สธ.แจงการศึกษาประสิทธิผลของวัคซีน

สธ. 23 ก.ค.-สธ.แจงการศึกษาประสิทธิผลของวัคซีนกับโอกาสการติดเชื้อ เป็นการศึกษาในกรอบพื้นที่จังหวัด โดยติดตามกลุ่มคนที่สัมผัสเสี่ยงที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว และนำมาคำนวณหาค่าประสิทธิผลของวัคซีน ซึ่งการศึกษาในช่วงนั้นยังคงเป็นการติดเชื้อจากไวรัสสายพันธุ์อัลฟา


นพ.ทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อรายวันทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น ดูเหมือนจะควบคุมได้ แต่ก็กลับเพิ่ม แม้แต่ประเทศที่มีการฉีดวัคซีนให้ประชากรครอบคลุมถึง 60% ทำให้คาดการณ์ว่า โควิด-19 จะกลายเป็นโรคประจำถิ่นไปในที่สุด ที่น่าสนใจคือ สถานการณ์ของประเทศอังกฤษ ซึ่งอยู่ลำดับ 6 ของโลก เมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่แล้ว ผู้ติดเชื้อรายใหม่มีน้อย แต่ปัจจุบันกลับมากถึง 40,000 ราย/วัน แต่แม้ติดเชื้อมาก ก็ยังมีผู้เสียชีวิตน้อยลงกว่าการระบาดรอบแรก เพราะการเสียชีวิตขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง

ในไทยมีผู้ติดเชื้อกว่า 10,000 ราย มานับสัปดาห์ ถือเป็นการระบาดเข้าสู่วงกว้าง การติดเชื้อรายใหม่ตรวจพบจากการคัดกรองเชิงรุก รวมทั้งในเรือนจำ ภาพรวมประเทศผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ในขาขึ้นที่สูงมากเพิ่มเป็น 2 ทุกๆ สัปดาห์ หากแยกกรุงเทพฯ ปริมณฑล กับต่างจังหวัด พบในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีแนวโน้มสูง แต่เส้นกราฟไม่ชัน อยู่ในช่วงชะลอตัว


ส่วนสาเหตุการมียอดผู้เสียชีวิต 100 รายโดยประมาณ เพราะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ย่อมเพิ่มจำนวนผู้มีอาการรุนแรงมากขึ้นด้วย เชื่อว่าแนวโน้มผู้เสียชีวิตจะน้อยลงในอีก 1 สัปดาห์จากนี้

ส่วนข้อมูลการฉีดวัคซีนในประเทศ ฉีดได้ประมาณวันละ 300,000 เข็ม ยอดรวมตั้งแต่เริ่มต้นฉีด 15,388,939 ล้านโดส การฉีดวัคซีนมีเป้าหมาย คือ 1. ลดการป่วยรุนแรง 2. ปกป้องระบบบริการสุขภาพให้สามารถดูแลคนไข้ได้ นั่นคือฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งฉีดครอบคลุม 100% ของเป้าหมายแล้ว 3. ฉีดในกลุ่มผู้มีอายุ 60 ปี และผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง ซึ่งขณะนี้กระบวนการจัดลำดับการฉีดวัคซีนให้กลุ่มเป้าหมายต่างๆ กำลังเข้าสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้

นพ.ทวีทรัพย์ กล่าวว่า จากการศึกษาพบว่า ในประชาชนปกติ 1,000 คน จะมีการเสียชีวิต หากติดเชื้อโควิด 1 คน เมื่อเทียบกับผู้สูงอายุและผู้มีโรคเรื้อรัง อัตราเสียชีวิตจะสูง คือ 10 คน เสียชีวิต 1 คน อัตราห่างกันเป็น 100 เท่า จึงอยากให้นำผู้สูงอายุ คนมีโรค มาฉีดวัคซีนกันให้ครบ และว่าเราคงต้องอยู่กับโควิดไปอีกระยะหนึ่ง โควิดจึงไม่น่ากลัวจนเราไม่สามารถควบคุมได้ ขึ้นอยู่ที่การเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน


ส่วนการศึกษาประสิทธิผลของวัคซีนที่ก่อนหน้านี้ได้คำนวณว่า วัคซีนซิโนแวคและแอสตราฯ มีประสิทธิผล 90% ในการป้องกันการติดเชื้อ เป็นวิธีประเมินโดยวัดจากการใช้จริง เพื่อสามารถเปรียบเทียบได้ว่าประสิทธิผลของวัคซีนนั้น สามารถป้องกันการติดเชื้อได้จริงหรือไม่ กับอีกปัจจัยหนึ่งที่จะเปรียบเทียบประสิทธิผลของวัคซีนได้ คือ ต้องดูการป้องกันการติดเชื้อในสายพันธุ์เดียวกันที่เกิดขึ้น ดังนั้น การเปรียบเทียบวัคซีนแต่ละตัวในการป้องกันการติดเชื้อต่างสายพันธุ์จึงเป็นการยาก

สำหรับประเทศไทยใช้วัคซีนซิโนแวค ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ฉีดให้กับบุคลากรสาธารณสุข การศึกษาผลจึงทำในพื้นที่ที่ฉีดวัคซีนไว้ ซึ่งมีทั้งสิ้น 4 พื้นที่การศึกษา คือ 1. จังหวัดภูเก็ต การศึกษาในผู้ที่สัมผัสกับคนติดเชื้อ เพื่อดูว่าจะมีการติดเชื้อหรือไม่ โดยซักประวัติว่าเขาเหล่านั้นได้รับการฉีดวัคซีนหรือไม่ และติดเชื้อแค่ไหน, สัมภาษณ์ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 1,541 คน และติดตามว่าติดเชื้อหรือไม่ ภายในระยะเวลา 14 วัน หลังจากสัมผัสผู้ติดเชื้อ จึงพบผลบวก 124 คน พบผลเป็นลบ 1,417 คน นำไปสู่หลักการวิเคราะห์ประสิทธิผลของวัคซีน เป็นเปอร์เซ็นต์ตามพื้นที่นั้นๆ ดังนั้น การพูดถึงประสิทธิผลของวัคซีนว่า 90% บอกถึงศึกษาในกลุ่มผู้มีความเสี่ยงสูงในพื้นที่นั้นๆ

เช่นเดียวกับการศึกษาประสิทธิผลของวัคซีนที่สมุทรสาคร มีการศึกษากลุ่มเสี่ยงสูง 490 คน และสัมภาษณ์ติดตามผู้ได้รับวัคซีนที่ภูเก็ตและเชียงราย ซึ่งขณะที่ทำการศึกษา ใน 4 พื้นที่ยังคงเป็นไวรัสสายพันธุ์อัลฟา ทั้งนี้ ขอย้ำว่าไม่มีวัคซีนใดที่จะฉีดแล้วป้องกันการติดเชื้อได้ 100% และสถานการณ์เช่นนี้เป็นเหมือนกันทั่วโลก ไม่ใช่ AZ หรือซิโนแวค แม้แต่การได้รับไฟเซอร์ ก็ไม่สามารถป้องกันได้ 100%

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญจะดูปฏิกิริยาของวัคซีนต่อสายพันธุ์ไวรัสด้วยว่า สายพันธุ์เดลตาจะทำให้ภูมิต้านทานลดลงหรือไม่ จะปรับวิธีการใช้วัคซีนเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้มากขึ้นอย่างไร

ส่วนนโยบายฉีดวัคซีนให้บุคลากรทางการแพทย์เพื่อบูสเตอร์ ส่วนมากได้ซิโนแวคกัน 2 เข็มมาแล้ว เข็ม 3 เพื่อกระตุ้นควรเป็น mRNA หรือ AZ ก็ได้ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการจะอนุมัติ จากนั้นก็จะฉีดให้ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง หญิงมีครรภ์ และเน้นในพื้นที่ระบาด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

14 รมต.ใหม่ เข้าทำเนียบถ่ายรูป ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ

ทำเนียบ 3 ก.ค.- ชื่นมื่น! 14 รมต.ใหม่ เข้าทำเนียบฯ ตั้งแต่ช่วงเช้า ถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ “อรรถกร” มาถึงคนแรก ปิดท้ายด้วย “นายกฯ แพทองธาร” เตรียมประชุม ครม. นัดพิเศษในช่วงบ่าย แบ่งงานรองนายกฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล รัฐมนตรีใหม่ 14 คน ทยอยเดินทางมายังตึกสันติไมตรี เพื่อตรวจเอทีเค ถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ โดยเวลา 07.40 น. รัฐมนตรีที่เดินทางมาเป็นคนแรก คือ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรสหกรณ์ และ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากนั้น นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตามด้วย นายอนุชา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคเหนือ-อีสานตอนบน-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายภาค ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนล่างและเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง […]

กู้ร่างครบแล้ว เหตุไฟไหม้โรงงานทิชชู เสียชีวิต 10 ราย

สระบุรี 2 ก.ค. – เหตุไฟไหม้โรงงานกระดาษทิชชู ในนิคมเหมราช จ.สระบุรี ล่าสุดพบร่างที่ 10 ซึ่งเป็นร่างสุดท้าย ถือว่าภารกิจการค้นหาสิ้นสุดแล้ว ปฏิบัติการค้นหาร่างผู้สูญหายกว่า 50 ชั่วโมง ยุติลงแล้ว หลังเกิดเพลิงไหม้อาคารบริษัทผลิตกระดาษทิชชู ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรม ดับบลิว เอช เอ ซอย 8 อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ช่วงเที่ยงวันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ทีมกู้ชีพ กู้ภัยร่วมกตัญญู กู้ภัยสว่างรัตนตรัย และกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกับฝ่ายปกครอง และชุดค้นหาเร่งระดมสรรพกำลัง ปูพรมค้นหาร่างผู้สูญหาย 10 คน นำโดยนายสันทัศน์ รันดาเว นายอำเภอหนองแค ลงพื้นที่เกาะติดการค้นหาผู้สูญหาย ช่วง 10.30 น. มีรายงานจากทีมค้นหามูลนิธิร่วมกตัญญู แจ้งว่า ที่ชั้นบนของอาคารเกิดเหตุ พบร่างผู้สูญหายอีก 1 ร่าง อยู่ในสภาพเหลือแต่กระดูกบริเวณชั้นที่ 2 ฝั่งตะวันตกของโรงงาน ถือเป็นผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้รายที่ […]

เร่งคลี่คลายคดีโจรฉกเงิน-ทองคำ วัดม่วง

กทม. 2 ก.ค. – ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีโจรวัดม่วง ลักเงินเจ้าอาวาส 10 ล้าน ทองคำ 250 บาท หายล่องหน ขณะที่อดีตพระคนสนิท เผยประตูกุฏิล็อกถึง 5 ชั้น เชื่อฝีมือคนใน พร้อมเรียกร้องตรวจสอบเงินบริจาควัด ความคืบหน้า เหตุคนร้ายย่องลักทรัพย์ เงิน 10 ล้าน-ทองคำหนัก 250 บาท ภายในกุฏิเจ้าอาวาส วัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค วันนี้ชุดสืบสวนของ บก.ปปป. ร่วมกับชุดคลี่คลายคดีของ สน.เพชรเกษม เดินทางไปที่วัดม่วงเพื่อตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติม แต่เมื่อเดินทางไปที่กุฎิเจ้าอาวาส ปรากฏว่า กุฏิปิดเงียบล็อกกุญแจจากด้านหน้า ไร้เงาเจ้าอาวาส เจ้าหน้าที่ ปปป. จึงพยายามโทรไปหาเจ้าอาวาสแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่อดีตพระคนสนิทเจ้าอาวาสวัดม่วง เปิดเผยว่า หลังปรากฏข่าว เจ้าอาวาสได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความว่าเงินและทองคำภายในกุฏิหาย ส่วนตัวตั้งข้อสังเกตว่ากุฏิดังกล่าวไม่มีรอยงัดแงะ และการจะเข้าไปภายในต้องผ่านประตูซึ่งล็อกถึง 5 ชั้น แทบไม่มีความเป็นไปได้ที่บุคคลอื่นจะเข้าไปได้ มองว่าตู้เซฟที่เก็บทรัพย์สินไว้นั้นมีขนาดใหญ่ การจะนำทรัพย์สินภายในออกไปน่าจะทำได้ยาก […]