ธนาคารเลือดศิริราช ขาดแคลนทุกหมู่เลือด

รพ.ศิริราช 22 ก.ค.- รพ.ศิริราช ขาดแคลนทุกหมู่เลือด วอนผู้มีสุขภาพดีร่วมกันช่วยบริจาค เนื่องจากสถานการณ์โควิดทำให้ยอดผู้บริจาคเลือดลดลง


วันนี้ (22 ก.ค.)โรงพยาบาลศิริราช ออกประกาศ “ด่วน ! วิกฤติโควิด 19 ธ.เลือดศิริราช ขาดแคลนทุกหมู่เลือด วอนผู้มีสุขภาพดีบริจาคช่วยผู้ป่วย” จากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด 19 ทำให้จำนวนผู้บริจาคเลือดลดลง อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลศิริราชยังมีผู้ป่วยฉุกเฉินที่ต้องรับการผ่าตัด ผู้ป่วยโรคเลือดที่จำเป็นต้องใช้เลือดในการรักษา ส่งผลให้ขณะนี้ (22 ก.ค. 64) เลือดสำรองทุกหมู่ขาดแคลนหนัก อาจทำให้ไม่สามารถให้บริการผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่อง โรงพยาบาลศิริราชจึงขอเชิญชวนผู้ใจบุญทุกท่านร่วมบริจาคเลือด เพื่อช่วยผู้ป่วยฉุกเฉิน ผู้ป่วยที่รอการผ่าตัด รวมถึงผู้ป่วยโรคเลือดที่จำเป็นต้องใช้เลือด หากท่านมีสุขภาพดี และไม่มีความเสี่ยง ไม่ได้สัมผัสหรือใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่สงสัยหรือติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) และไม่ได้เดินทางไปในสถานที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ (โควิด 19) ในระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มาร่วมช่วยชีวิตคนไทยด้วยกัน ซึ่งศูนย์รับบริจาคเลือดศิริราชมีระบบคัดกรองความเสี่ยงอย่างปลอดภัยและได้มาตรฐาน โดยวัดอุณหภูมิทั้งเจ้าหน้าที่และผู้บริจาคเลือด ก่อนเข้าสถานที่ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ทุกคนได้รับการประเมินความเสี่ยงก่อนมาปฏิบัติงาน รวมทั้งทำความสะอาดอุปกรณ์และสถานที่อย่างสม่ำเสมอ

สำหรับท่านที่ต้องการบริจาคเลือด ขอให้เตรียมร่างกายให้พร้อม โดยพักผ่อนเพียงพออย่างน้อย 6 ชั่วโมง น้ำหนัก 48 กิโลกรัมขึ้นไป และต้องไม่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคลมชัก โรคหัวใจหรือเคยเจ็บแน่นหน้าอก เป็นต้น ทั้งนี้สามารถรับประทานอาหารและน้ำได้ตามปกติ แต่ขอให้หลีกเลี่ยงอาหารประเภทที่มีไขมันสูง งดสูบบุหรี่ งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไม่เข้าข่ายผู้มีความเสี่ยงติด COVID-19 ในกรณีผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน COVID-19 ขอให้งดเว้น 7 วัน หากมีอาการข้างเคียงขอให้งดเว้น 14 วันหลังไม่มีอาการ จึงสามารถบริจาคเลือดได้


อนี่ง หากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่มีความประสงค์จะบริจาคเป็นหมู่คณะ สามารถแจ้งความจำนงค์ให้ทางศูนย์ นำรถบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ออกไปให้บริการ ติดต่อได่ที่ ศูนย์รับบริจาคเลือดศิริราช อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา ชั้น 3 รพ.ศิริราช ทุกวัน เวลา 08.30 – 16.00 น. (ไม่เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์) โทร. 0 2414 0100, 0 2414 0102 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

ตร.เชื่อชิงทอง 113 บาท ก่อเหตุคนเดียว วางแผนมาอย่างดี

เหตุคนร้ายชิงทองในร้านทองกลางห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้ทองรูปพรรณ 113 บาท มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ตำรวจเชื่อคนร้ายก่อเหตุเพียงคนเดียว และวางแผนมาเป็นอย่างดี

บึ้มสนั่นโรงพัก! มือมืดซุกระเบิดใต้รถกระบะของตำรวจ

2 เหตุไม่สงบ จ.นราธิวาส คนร้ายซุกระเบิดรถเจ้าหน้าที่ก่อนจุดบึ้ม ขณะจอดที่ สภ.ศรีสาคร ส่วนที่ อ.ยี่งอ ไฟไหม้รถปลัดอำเภอ เร่งตรวจสอบเอี่ยวป่วนใต้หรือไม่

ระงับจ่ายไฟ

“ภูมิธรรม” สั่งระงับจ่ายไฟฟ้าชายแดน ยันไม่ต้องเข้า ครม.

“ภูมิธรรม” ใช้อำนาจรองนายกฯ ความมั่นคง สั่งระงับจ่ายไฟฟ้าชายแดน ยันทำได้ทันทีไม่ต้องเข้า ครม. พร้อมเปิดระเบียบ กฟภ.สั่งตัดไฟฟ้าเองได้ หากพบกระทบความมั่นคง ลั่นหากหน่วยไหนไม่ทำตาม จะดึงตัวมาช่วยราชการ ชี้ไม่ใช่แม่พระใจดี ที่จะนิ่งเฉยได้ หากเมียนมาไม่ดำเนินการภายใน ก็ต้องรับผลกระทบ