชื้อกว่า 10,000 ราย มานับสัปดาห์ ถือเป็นการระบาดเข้าสู่วงกว้าง การติดเชื้อรายใหม่ตรวจพบจากการคัดกรองเชิงรุก รวมทั้งในเรือนจำ ภาพรวมประเทศผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ในขาขึ้นที่สูงมากเพิ่มเป็น 2 ทุกๆ สัปดาห์ หากแยกกรุงเทพฯ ปริมณฑล กับต่างจังหวัด พบในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีแนวโน้มสูง แต่เส้นกราฟไม่ชัน อยู่ในช่วงชะลอตัว


ส่วนสาเหตุการมียอดผู้เสียชีวิต 100 รายโดยประมาณ เพราะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ย่อมเพิ่มจำนวนผู้มีอาการรุนแรงมากขึ้นด้วย เชื่อว่าแนวโน้มผู้เสียชีวิตจะน้อยลงในอีก 1 สัปดาห์จากนี้

ส่วนข้อมูลการฉีดวัคซีนในประเทศ ฉีดได้ประมาณวันละ 300,000 เข็ม ยอดรวมตั้งแต่เริ่มต้นฉีด 15,388,939 ล้านโดส การฉีดวัคซีนมีเป้าหมาย คือ 1. ลดการป่วยรุนแรง 2. ปกป้องระบบบริการสุขภาพให้สามารถดูแลคนไข้ได้ นั่นคือฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งฉีดครอบคลุม 100% ของเป้าหมายแล้ว 3. ฉีดในกลุ่มผู้มีอายุ 60 ปี และผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง ซึ่งขณะนี้กระบวนการจัดลำดับการฉีดวัคซีนให้กลุ่มเป้าหมายต่างๆ กำลังเข้าสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้

นพ.ทวีทรัพย์ กล่าวว่า จากการศึกษาพบว่า ในประชาชนปกติ 1,000 คน จะมีการเสียชีวิต หากติดเชื้อโควิด 1 คน เมื่อเทียบกับผู้สูงอายุและผู้มีโรคเรื้อรัง อัตราเสียชีวิตจะสูง คือ 10 คน เสียชีวิต 1 คน อัตราห่างกันเป็น 100 เท่า จึงอยากให้นำผู้สูงอายุ คนมีโรค มาฉีดวัคซีนกันให้ครบ และว่าเราคงต้องอยู่กับโควิดไปอีกระยะหนึ่ง โควิดจึงไม่น่ากลัวจนเราไม่สามารถควบคุมได้ ขึ้นอยู่ที่การเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน


ส่วนการศึกษาประสิทธิผลของวัคซีนที่ก่อนหน้านี้ได้คำนวณว่า วัคซีนซิโนแวคและแอสตราฯ มีประสิทธิผล 90% ในการป้องกันการติดเชื้อ เป็นวิธีประเมินโดยวัดจากการใช้จริง เพื่อสามารถเปรียบเทียบได้ว่าประสิทธิผลของวัคซีนนั้น สามารถป้องกันการติดเชื้อได้จริงหรือไม่ กับอีกปัจจัยหนึ่งที่จะเปรียบเทียบประสิทธิผลของวัคซีนได้ คือ ต้องดูการป้องกันการติดเชื้อในสายพันธุ์เดียวกันที่เกิดขึ้น ดังนั้น การเปรียบเทียบวัคซีนแต่ละตัวในการป้องกันการติดเชื้อต่างสายพันธุ์จึงเป็นการยาก

สำหรับประเทศไทยใช้วัคซีนซิโนแวค ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ฉีดให้กับบุคลากรสาธารณสุข การศึกษาผลจึงทำในพื้นที่ที่ฉีดวัคซีนไว้ ซึ่งมีทั้งสิ้น 4 พื้นที่การศึกษา คือ 1. จังหวัดภูเก็ต การศึกษาในผู้ที่สัมผัสกับคนติดเชื้อ เพื่อดูว่าจะมีการติดเชื้อหรือไม่ โดยซักประวัติว่าเขาเหล่านั้นได้รับการฉีดวัคซีนหรือไม่ และติดเชื้อแค่ไหน, สัมภาษณ์ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 1,541 คน และติดตามว่าติดเชื้อหรือไม่ ภายในระยะเวลา 14 วัน หลังจากสัมผัสผู้ติดเชื้อ จึงพบผลบวก 124 คน พบผลเป็นลบ 1,417 คน นำไปสู่หลักการวิเคราะห์ประสิทธิผลของวัคซีน เป็นเปอร์เซ็นต์ตามพื้นที่นั้นๆ ดังนั้น การพูดถึงประสิทธิผลของวัคซีนว่า 90% บอกถึงศึกษาในกลุ่มผู้มีความเสี่ยงสูงในพื้นที่นั้นๆ

เช่นเดียวกับการศึกษาประสิทธิผลของวัคซีนที่สมุทรสาคร มีการศึกษากลุ่มเสี่ยงสูง 490 คน และสัมภาษณ์ติดตามผู้ได้รับวัคซีนที่ภูเก็ตและเชียงราย ซึ่งขณะที่ทำการศึกษา ใน 4 พื้นที่ยังคงเป็นไวรัสสายพันธุ์อัลฟา ทั้งนี้ ขอย้ำว่าไม่มีวัคซีนใดที่จะฉีดแล้วป้องกันการติดเชื้อได้ 100% และสถานการณ์เช่นนี้เป็นเหมือนกันทั่วโลก ไม่ใช่ AZ หรือซิโนแวค แม้แต่การได้รับไฟเซอร์ ก็ไม่สามารถป้องกันได้ 100%

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญจะดูปฏิกิริยาของวัคซีนต่อสายพันธุ์ไวรัสด้วยว่า สายพันธุ์เดลตาจะทำให้ภูมิต้านทานลดลงหรือไม่ จะปรับวิธีการใช้วัคซีนเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้มากขึ้นอย่างไร

ส่วนนโยบายฉีดวัคซีนให้บุคลากรทางการแพทย์เพื่อบูสเตอร์ ส่วนมากได้ซิโนแวคกัน 2 เข็มมาแล้ว เข็ม 3 เพื่อกระตุ้นควรเป็น mRNA หรือ AZ ก็ได้ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการจะอนุมัติ จากนั้นก็จะฉีดให้ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง หญิงมีครรภ์ และเน้นในพื้นที่ระบาด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องหยุดยิงคืนนี้เวลา 24.00 น.

มาเลยเซีย 28 ก.ค.-ผลหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เห็นพ้องหยุดยิงคืนนี้ เวลา 24.00 น. และกลับไปใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง แถลงการณ์ร่วมต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับการประชุมพิเศษที่มาเลเซียเป็นเจ้าภาพ เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันระหว่างกัมพูชาและไทย รัฐบาลของประเทศมาเลเซีย กัมพูชา และไทย ได้ออกแถลงการณ์ร่วมฉบับนี้ ภายหลังจากการประชุมพิเศษที่จัดขึ้น ณ เมืองปูตราจายา ประเทศมาเลเซีย โดยมีนายกรัฐมนตรี ดาโต๊ะ ซรี อันวาร์ อิบราฮิม เป็นประธาน เจ้าภาพ และผู้ร่วมสังเกตการณ์ พร้อมด้วยนายกรัฐมนตรีสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนด แห่งกัมพูชา และรองนายกรัฐมนตรีรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย โดยมีสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ร่วมจัด และสาธารณรัฐประชาชนจีนเข้าร่วมอย่างแข็งขัน เพื่อส่งเสริมการแก้ไขสถานการณ์ด้วยสันติวิธี นายกรัฐมนตรีฮุน มาแนด และรองนายกรัฐมนตรีภูมิธรรม เวชยชัย ได้แสดงจุดยืนและความตั้งใจที่จะหยุดยิงโดยทันที และคืนสู่สภาวะปกติ ประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ติดต่อกับผู้นำของทั้งสองประเทศเพื่อเรียกร้องให้หาทางออกอย่างสันติ ส่วนฝ่ายจีนก็ได้ติดต่ออย่างใกล้ชิดกับกัมพูชา ไทย มาเลเซีย และประเทศที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมการเจรจา การหยุดยิง และการฟื้นฟูสันติภาพ การมีส่วนร่วมและความร่วมมือของทุกฝ่ายสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นร่วมกันในการสร้างสันติภาพ […]

ทหารไทยบึ้มเสาสัญญาณเครือข่าย smart

ศรีสะเกษ 28 ก.ค.-เปิดภาพทหารไทยบึ้มเสาสัญญาณเครือข่าย smart ใช้โดรนทิ้งบอมบ์ที่ตั้งทางทหารกัมพูชา พื้นที่ภูมะเขือ เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ภายหลังทหารไทยเข้ายึดพื้นที่ได้ทั้งหมด และมีการทำลายกระเช้าและบันได ที่ทหารกัมพูชาใช้เป็นเส้นทางในการขึ้นมาบนภูมะเขือ ล่าสุดทหารไทยใช้ระเบิดทำลายเสาสัญญาณเครือข่าย smart ของกัมพูชาบนยอดภูมะเขือ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ กองทัพบก ยังเผยแพร่คลิปการใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีที่ตั้งทางทหารของฝ่ายกัมพูชา บริเวณด้านล่างภูมะเขือ.-313.-สำนักข่าวไทย

บุกยิงกลางตลาด อ.ต.ก.จตุจักร ตาย 6 เจ็บ 2

กทม. 28 ก.ค. – คนร้ายบุกยิงในตลาด อ.ต.ก. จตุจักร ก่อนจบชีวิตตัวเอง เสียชีวิตรวม 6 ราย บาดเจ็บ 2 ราย เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วันนี้ (28 ก.ค.68) เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตในตลาด อ.ต.ก.จตุจักร จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่าคนร้ายชื่อนายน้อย อายุ 61 ปี เป็นเจ้าของแผงขายสินค้าในตลาด อ.ต.ก. ก่อเหตุจ่อยิงศีรษะ รปภ. 4 คน และแม่ค้า 2 คน ก่อนจบชีวิตตัวเอง ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่พุ่งเป้าเรื่องความขัดแย้ง .-สำนักข่าวไทย

วันที่ 5 ชายแดนสุรินทร์ปะทะหนักแต่เช้ามืด

สุรินทร์ 28 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 5 ชายแดนสุรินทร์ กัมพูชาเปิดฉากปะทะหนักตั้งแต่เช้ามืด โดยเฉพาะโซนปราสาทตาควาย ด้านทีมข่าวลงพื้นที่ ต.บักได พบกระสุน BM-21 ตกจำนวนมาก บางหมู่บ้านเกิน 40 ลูก ขณะที่ศูนย์พักพิง ชาวบ้านยังมีปัญหาการหลับนอน และยังต้องการสิ่งของบริจาคจำนวนมาก ทีมข่าวลงพื้นที่ ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ วันนี้ มีกระสุน BM 21 มาตกในพื้นที่เป็นจำนวนมาก บางหมู่บ้านเกินกว่า 40 ลูก แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวบ้าน แต่สถานการณ์การปะทะ ที่เข้าสู่วันที่ 5 ทำให้วัวตายไปหลายตัว ส่วนใหญ่ตกในพื้นที่ทางการเกษตร โดยวันนี้พบว่า มีการเปิดฉากยิงปะทะกันด้วยอาวุธหนักตั้งแต่ช่วงเวลาตี 3 และมีเสียงดังอย่างต่อเนื่องจนถึงขณะนี้ เว้นระยะบ้าง เสียงรัวถี่บ้าง สลับกันไป โดยเฉพาะช่วง 10 โมงครึ่งที่ผ่านมา มีการปะทะกันชุดใหญ่เกินครึ่งชั่วโมง ทำให้เครื่องบินรบ F 16 ต้องขึ้นบินถล่ม เมื่อ 11 โมงเศษที่ผ่านมา สองแนวหลักที่ยิงข้ามมาเป็นประจำคือ […]