ผอ.รพ.บุษราคัม แจงเบิกค่าตอบแทนตามระเบียบ

สธ.21 ก.ค.-ผอ.รพ.บุษราคัม ยันเบิกจ่ายตามระเบียบ แถมปลัด สธ.เห็นชอบเพิ่มค่าตอบแทนนอกเวลาราชการของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบุษราคัมเป็น 2 เท่าในเดือนกรกฎาคม


นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ ผู้อำนวยการ รพ.บุษราคัม แถลงข่าวการบริหารจัดการ รพ.บุษราคัม ผ่านช่องทางออนไลน์ ระบุว่า รพ.บุษราคัม เปิดเมื่อวันที่14 พ.ค.64 ในเวลา 2 เดือนเศษ มีคนไข้ติดเชื้อโควิดเข้ารักษา 10,395 คน ปัจจุบันหายออกแล้ว 6,955 คน นอนรักษาตัวอยู่ 3,300 คน โดยตามกำลังเจ้าหน้าที่จะรับเข้าผู้ป่วยโควิดได้วันละ 300-400 คน รวมมีเจ้าหน้าที่ 300 คนเศษ เป็นแพทย์ 50-60 คนพยาบาล 200คน ที่เหลือเป็นผู้ช่วยเหลือคนไข้ พนักงานเอกสาร เจ้าหน้าที่รังสี และอาสาสมัครจากคนไข้ที่หายจากโรคแล้วมาเป็นพนักงานเวรเปล ที่จ้างชั่วคราว มาทำงานโดยให้บริการคนไข้ในกทม.และปริมณฑล

สำหรับเจ้าหน้าที่ รพ.บุษราคัมเกือบ100% มาจากภูมิภาคทั้งสิ้น ทำให้ช่วงเวลานี้ ซึ่งงดการบินด้วย ทำให้การส่งเจ้าหน้าที่มายาก จำนวนพยาบาลจากเดิมเกือบ250 คน เหลือน้อยลงอีก จึงต้องทำงานหนักขึ้น


ผอ.รพ.บุษราคัม กล่าวอีกว่า จากเดิม รพ.บุษราคัม เพื่อดูแลคนไข้ปานกลาง แต่ตอนนี้ต้องดูแลคนไข้หนัก มีผู้ป่วยต้องใช้ออกซิเจนมากถึง 500 คน อีก170คน ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ โดยใส่ท่อ ช่วยหายใจ 6-9คนต่อวัน ที่เหลือใช้เครื่องไฮโฟว์ ประมาณ 160 เครื่องต่อวัน เจ้าหน้าที่ทุกส่วนจึงทำงานอย่างหนัก ตามมาด้วยความกดดัน เหนื่อย เครียด ส่งผลให้การสื่อสาร ทำความเข้าใจไม่ทั่วถึง และมีปัญหาปรากฏตาม สื่อโซเชียล ซึ่งคณะกรรมการโรงพยาบาลได้ ประชุมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รับฟังเสียงสะท้อน ในสถานการณ์ ที่ไม่ปกตินี้ ก็พยายามจัดหาเครื่องมือที่จะช่วยให้ทำงานสะดวกขึ้น รองรับผู้ป่วยที่เพิ่มจำนวนขึ้นอีกด้วย

ผอ.รพ.บุษราคัม ยังกล่าวถึง การเบิกจ่ายค่าตอบแทนของผู้ปฏิบัติงานในรพ.บุษราคัม ดังที่มีกระแสในโซเชียล ว่าเป็นการสื่อสารที่ไม่ทั่วถึง ซึ่งตอนนี้ได้มีการชี้แจง ในรายบุคคลแล้ว การเบิกจ่าย เป็นไปตามระเบียบราชการ รพ.บุษราคัมเป็นโรงพยาบาลลูกข่าย รพ.พระนั่งเกล้า เบิกจ่ายทุกประเภทจากต้นสังกัดคือ รพ.พระนั่งเกล้า เป็นตามระเบียบราชการ ซึ่งขณะนี้ปลัด สธ.ได้มีนโบายในการดูแลขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ใน รพ.บุษราคัม โดยเดือน ก.ค.จะจ่ายค่าตอบแทนนอกเวลาราชการเป็น 2 เท่า เฉพาะผู้ปฏิบัติงานที่รพ.บุษราคัม ซึ่งในแต่ละผลัดมีแค่ 70 คน ต้องมีเจ้าหน้าที่ผัดอื่นอยู่เวรนอกเวลาราชการ เพื่อช่วยดูแลผู้ป่วยกว่า 3300 คน และกำลังรับสมัครคนไข้ที่หายและครบ14 วันแล้วมาเป็นผู้ช่วยผู้ป่วย

สำหรับการเบิกค่าตอบแทน รพ.บุษราคัม ทำตามระเบียบราชการทุกอย่าง ซึ่งค่าเสี่ยงภัยเป็นงบประมาณแผ่นดิน จัดสรรเป็นงวด ผ่านสำนักงบประมาณ คนที่ทำงานอยู่ขณะนี้จึงจะยังไม่ได้ แต่จะได้ภายหลัง ตามระเบียบ


ส่วนเรื่องค่าเดินทาง 8 บาท ปกติได้จัดหาที่พักมีรถรับส่งจองโรงแรม จากที่พักมารพ.บุษราคัมอยู่แล้ว จึงอาจเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน ในการสื่อสาร ซึ่งได้ขอให้ดำเนินการให้ครบถ้วน ให้ดูให้ละเอียด เงินที่เบิกจ่ายตอบแทนจึงมี2ส่วน 1. ค่าตอบแทนเสี่ยงภัย และ เงินส่วนที่เบิกจากต้นสังกัดนั้นๆ รพ.บุษราคัมไม่ใช่ผู้เบิกจ่าย เว้นแต่เฉพาะค่าตอบแทนล่วงเวลาที่รพ.ดำเนินการให้ ถ้าทำ งานเดือนนี้ ปลายเดือนหน้าได้รับจ่าย

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ทุกส่วน ทุกโรงพยาบาลก็ทำงานหนักเช่นกัน ไม่ใช่เฉพาะโรงพยาบาลบุษราคัม และยืนยันนโยบายไม่ปฏิเสธ คนไข้

ในการแถลงข่าวครั้งนี้ยังได้ชี้แจงกรณีภาพในโซเชียลที่ รพ.สระบุรี มีการนำผู้ป่วยไปนอนที่ด้านหน้าว่า เป็นช่วงเวลาจัดระบบดูแล ผู้ป่วยโควิดสีเหลืองที่มีหนาแน่นมากขึ้น โดยด้านหน้าที่เห็นยังเป็นพื้นที่ รพ.และขณะนี้ รพ.สระบุรีได้เพิ่มตึก ดูแลคนไข้โควิดมากขึ้นแล้ว โดยจะมีการแถลงข่าวที่ รพ.สระบุรีในช่วงบ่ายวันนี้ (21ก.ค.) .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]