กรุงเทพฯ 18 ก.ค.-อธิบดีกรมควบคุมโรค ชี้แจงไทม์ไลน์การจัดหาวัคซีนแอสตราเซเนกา 61 ล้านโดส ให้ได้ภายในธันวาคม 64 ส่วนแผนกระจายวัคซีนในประเทศ ตกเดือนละประมาณ 10 ล้านโดส กลุ่มเป้าหมายเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์การระบาด
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ตอบคำถามสื่อมวลชนผ่าน webex โดยได้ชี้แจงไทม์ไลน์ การจัดหาวัคซีนแอสตราเซเนกา เริ่มตั้งแต่ 20 ม.ค.64 อย.ได้ขึ้นทะเบียนวัคซีนแอสตราฯ ในประเทศไทย 23 ก.พ.64 ครม. เห็นชอบแก้ไขสัญญาจองซื้อวัคซีนแอสตราฯ จากเดิม 26 ล้านโดส เป็น 61 ล้านโดส และนับจาก 28 ก.พ.-16 ก.ค.64 ไทยได้รับวัคซีนแอสตราฯ แล้ว 8,193,500โดส
อธิบดีกรมควบคุมโรค ยังกล่าวว่า ไทยเป็นประเทศที่มีการจองวัคซีนแอสตราฯ มากที่สุด 61 ล้านโดส ในภูมิภาคอาเซียน และย้ำว่าวันที่ 27 พฤศจิกายน ปี 63 ยังไม่มีการผลิตวัคซีน ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการระบุจำนวนวัคซีนที่จะส่งให้ไทย ซึ่งบริษัทแอสตราฯ ย้ำว่าจะส่งวัคซีนไห้ไทยตลอดระยะเวลาที่มีกำลังการผลิต ส่วนแผนสำรอง หากวัคซีนแอสตราฯ เข้ามาไม่เพียงพอ คือ ไฟเซอร์ ซิโนแวค และวัคซีนจากแหล่งอื่นๆ
เมื่อถูกถามถึงประสิทธิภาพของซิโนแวค นพ.โอภาส กล่าวว่า วัคซีนซิโนแวค มีความสามารถในการยับยั้งอาการป่วยหนัก ลดการเสียชีวิต และว่า วัคซีนแต่ละตัวสามารถป้องกันการป่วยหนักได้ลดการเสียชีวิตได้มากน้อยต่างกัน ไม่มีวัคซีนตัวใดสมบูรณ์แบบ 100% ส่วนการสลับสูตรฉีดวัคซีน สืบเนื่องมาจากหลายประเทศสลับฉีดวัคซีนแล้วพบว่าทำให้ร่างกายมีการสร้างภูมิต้านทานสายพันธุ์ใหม่ใหม่ เช่น เดลตา ได้มากขึ้น ดังนั้นในช่วงต่อไป การฉีดของเราจะเริ่มเข็มแรกด้วยซิโนแวคตามด้วยแอสตราฯ เป็นเข็มที่ 2
ด้านนายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงวิธีการแลกเปลี่ยนวัคซีนโดยนำวัคซีนที่ไม่ได้ใช้ในหลายประเทศให้มาใช้ในประเทศไทยก่อน แล้วค่อยจัดสรรคืนทีหลัง รวมทั้งการนำวัคซีนบริจาคมาใช้ประโยชน์ ว่า ไทยได้เจรจากับหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น และอยู่ในขั้นตอนเจรจา แต่มีข้อกำหนดไม่ให้เปิดเผยรายละเอียด และยังกล่าวถึงวัคซีนที่กำลังอยู่ในความสนใจ คือ โนวาแว็กซ์ ที่ใช้เทคโนโลยีโปรตีนซับยูนิต ว่า มี 3 ประเทศ กำลังพัฒนาการผลิต คือ อเมริกา จีน คิวบา โดยประเทศไทยอยู่ในขั้นตอนการเจรจาเพื่อขอถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตมาในประเทศไทย เริ่มจากซื้อ และถ่ายทอดเทคโนโลยีและมาผลิตร่วมกัน ต้องรอขั้นตอน เครื่องมือ ความชำนาญ และบุคลากร รวมถึงประสิทธิภาพการถ่ายทอดเทคโนโลยี ซึ่งปกติจะเริ่มต้นด้วยการไม่เปิดเผยเพราะเป็นความลับ
อธิบดีกรมควบคุมโรค ยังกล่าวถึงคนที่ได้ รับการฉีดซิโนแวคไปแล้ว 2 เข็มว่า ถ้าเป็นบุคลากรทางการแพทย์ก็เห็นชอบให้ฉีดบูสเตอร์เข็ม 3 ด้วยวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอ ส่วนประชาชนกลุ่มอื่นอยู่ระหว่างการพิจารณา ขณะที่ภาพรวมสถานการณ์ทั่วโลกเห็นพ้องให้ฉีดกระตุ้นเข็ม 3 แต่จะด้วยยี่ห้ออะไรเมื่อไหร่ยังไม่มีข้อมูลเด่นชัดให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และย้ำนโยบายฉีดวัคซีนประชาชนในคนไทยต้องให้ได้ 70% ส่วนกลุ่มเด็กเล็กหรือต่ำกว่า 18 ปี ถ้ามีวัคซีนใดฉีดให้ได้ก็จะจัดหาให้ และยังคงตั้งเป้าหมาย ฉีดวัคซีนให้ประชาชนไทยครบ 100 ล้านโดส ภายในเดือนธันวาคม 2564
สำหรับการเลื่อนฉีดวัคซีนของหลายโรงพยาบาลทั่วประเทศ เหตุผลส่วนใหญ่มาจากโรงพยาบาลนั้นนั้นไม่แน่ใจในสูตรการฉีดวัคซีน ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขได้ย้ำให้ฉีดซิโนแวค เป็นเข็มที่ 1 ตามด้วยแอสตราฯ เข็ม 2 และขอเร่งรัดผู้สูงอายุโรค เรื้อรังและหญิงตั้งครรภ์ก่อน ทั้งนี้การจัดสรรวัคซีนในแต่ละจังหวัด สถานการณ์แตกต่างกัน ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดจัดสรรไปตามแต่ละอำเภอสอดคล้องกับแนวทาง ของกระทรวงสาธารณสุข.-สำนักข่าวไทย