สธ.ใช้การแยกกักตัวที่บ้าน/ในชุมชน ช่วยผู้ติดเชื้อเข้าระบบรักษาเร็ว

สธ. 10 ก.ค.-กระทรวงสาธารณสุข ใช้มาตรการการแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) และการกักตัวในชุมชน (Community Isolation) เพื่อให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย (สีเขียว) เข้าระบบการรักษาเร็ว แจกเครื่องวัดไข้ วัดออกซิเจนในเลือด แพทย์พยาบาลติดตามอาการใกล้ชิดด้วยระบบเทเลเมดิซีน วันละ 2 ครั้ง ส่งต่อโรงพยาบาลเมื่ออาการเปลี่ยนแปลง ส่งอาหารครบ 3 มื้อ

วันนี้ (10 กรกฎาคม 2564) ที่ศูนย์แถลงข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ พร้อมด้วยนายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ แถลงข่าวประเด็น “การแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) และการกักตัวในชุมชน (Community Isolation) นายแพทย์สมศักดิ์กล่าวว่า ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้นำ 2 มาตรการ คือ การแยกกักตัวที่บ้าน และการกักตัวในชุมชนมาใช้ เนื่องจากผู้ติดเชื้อโควิด 19 มีจำนวนมากขึ้น อัตราการครองเตียงของกทม.และปริมณฑลเพิ่มจากเดือนที่ผ่านมาถึง 10,000 ราย จากวันที่ 9 มิถุนายน 2564 มีผู้ป่วย 19,629 ราย เพิ่มเป็น 30,631 รายในวันที่ 9 กรกฎาคม 2564 โดยเป็นผู้ป่วยที่มีอาการไม่มาก (สีเขียว) ร้อยละ 76, อาการปานกลาง (สีเหลือง)
ร้อยละ 20 และอาการหนัก (สีแดง) ร้อยละ 4 ซึ่งผู้ป่วยสีแดงเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจาก 714 ราย เป็น 1,206 ราย ทำให้บุคลากรแบกรับภาระงานหนักมาก และการเพิ่มบุคลากรผู้เชี่ยวชาญทำได้ยาก


สำหรับการแยกกักตัวที่บ้านและแยกกักตัวในชุมชนนั้น ซึ่งได้กำหนดเกณฑ์ของผู้ติดเชื้อ ต้องสมัครใจและสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำได้, สถานที่เหมาะสม ใช้จุดแข็งของไทยคือ บวร (บ้าน วัด โรงเรียน) โดย Home Isolation บ้านต้องมีห้องนอนแยก ส่วน Community Isolation ใช้วัด หรือโรงเรียน มีช่องทางสื่อสารผ่านเทเลคอนเฟอเรนซ์ วิดีโอคอล ติดตามอาการทุกวัน โดยแพทย์ พยาบาล วันละ 2 ครั้ง และมีช่องทางติดต่อกรณีฉุกเฉิน รวมทั้งต้องลงทะเบียนกับสถานพยาบาล (มีแผนขยายไปยังชุมชนอบอุ่น และสถานพยาบาลใกล้บ้าน) ผู้ติดเชื้อจะได้รับเครื่องวัดไข้และเครื่องวัดออกซิเจนในเลือด และแนะนำวิธีทดสอบง่าย ๆ กรณีสงสัยว่าปอดมีปัญหาหรือไม่ โดยให้วัดออกซิเจนในเลือดก่อนออกกำลังกายลุกนั่ง 1 นาที และวัดซ้ำหลังทำ หากปริมาณออกซิเจนลดลงมากกว่า 3 % จะรับมารักษาที่โรงพยาบาล และมีระบบรีเฟอร์ผู้ป่วยในกรณีฉุกเฉิน

นายแพทย์สมศักดิ์กล่าวต่อว่า การแยกกักตัวที่บ้านคือการ admit ผู้ป่วยรายใหม่ไว้ดูแลที่บ้านก่อน หากอาการแย่ลงจะรับมาดูแลรักษาที่โรงพยาบาล และเป็นการบริหารจัดการเตียงให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด จากที่ผู้ป่วยต้องอยู่โรงพยาบาล 14 วัน จะนำผู้ป่วยที่รักษา 7 – 10 วันแล้วอาการดีขึ้น ออกไปแยกกักตัวที่บ้าน จะช่วยให้มีเตียงเพิ่มอีกประมาณ 40 – 50% เพื่อรับผู้ป่วยใหม่ สำหรับการแยกกักตัวในชุมชน กรมการแพทย์ กทม. โรงเรียนแพทย์ ได้เตรียมสถานที่แล้ว ส่วนใหญ่ใช้สถานที่โล่งๆ เช่น ศาลาวัด หรือหอประชุมโรงเรียน นอกจากนี้ยังสามารถใช้แคมป์คนงานหรือหมู่บ้านที่มีที่แยกตัวให้กับผู้ติดเชื้อ และไม่ควรเกิน 200 คนเพื่อลดแออัด และสิ่งแวดล้อมถูกสุขลักษณะ แยกน้ำเสียหรือขยะออกจากชุมชนได้ โดยรับผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย ที่ไม่ต้องใช้ออกซิเจน ซึ่งขอขอบคุณภาคประชาสังคม และเพจต่าง ๆ ที่ช่วยประสานรวบรวมจำนวนผู้ป่วยมาขึ้นทะเบียน สนับสนุนอาหารให้ผู้ป่วย


สำหรับเกณฑ์พิจารณาผู้ป่วย Home Isolation จะต้องเป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ อายุไม่เกิน 60 ปี อยู่คนเดียวหรือมีผู้อยู่ร่วมที่พักไม่เกิน 1 คน ไม่มีภาวะอ้วน ไม่มีโรคร่วม เช่น ปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคไตเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง เบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ และยินยอมแยกตัวในที่พักของตนเอง โดยสถานพยาบาลจะประเมินผู้ติดเชื้อตามดุลยพินิจของแพทย์ ลงทะเบียน แนะนำการปฏิบัติตัว ติดตามประเมินอาการ และรับส่งผู้ป่วยมารักษาในสถานพยาบาลหากมีอาการรุนแรงขึ้น ซึ่งโครงการนี้ได้เริ่มทำแล้วที่โรงพยาบาลราชวิถี จำนวน 20 ราย ได้ผลดี ทุกรายอาการดีขึ้น

“ขณะนี้ มีผู้ขึ้นทะเบียน Home Isolation ที่รพ.ราชวิถี รพ.เลิดสิน และรพ.นพรัตน์ราชธานี 200 กว่าราย และขึ้นทะเบียน Community Isolation อีกกว่า 200 ราย และกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ รวมแล้วประมาณ 400 – 600 ราย เพื่อให้ผู้ติดเชื้อได้รับการดูแลอย่างรวดเร็ว ซึ่งสปสช.สนับสนุนงบประมาณค่าอาหารให้กับผู้ป่วยทุกราย สำหรับผู้ติดเชื้อที่ต้องการร่วมโครงการ ติดต่อได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน หรือโทรสายด่วน 1330” นายแพทย์สมศักดิ์กล่าว

ด้านนายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนต้องการตรวจหาเชื้อและพบว่ามีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น สัปดาห์ที่ผ่านมา กรมสบส. จึงประชุมกับสมาคมโรงพยาบาลเอกชน โดยอนุญาตให้ใช้การตรวจ Rapid Antigen Test เพื่อให้ตรวจหาเชื้อได้เร็วขึ้น ตามสถานการณ์เปลี่ยนไป และหากตรวจพบผู้ติดเชื้อ มีระบบการดูแล 2 แนวทาง แนวทางที่ 1 หากโรงพยาบาลเอกชน มีเตียง และประเมินผู้ติดเชื้อเบื้องต้น พบว่าเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ควรรักษาในโรงพยาบาล เช่น อาการหนัก อายุมาก เป็นกลุ่มเสี่ยง ให้หาเตียงรองรับ แนวทางที่ 2 หากผู้ติดเชื้อแข็งแรงดี ไม่มีอาการ สถานพยาบาลเอกชนสามารถดำเนินมาตรการ “แยกกักตัวที่บ้าน” ได้ทันที โดยได้รับความยินยอมและสมัครใจจากผู้ติดเชื้อ


นายแพทย์ธเรศกล่าวต่อว่า ขณะนี้ ได้จัดทำร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสถานพยาบาลอื่นซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล เฉพาะผู้ป่วยโรคติดต่ออันตรายตามด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ณ ที่พำนักของผู้ป่วย (Home Isolation) เป็นการชั่วคราว และทำหลักเกณฑ์ค่าใช้จ่ายการแยกกักตัวที่บ้าน เพื่อช่วยให้ประชาชนได้รับการดูแลติดตามอาการอย่างรวดเร็ว ดูแลค่าใช้จ่าย ไม่ให้เป็นภาระ โดยจะนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ต่อไป

อย่างไรก็ตาม มาตรฐานของกรมการแพทย์ ในการแยกกักตัวที่บ้าน ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เนื่องจากใช้ระบบสุขภาพปฐมภูมิ ซึ่งเป็นจุดเด่นของประเทศไทย ประกอบด้วย ภาคีเครือข่ายเข้มแข็ง เช่น กทม. มีคลินิกอบอุ่น ศูนย์อนามัย กทม. ส่วนพื้นที่ภูมิภาค มี รพ.สต. และ อสม. เบื้องต้นพบว่าสถานพยาบาลภาคเอกชนแทบทุกแห่ง มีระบบการดูแลผู้ป่วยที่บ้านอยู่แล้ว เช่น Telemedicine ที่ได้การรับรองมาตรฐาน, ระบบการเยี่ยมผู้ป่วยที่บ้าน Home Health care

“ขอความร่วมมือสถานพยาบาลเอกชนทุกแห่ง ได้ตรวจหาผู้ติดเชื้อไม่มีอาการ ขอให้ใช้วิธีการแยกกักตัวที่บ้านหรือ Home Isolation ถือเป็นช่องทางหนึ่งที่จะช่วยให้ประชาชนได้เข้าถึงบริการตรวจหาเชื้อ เข้ารับการรักษา และทราบวิธีปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง ลดการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นในครอบครัวและชุมชน” นพ.ธเรศกล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

“ลูกหมี” นำ สส.ชุมพร-อบจ.ชุมพร-ทีมพลังชุมพร ซบพรรคภูมิใจไทย

พรรคภูมิใจไทย 17 ก.ย.-“ลูกหมี” นำ สส.ชุมพร-อบจ.ชุมพร-ทีมพลังชุมพร ซบพรรคภูมิใจไทย มั่นใจพรรคนำพาประเทศเดินไปข้างหน้า ไม่หวังประโยชน์ส่วนตัว แจงไม่ขัดแย้งกับ รทสช. ชี้เป็นเรื่องภายในพรรค ด้าน “พิพัฒน์” ตั้งเป้ากวาดที่นั่งภาคใต้มากขึ้น พร้อมเดินหน้าแลนด์บริดจ์ นายชุมพล จุลใส นำ นายวิชัย สุดสวาสดิ์ และนายสุพล จุลใส 2 สส.ชุมพร พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดตัวเตรียมร่วมงานที่พรรคภูมิใจไทย รวมถึง นายนพพร อุสิทธิ์ นายก อบจ.ชุมพร ที่นำทีมพลังชุมพร 27 คน สมัครเป็นสมาชิกพรรค โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ให้การต้อนรับและสวมเสื้อพรรคภูมิใจไทยให้กับ นายก อบจ. นายศุภชัย กล่าวว่า วันนี้เป็นเกียรติอย่างยิ่งได้ต้อนรับ คณะจากจังหวัดชุมพร ที่มาให้กำลังใจนายอนุทินโดย ได้รับการยืนยันว่า จะร่วมกันพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ให้แข็งแกร่งเติบโต และมีความเจริญขึ้น โดยการนำของนายอนุทินและพรรคภูมิใจไทย ขอบคุณที่ให้โอกาสภาคภูมิใจไทยได้ไปร่วมทำงานกับพี่น้องจังหวัดชุมพร ทุกคนมีเจตจำนงที่จะสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งในสมัยต่อไป นายชุมพล กล่าวว่า ตนขอพูดในนามส่วนตัวว่ามีความมั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทยสามารถนำพาประเทศไปได้และทำทุกอย่างให้ประเทศมีความมั่นคงให้ประเทศเดินไปข้างหน้า […]

วางระเบิด-ยิงซ้ำ ทหารพรานบาดเจ็บ 4 นาย

นราธิวาส 17 ก.ย.-คนร้ายลอบวางระเบิด-ยิงซ้ำ เจ้าหน้าที่ทหารพรานบาดเจ็บ 4 นาย ขณะลาดตระเวนเส้นทางในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 07.53 น. วันที่ 17 กันยายน 2568 เกิดเหตุลอบวางระเบิดและมีการยิงซ้ำ บริเวณบ้านบือราแง ม.3 ตำบลโต๊ะเด็ง อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส ขณะที่เจ้าหน้าที่อาสาสมัครทหารพรานหน่วย ฉก.ทพ.48 กำลังออกลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยเส้นทาง เบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ได้แก่ 1.จ่าสิบเอก ปิยะ อินทะโกษี ได้รับบาดเจ็บแน่นหน้าอกจากแรงระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่บริเวณป้อมปืน2.อส.ทพ.สุริยาวุธ ช่างเกวียนดี ได้รับบาดเจ็บภายในรถ ไม่สามารถขยับออกมาได้ ต้องใช้รถกู้ภัยเข้าช่วยเหลือ แต่ยังมีสติ3.อส.ทพ.ตะวัน สว่างเมฆารัตน์ พลขับ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย มีสติ4.อส.ทพ.ธีระพงษ์ พรมพัด ซึ่งนั่งอยู่ภายในรถ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย มีสติ ทั้ง 4 นายถูกนำส่งโรงพยาบาลสุไหงปาดี เพื่อทำการรักษาและตรวจอาการเพิ่มเติม ภายหลังเหตุการณ์ ผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยและความเข้มงวดในการปฏิบัติการวิทยุสื่อสาร (ว.4) โดยเฉพาะฐานที่ตั้ง […]

ทนายวัดนาป่าพง แจงปมโอนเงินไปเยอรมนี ยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ

16 ก.ย. – ทนายวัดนาป่าพง แจงยิบไทม์ไลน์โอนเงิน 12 ล้าน ไปให้สีกาที่เยอรมนี ยืนยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ หวังเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ใช่เสน่หาหรือยักยอกเงินวัด เชื่อเป็นขบวนการล้มพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ความคืบหน้าการตรวจสอบพระวัดดังใน จ.ปทุมธานี หลังมีการแจ้งความกองปราบฯ ให้ตรวจสอบปมเงินบริจาควัดที่มีการโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงปล่อยคลิปลักษณะที่ใกล้ชิดกับสีกาในร้านเครื่องประดับ วันนี้ (16 ก.ย.) นายนันทน อินทนนท์ และคณะทนายความของวัดนาป่าพง ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงประเด็นต่างๆ โดยมี อ.เบียร์ คนตื่นธรรม พระลูกวัด และศิษยานุศิษย์ของวัด มาร่วมฟังคำแถลงข่าวอีกเป็นจำนวนมาก ในส่วนของคลิปกับสีกาในร้านเครื่องประดับในต่างประเทศ ทนายความยืนยันว่าสีกาคนดังกล่าวเป็นโยมอุปัฏฐาก ที่ทำหน้าที่ดูแลพระอาจารย์คึกฤทธิ์ และดูแลช่องทางการสื่อสารของวัด คือพุทธวจนเรียล อย่างเปิดเผยตั้งแต่แรก แต่คลิปวิดีโอที่ถูกนำมาเผยแพร่พยายามเชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสีกาคนดังกล่าวกับพระอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นการตัดต่อที่ตั้งใจให้เกิดความเข้าใจผิด แจงไทม์ไลน์ยิบ โอนเงินไปต่างประเทศใช้ก่อตั้งมูลนิธิส่วนกรณีมีการโอนเงินจากพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ไปยังสีกาที่เยอรมนี ทีมทนายความยอมรับว่าเอกสารต่างๆ ที่เผยแพร่ในสื่อ เป็นเอกสารที่ทางวัดยื่นต่อศาลที่เยอรมนี ไม่ใช่เอกสารที่ต้องปิดบัง สามารถเปิดเผยได้ เพราะไวยาวัจกรเป็นผู้โอนเงินเอง พร้อมชี้แจงว่าเป็นการโอนเงินเพื่อไปสร้างวัดและมูลนิธิที่ประเทศเยอรมนี โดยไล่เรียงไทม์ชี้แจงอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่ปี 2561 พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ต้องการเผยแพร่คำสอนในต่างประเทศ หนึ่งในวิธีการคือการจัดตั้งวัดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเยอรมนีมีลูกศิษย์ของวัดจำนวนมาก […]

รวบบัญชีม้ายกแก๊ง ตระเวนถอนเงินให้คอลเซ็นเตอร์จีนเทา

16 ก.ย. – จับยกแก๊งบัญชีม้า 7 คน ตระเวนถอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา ยึดเงินสดกว่า 5 แสนบาท สารภาพได้ค่าจ้างล้านละ 7,000 บาท เงินที่หลอกผู้เสียหายถูกถ่ายโอนไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์นอกประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท นายเอกชัย เจ้าของบัญชีม้า พร้อมหญิงสาวทำหน้าที่ประสานงานถอนเงิน ถูกตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมได้บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ก่อนขยายผลจับกุมนายศรัณย์พงศ์ และนางสาวนันท์ธนัษฐ์ 2 คนไทย ทำหน้าที่ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า และผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ที่นั่งรอในรถกระบะ นายคิโอ ชาวลาว หัวหน้าแก๊งที่ถอนเงินให้จีนเทาเครือข่ายคิงส์โรมันฝั่งลาว พร้อมยึดของกลางเงินสดกว่า 5 แสนบาท สมุดบัญชีเงินฝากอีก 1 เล่ม กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์วนเวียนถอนเงินสดจากธนาคารหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ เตรียมรวบรวมหลักฐานขยายผลถึงบอสชาวจีน พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค […]