กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – ศูนย์ปรึกษาเพื่อการเลิกสุราและการเสพติด พบข้อมูลวิชาการยืนยันการดื่มแอลกอฮอล์ทำลายภูมิคุ้มกัน ผู้ที่ดื่มสุรามีโอกาสติดเชื้อโควิด-19 ได้มากกว่าคนที่ไม่ดื่มสูงถึง 6 เท่า เสี่ยงอวัยวะอักเสบรุนแรง
นายแพทย์กนกพจน์ จันทร์ภิวัฒน์ นายแพทย์ชำนาญการงานโรคทางเดินอาหาร โรงพยาบาลราชวิถี ระบุการดื่มแอลกอฮอล์สะสมเป็นเวลานานส่งผลรุนแรงถึงการเสียชีวิต ในสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีน 1 เข็ม หรือ 2 เข็ม แล้วอย่าวางใจ ต้องระมัดระวังตัว เนื่องจากสุราส่งผลให้ภูมิของวัคซีนลดลง ทำลายภูมิคุ้มกัน เสี่ยงอวัยวะอักเสบรุนแรง พร้อมแนะผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ควรงดการดื่มสุรา ดูแลตัวเอง รับประทานอาหารให้สุกสะอาด ออกกำลังกายเท่าที่ทำได้ ดื่มน้ำ พักผ่อนให้เพียงพอ ป้องกันการกระจายเชื้อไปสู่ผู้อื่น
ผู้อำนวยการศูนย์ปรึกษาเพื่อการเลิกสุราและการเสพติด ระบุอีกว่า การกินเลี้ยงสังสรรค์ โดยเฉพาะการดื่มสุรา ส่งผลต่อการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันทำได้เต็มที่ จะมีการถอดหน้ากาก พูดคุยกัน และไม่เว้นระยะห่าง มีโอกาสในการแพร่เชื้อเสี่ยงสูงมาก ส่วนผู้ที่ดื่มสุรามีโอกาสติดเชื้อโควิด-19 ได้มากกว่าคนที่ไม่ดื่ม 2-6 เท่า อาจส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ร่างกายป้องกันตัวเองจากโรคติดเชื้อน้อยลง เนื่องจากการดื่มสุราทำให้ความสามารถในการตัดสินใจบกพร่อง เพราะเมื่อร่างกายมีแอลกอฮอล์ในเลือดจะทำให้คนดื่มขาดการยับยั้งชั่งใจ กระบวนการคิดและการเคลื่อนไหวลดลง
ขณะที่ข้อมูลกองบัญชาการตำรวจนครบาลตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนจนถึงปัจจุบัน พบว่ามีการมั่วสุมเสี่ยงโควิด-19 กินเลี้ยงสังสรรค์ร่วมวงกินเหล้า ลอบจัดปาร์ตี้ สามารถจับกุมดำเนินคดีไปแล้วจำนวน 27 คดี จับกุมผู้ต้องหา 211 คน ในฐานกระทำความผิดมั่วสุมดื่มสุรา ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยไม่พบมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด บางรายไม่มีการสวมหน้ากากอนามัย มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดและเกิดคลัสเตอร์ใหม่.-สำนักข่าวไทย