สำนักข่าวไทย 23 ก.ค.- WHO ชี้ไทยเผชิญวิกฤตโควิดแรง ผิดฟอร์มรอบแรกที่รับมือได้ดี เพราะไวรัสกลายพันธุ์ การจะกลับมารับมือกับโรคได้ดีอีกครั้ง ต้องเพิ่มความเข้มข้นมาตรการส่วนบุคคล ขณะที่ “หมอนคร” ชี้การกลายพันธุ์ไม่ใช่ความผิดพลาดของคนทำงาน และหากบอกวัคซีนไม่ประสิทธิภาพก็ไม่เป็นธรรม เพราะวัคซีนเกิดก่อนไวรัสกลายพันธุ์ แต่ในฐานะคนทำงาน พยายามรับผิดชอบและทำงานอย่างเต็มที่
นพ.ริชาร์ด บราวน์ ผู้อำนวยการโครงการด้านภัยสุขภาพฉุกเฉิน องค์การอนามัยโลก สำนักงานประจำประเทศไทย กล่าถึงสถานการณ์การระบาดของโควิด -19 ในไทย ว่า การระบาดระลอกแรกของไทยทำได้ดีมากทางองค์การอนามัยโลกได้ประเมินความสำเร็จของไทยในปีที่แล้ว ส่วนสถานการณ์ในขณะนี้ที่มีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อมากขึ้น เพราะการกลายพันธุ์ ซึ่งเป็นธรรมชาติของไวรัสที่มีการเปลี่ยนแปลง และประเทศไทยไม่ได้มีปัญหาแค่ประเทศเดียว แต่เป็นเหมือนกันทั่วโลก ที่ทุกประเทศกำลังเผชิญ ทั้งเรื่องวัคซีนที่อาจไม่เพียงพอและไวรัสที่กลายพันธุ์แพร่กระจายได้ง่ายขึ้น แต่ยังไม่เปลี่ยนมาตรการส่วนบุคคล ฉะนั้นต้องเพิ่มความเข้มข้นเรื่องมาตรการส่วนบุคคล ทุกคนต้องทำให้เข้มข้น ใช้มาตรการที่ได้ผลดีอยู่แล้ว ให้เข้มข้นขึ้น ใช้มาตรการส่วนบุคคลต่างๆ การสวมหน้ากาก การเว้นระยะห่าง การล้างมือ ทำให้กราฟการติดเชื้อในผู้ป่วยลดลง
พญ.ชุลีพร จิระพงษา นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ปีที่แล้วเนื่องจากมีการระบาดไม่ใหญ่ทำให้จัดการได้ดี แต่ขณะนี้มีเรื่องสายพันธุ์ที่ทำให้รุนแรงขึ้น แพร่เร็วขึ้น วัคซีนรับมือได้น้อยลง ยืนยันว่าทุกภาคส่วนยังต้องร่วมมือกัน ประชาชนก็ต้องร่วมกันป้องกันตัวเอง ซึ่งที่ผ่านมาเราอาจจะการ์ดตกบ้าง การระบาดระลอกนี้เลยใหญ่มากๆ แต่พื้นที่นอก กทม.ระบบสาธารณสุขยังแข็งแรงพอสมควรที่จะรับมือได้ ส่วน กทม.ค่อนข้างยาก ทั้งเรื่องจำนวนประชากรและระบบสาธารณสุขที่มีหลายภาคส่วนทำให้รับมือได้ช้า แต่คิดว่าอีกสักระยะน่าจะจัดการได้ ขณะนี้อยากให้เน้นฉีดวัคซีนในกลุ่มเสี่ยง คือผู้สูงอายุเกิน 60 ปี 7 กลุ่มโรคเสี่ยง และหญิงตั้งครรภ์ ให้ได้เยอะที่สุด ซึ่งเราหวังว่าจะถึงขาลงของเคิร์ฟได้ใน 2-3 เดือนนี้
นพ.นคร เปรมศรี ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวว่า อดีตที่รับมือกับโรคได้ดีเพราะความร่วมมือของทุกคน ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคเป็นอย่างดีการระบาดในรอบแรกเป็นไวรัสปกติ แต่เมื่อเกิดการกลายพันธุ์จากอัลฟาและเดลตา ในช่วงแรกสมุทรสาครก็ผ่านมาด้วยดีเพราะมาตรการที่ทุกคนร่วมมือ ย้ำไวรัสกลายพันธุ์ไม่ใช่ความผิดพลาดของคนทำงาน ไวรัสกลายพันธุ์เป็นธรรมชาติของไวรัส การกลายพันธุ์ก็ไม่ใช่เพราะว่าวัคซีนไม่มีประสิทธิภาพไม่ได้ผลเพราะวัคซีนเกิดก่อน ที่จะมีไวรัสกลายพันธุ์ ฉะนั้นก็อาจจะไม่ยุติธรรมกับวัคซีน ขณะนี้บผู้ผลิตวัคซีนกำลังพัฒนาวัคซีนที่มีการตอบสนองต่อไวรัสกลายพันธุ์ ตัววัคซีนก็ต้องไล่ตามไวรัสเสมอและใช้เวลาในการพัฒนา วัคซีนซิโนแวค ใช้เวลา 6 สัปดาห์ แอสตราฯ ใช้เวลา 8-10 สัปดาห์ ในการสร้างภูมิคุ้มกัน การมีวัคซีนมากๆแล้วไปฉีดดักหน้าไวรัส ตอนนี้ทั่วโลกก็ไม่มีประเทศไหนมีวัคซีนเพียงพอ ที่จะฉีดดักหน้าไวรัสกลายพันธุ์ ส่วนจีนใช้มาตรการควบคุมเฉพาะบุคคลอย่างเข้มข้น
นพ.นคร กล่าวว่า การจัดหาวัคซีนไม่ทันเป็นเรื่องจริง คนทำงานก็รับผิดชอบและพยายามทำงานอย่างเต็มที่และเป็นเหมือนกันทั่วโลก ตอนนี้ทุกคนพยายามทำงานอย่างเต็มที่ วัคซีนที่มีอยู่ 2 ตัว ยังวช่วยลดการเจ็บป่วยรุนแรงแม้ไวรัสกลายพันธุ์ ตอนนี้เป้าหมายการฉีดวัคซีนต้องพุ่งเป้าให้ตรงจุด ฉีดให้ได้มากในกลุ่มคนสูงอายุ คนป่วย 7 โรคเรื้อรัง และคนอ้วน หญิงตั้งครรภ์ เพื่อลดกรณีป่วยอาการหนัก วัคซีนต้องฉีดคนไม่ป่วย เพื่อป้องกันไว้ .-สำนักข่าวไทย