กรุงเทพฯ 9 ก.ค.-“นพ.ยง”เผยสายพันธุ์เดลตาลดประสิทธิภาพวัคซีน การศึกษาของศูนย์ฯ พบการให้วัคซีนซิโนแวคเข็มแรก และเข็ม 2 เป็นแอสตราฯ ภูมิต้านทานสูงขึ้นกว่าการให้ซิโนแวค 2เข็มประมาณ 8 เท่า และมีเปอร์เซนต์การขัดขวางไวรัสสูงถึง 95% INHIBITION มากกว่า95% และถ้าให้ซิโนแวค 2 เข็ม ตามด้วยกระตุ้นแอสตราฯ ผลภูมิต้านทานทานจะสูงขึ้นไปอีกมาก (มากกว่า 30 เท่า) อย่างไรก็ตามข้อมูลยังมีน้อยและกำลังศึกษาอยู่
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หรือ “หมอยง” หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan เรื่อง โควิด-19 วัคซีน การให้วัคซีนให้ได้ประโยชน์สูงสุดในทรัพยากรที่จำกัด การสลับวัคซีน โดยมีรายละเอียดว่า วัคซีน โควิด-19 ทุกชนิดสามารถลดการป่วยรุนแรง การนอน ICU และการเสียชีวิตได้
ในปัจจุบัน ไวรัสมีการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรม เป็นสายพันธุ์ใหม่มาโดยตลอด ปัจจุบันมีแนวโน้มสายพันธุ์เดลตา จะครองโลก สายพันธุ์เดลตา จะลดประสิทธิภาพของวัคซีนลง ดังนั้นการให้วัคซีนจึงต้องการภูมิต้านทานที่สูง
การศึกษาของทางศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก พบว่า การให้วัคซีนเข็มแรกเชื้อตาย (Sinovac) และเข็มที่ 2 ในเวลา 3-4 สัปดาห์ต่อมา เป็นไวรัสเวกเตอร์ (AstraZeneca) พบว่าภูมิต้านทานหลังเข็ม 2 ที่ 1 เดือน จะสูงขึ้นมากกว่าการให้ Sinovac 2 เข็ม ประมาณ 8 เท่า และมีเปอร์เซ็นต์การขัดขวางไวรัสสูงถึง 95% inhibition มากกว่า 95%
แต่ถ้าให้วัคซีน Sinovac 2 เข็ม และตามด้วยกระตุ้น AstraZeneca ผลภูมิต้านทานทานจะสูงขึ้นไปอีกมาก (มากกว่า 30 เท่า) (ข้อมูลยังมีน้อยและกำลังศึกษาอยู่)
การให้วัคซีนสลับเข็ม ที่ผ่านมา มีการและลงทะเบียนในหมอพร้อม ประมาณ 1000 ราย ไม่พบอาการข้างเคียงรุนแรง ทางศูนย์ฯ ยังศึกษาอย่างต่อเนื่อง และ ภายในสิ้นเดือนนี้จะได้ข้อมูลละเอียดยิ่งขึ้น รวมทั้งความปลอดภัยจากการศึกษาทางคลินิก .-สำนักข่าวไทย