พบชายป่วยโควิดนอนเสียชีวิตกลางถนนหน้าวัดบวรฯ

กรุงเทพฯ 21 ก.ค. – พบชายติดโควิด-19 นอนเสียชีวิตกลางถนนตรงข้ามวัดบวรฯ ตั้งแต่เช้า ไม่มีใครมาเก็บศพ กระทั่งเวลา 22.30 น. เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งสวมชุด PPE เข้าเก็บร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตร อีกจุดพบศพชายนิรนามหน้าร้านศึกษาภัณฑ์ ยังไม่มีการยืนยันสาเหตุการเสียชีวิต อีกรายนอนป่วยโควิด-19 รอเตียง เสียชีวิตเป็นรายที่ 2 ของบ้าน ย่านบางคอแหลม


เมื่อเวลา 19.00 น. วานนี้ (20 ก.ค.) ตำรวจ สน.ชนะสงคราม รับแจ้งพบศพบนถนนสามเสน เขตพระนคร จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณตรอกบ้านพานถม ตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหาร พบศพชายไทย อายุประมาณ 40-50 ปี ไม่ทราบชื่อ ไม่มีเอกสารติดตัว สวมเสื้อยืดสีม่วง นุ่งกางเกงขายาวสีดำ รองเท้าแตะสีดำ สภาพนอนหงาย ไม่มีบาดแผลจากการถูกทำร้าย เจ้าหน้าที่จึงคลุมผ้าและใช้กรวยยางกั้นพื้นที่ไว้

ตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าช่วงเวลา 10.00 น. ผู้ตายเดินออกมาจากย่านชุมชน ก่อนมาล้มลงบริเวณดังกล่าว แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่ทราบว่าผู้ตายเป็นคนเร่ร่อน และติดเชื้อโควิด-19 จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือ กระทั่งเวลาประมาณ 14.00 น. มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยใส่ชุดป้องกันมาช่วยให้ออกซิเจน จนเวลาประมาณ 16.00 น. ชายคนดังกล่าวเสียชีวิต ชาวบ้านได้แจ้งไปยังหลายหน่วยงาน แต่ไม่มีหน่วยงานใดมาเก็บศพ


เวลา 21.00 น. ผู้สื่อข่าวสอบถามไปที่ พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม เปิดเผยว่า สน.ชนะสงคราม ได้เร่งประสานดำเนินการ อยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจเข้าเก็บศพ เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 จึงต้องใช้ความระมัดระวัง ส่วนสาเหตุที่ใช้เวลานานเนื่องจากกำลังเจ้าหน้าที่และรถมีไม่เพียงพอ

กระทั่งเวลา 22.30 น. เจ้าหน้าที่มูลมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งสวมชุด PPE เข้าดำเนินการเก็บร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรที่ รพ.วชิรพยาบาล ก่อนติดตามหาญาติให้รับไปบำเพ็ญกุศลต่อไป

พบศพชายนิรนามหน้าร้านศึกษาภัณฑ์
อีกจุดพบชายเสียชีวิตบนทางเท้าบริเวณหน้าศึกษาภัณฑ์ ถนนราชดำเนินกลาง เสียชีวิตตั้งประมาณ 6 โมงเย็น ยังไม่รู้ที่มาที่ไป กระทั่งเวลา 22.20 น. เจ้าหน้าที่ในชุด PPE มาเก็บร่างผู้เสียชีวิต โดยยังไม่มีการยืนยันถึงสาเหตุการเสียชีวิต


สลด! นอนป่วยโควิด รอเตียงเสียชีวิตเป็นคนที่ 2 ของบ้าน
เวลาไล่เลี่ยกัน 21.30 น. ตำรวจ สน.วัดพระยาไกร เข้าตรวจสอบ หลังรับแจ้งมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านพักอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ซอยเจริญกรุง 107 แยกย่อยซอยที่ 9 เขตบางคอแหลม พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย อายุ 26 ปี ชาวบ้านบอกว่าเป็นผู้ป่วยโควิด-19 ภายในบ้านยังมีผู้พักอาศัยอีก 3 คน หนึ่งในนั้นแม่ของผู้ตายที่อายุมากแล้ว ทุกคนโศกเศร้า นั่งกอดกันร้องไห้ระงม ทราบต่อมาว่าบ้านหลังนี้อยู่กัน 6 คน พ่อแม่ ลูก และน้าสาว ขณะนี้พ่อรักษาตัวที่โรงพยาบาล ต่อมาวันที่ 16 กรกฎาคม ได้สูญเสียผู้เป็นน้าสาวไปจากโควิด-19 เป็นศพแรก กระทั่งเมื่อคืน (20 ก.ค.) ก็มาเสียน้องชายไปอีก 1 คน ซึ่งติดโควิด-19 เช่นกัน ซึ่งคนในบ้านติดเชื้อโควิด-19 มานานแล้ว และจะเก็บตัวกันอยู่ภายในบ้าน ไม่ได้ออกไปไหน เบื้องต้นมีหน่วยงานของอาสาสมัครคอยส่งข้าว ส่งยาให้บ้างเป็นบางครั้ง มีไรเดอร์มาส่งอาหารหน้าบ้านเป็นประจำ แต่ไม่เคยเห็นหน่วยงานของภาครัฐเข้ามาดูแล กระทั่งต้องสูญเสียคนในบ้านไปเป็นศพที่ 2 แล้ว จึงอยากขอวิงวอนหน่วยงานมาช่วยนำผู้ป่วยที่ยังเหลือชีวิตรอดอีก 3 คน ไปรักษาตัว ชาวบ้านบางคนถึงกับยืนร้องไห้เมื่อต้องมาบอกเล่าถึงเรื่องราวของบ้านหลังนี้

เบื้องต้นทางทีมงานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างผู้เสียชีวิตใส่ถุงบรรจุศพอย่างมิดชิด ก่อนส่งไปฌาปณกิจที่วัดเป็นการเร่งด่วน ชาวบ้านแถวนี้ต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากจะให้หน่วยงานภาครัฐช่วยเร่งหามาตรการช่วยเหลือผู้ป่วยจากเชื้อโควิด-19 ให้เร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่านี้

พบศพชายเร่ร่อนริมถนน ตรวจเบื้องต้นไม่พบเชื้อโควิด
ยังมีผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย ถูกพบบริเวณทางเท้าริมถนนหทัยราษฎร์ หน้าห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านคลองเตย เป็นชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 30 ปี มีผู้พบเห็นว่าชายคนดังกล่าวเดินมาใกล้จุดเกิด เหตุก่อนจะล้มลงหมดสติ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยสวมหน้ากากอนามัย ทำให้ประชาชนในละแวกนั้นเกรงจะเสียชีวิตจากโควิด-19 จึงแจ้งตำรวจ สน.ทองหล่อ และกู้ชีพร่วมกตัญญู มาตรวจสอบในที่เกิดเหตุ

เบื้องต้นแพทย์จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เข้ามาตรวจสอบด้วยการสวอปโพรงจมูกและคอ ชุดทดสอบแจ้งผลว่าไม่มีเชื้อโควิด-19 แต่เจ้าหน้าที่เกรงว่าชายคนดังกล่าวเป็นกลุ่มเสี่ยง เนื่องจากเป็นคนเร่ร่อน ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง อีกทั้งยังไม่ได้ระมัดระวังป้องกันตัวจากการแพร่ระบาด จึงให้เจ้าหน้าที่ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ และรอรถเก็บศพของผู้ติดเชื้อโควิค-19 มาดำเนินการ เพื่อป้องกันความเสี่ยงกับเจ้าหน้าที่ทุกคน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก