สำนักข่าวไทย 20 ก.ค.-ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ ชี้ยังไม่จำเป็นฉีดวัคซีนในเด็ก แม้ขณะนี้อัตราเด็กป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นจากเดลตาร้อยละ 12-13 และอัตราตายร้อยละ 0.03 เพราะเด็กไม่แพร่เชื้อ ส่วนใหญ่หายเอง ห่วงพ่อแม่กังวลเสียสละ อยากให้ลูกรับวัคซีนแต่ไม่จำเป็น แนะผู้ใหญ่ใกล้ชิดเด็กควรได้รับวัคซีน
นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา ประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงแถลงการณ์ โรคโควิด-19 ในเด็ก (ฉบับที่ 2/2564) วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 สำหรับเด็กเพื่อลดความตระหนักในผู้ปกครอง เนื่องจากสถานการณ์การติดเชื้อโควิด -19 ในเด็กยังไม่สูงเท่าผู้ใหญ่ โดยพบเด็กติดเชื้อจากเดลตามากขึ้นเป็น 12-13 % และอัตราการเสียชีวิต 0.03 % ทั้งนี้เพื่อลดความตระหนกในผู้ปกครอง เพราะพ่อแม่รักลูก ย่อมอยากให้ลูกได้รับวัคซีน เป็นเครื่องป้องกัน ยิ่งวัคซีนมีน้อย ก็อยากจะเสียสละให้ลูก แต่หลักฐานทางวิชาการชัดเจนว่า อัตราการแพร่เชื้อในเด็กน้อย เด็กกับเด็กติดเชื้อกันเองแทบไม่มี เด็กไม่ใช่ตัวแพร่เชื้อ
ส่วนการติดเชื้อในเด็กเกิดจากการติดในครอบครัว รับเชื้อจากผู้ใหญ่ ดังนั้นผู้ใหญ่ที่ใกล้ชิดเด็กต้องรับวัคซีน ทั้งพ่อแม่ ครู ส่วนเด็กที่มีโรคประจำตัว อ้วน เบาหวาน โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งและภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ หรือที่ป่วยติดเตียง เหล่านี้ต้องรับวัคซีนเพื่อป้องกันอาการรุนแรงเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่ไม่เป็นจำเป็น เด็กติดเชื้อไม่รุนแรงและไม่นานก็หายเป็นปกติ
ส่วนสถานการณ์การติดเชื้อโควิดในขณะที่มีการล็อกดาวน์ในหลายกิจกรรม มองว่าต้องรอดูสถานการณ์ไปอีกระยะหนึ่ง มากกว่า 2 สัปดาห์ จนถึง 1 เดือน ถึงเวลานั้นหากคุมสถานการณ์ดี ก็จะส่งผลให้ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อลดลง
โดยใจความของแถลงการณ์ ระบุคำแนะนำว่ายังไม่แนะนำวัคชีนโควิด-19 สำหรับเด็กทั่วไปที่แข็งแรงดีในขณะนี้จนกว่าจะมีวัคซีนที่มากขึ้น และมีข้อมูลเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในเด็กเพิ่มเติม และ แนะนำให้ผู้ใหญ่ที่ใกล้ชิดรับวัคซีน พร้อมสวมหน้ากาก ล้างมือเว้น ระยะห่างให้แก่เด็กในทุกวัยและหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่อากาศไม่ถ่ายเท และงดการเยี่ยมเยียนจากบุคคลภายนอก
ทั้งนี้ ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ขอสนับสนุนให้มีการใช้มาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ในชุมชนอย่างเข้มงวด และการให้วัคนที่มีประสิทธิภาพสูงแก่ผู้ใหญ่ เพื่อคุ้มครองเด็กซึ่งยังไม่ได้รับวัคซีนในขณะนี้ .-สำนักข่าวไทย