นพ.ประสิทธิ์ แจงเหตุผลฉีดวัคซีนไขว้สลับชนิด

สำนักข่าวไทย 21 ก.ค.-นพ.ประสิทธิ์ แจงเหตุผลฉีดวัคซีนไขว้สลับชนิดรับมือเดลตา ช่วยกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาวที่บีเซลล์ และทีเซลล์ ทำหน้าที่ดักจับและฆ่าเชื้อไวรัสได้ดี ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันในระยะเวลาอันสั้นเพียง 5 สัปดาห์


ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เปิดเผยถึงสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ของโลก ว่า ขณะนี้อัตราการติดเชื้อรายวันเพิ่มสูงขึ้น เป็นผลมาจากไวรัสสายพันธุ์เดลตาแพร่เร็วและครอบคลุมไปทุกทวีปทั่วโลก แต่กราฟอัตราการเสียชีวิตไม่ได้เพิ่มสูงขึ้น เป็นผลมาจากวัคซีน ขณะนี้มีวัคซีนใน 4 แพลตฟอร์ม ได้แก่ ไวรัลเวกเตอร์, mRNA, โปรตีนเบส และวัคซีนเชื้อตาย ซึ่งวัคซีนซิโนแวคเข้ามาช่วยในช่วงแรก ก่อนไวรัสมีการกลายพันธุ์ สมัยที่ยังเป็นสายพันธุ์อู่ฮั่น และอื่นๆ ยังไม่ใช่เดลตา ก็ถือว่าวัคซีนเข้าช่วยได้ในระดับที่ดีมาก

ทั้งนี้ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เมื่อรับวัคซีนเข้าไป จะมีผลต่อการทำงานของเม็ดเลือดขาวที่แตกต่างกัน ได้แก่ กลุ่มเม็ดเลือดขาวแบบบีเซลล์ จะกระตุ้นและตอบสนองได้ดีเมื่อได้รับวัคซีนชนิดเชื้อตาย (ซิโนแวค) โดยจะไปกระตุ้นให้ บีเซลล์ ทำหน้าที่ในการคุมเชื้อไวรัสที่แปลกปลอมเข้าไปในร่างกาย ไม่ให้เกิดการติดเชื้อในเซลล์ กลไกเหมือนกับการจัดการกับไข้หวัดใหญ่ ส่วนกลุ่มเม็ดเลือดขาวแบบทีเซลล์ จะถูกกระตุ้นได้ดีเมื่อได้รับวัคซีนชนิดไวรัลเวกเตอร์ (แอสตราฯ) และ mRNA (ไฟเซอร์, โมเดอร์นา) โดยภูมิคุ้มกันแบบทีเซลล์ จะถูกกระตุ้นให้ฆ่าเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัส


ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับปรับรูปแบบการฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 ซิโนแวค วัคซีนชนิดเชื้อตาย ซึ่งกระตุ้นบีเซลล์ได้ 3 สัปดาห์ แล้วตามด้วยแอสตราฯ เป็นเข็ม 2 กระตุ้นทีเซลล์ รวมเวลา 5 สัปดาห์ ภูมิคุ้มกันจะเพิ่มสูง เพียงพอป้องกันสายพันธุ์เดลตา ลดการป่วยหนักและเสียชีวิต ส่วนการฉีดแอสตราฯ 2 เข็ม แต่ต้องเว้นระยะ 10-12 สัปดาห์ และขณะนี้พบว่าแอสตราฯ เข็มเดียวไม่เพียงพอป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา การฉีด 2 เข็ม กว่าจะมีภูมิคุ้มกันต้องใช้เวลามากถึง 14 สัปดาห์ ขณะนี้ทั่วโลกมีวัคซีนรุ่นที่ 1 และกำลังมองหาวัคซีนรุ่นที่ 2 เพื่อครอบคลุมการกลายพันธุ์ ซึ่งจะออกมาในปี 2565 สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ได้ไปคุยกับบริษัทผู้ผลิตวัคซีน เตรียมจองซื้อวัคซีนรุ่นที่ 2 แล้ว แต่ระหว่างนี้อีก 6-7 เดือน จะทำอย่างไรให้คนไทยปลอดภัย นั่นคือการจับคู่วัคซีนเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันที่ดีพอ ให้ปลอดภัยจากสายพันธุ์เดลตา การฉีดวัคซีนแบบไขว้สลับชนิด เชื้อตายกับไวรัลเวกเตอร์ มีการวิจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผลออกมาตรงกัน คือ ภูมิคุ้มกันขึ้นสูงและปลอดภัย ก่อนที่จะมีการปรับสูตร ได้ฉีดไขว้สลับชนิดไปแล้วกว่า 1,000 คน ไม่มีรายงานผลข้างเคียง วัคซีนไขว้สลับชนิดจึงมีหลักฐานทางวิชาการยืนยันถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัย

ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับวัคซีนเข็มที่ 3 บูสเตอร์โดส ซึ่งพบว่าซิโนแวค 2 เข็ม ทำงานได้ดีตั้งแต่ปี 63 ถึงต้นปี 64 แม้ในบางประเทศที่ฉีดซิโนแวคครบ 2 โดส แม้มีสายพันธุ์เดลตาก็ไม่มีการระบาด แต่ขณะที่ในหลายประเทศฉีดซิโนแวคครบ 2 เข็ม ยังติดเชื้อเพิ่ม ดังนั้น จึงต้องป้องกันบุคลากรด่านหน้าที่มีความเสี่ยงสูงให้ได้มากที่สุด และจำเป็นต้องฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้บุคลากรด่านหน้า จากนั้นจะเติมเต็มวัคซีนเข็มที่ 3 ให้กับประชาชนที่ได้รับซิโนแวคครบ 2 เข็ม. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้