fbpx

วธ.ตั้งคณะทำงานศูนย์ต่อต้านข่าว Fake News

วธ.9 ก.ค.-วธ.จัดตั้งคณะทำงานศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ข่าวบิดเบือน Fake News ทำหน้าที่ติดตาม ตรวจสอบและชี้แจงข้อมูล แก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว พร้อมบูรณาการความร่วมมือทุกหน่วยงานภายในกระทรวงผ่านคณะทำงานโฆษก วธ.


นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทุกส่วนราชการจัดตั้งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม/ข่าวบิดเบือน(Fake News)เพื่อเร่งตรวจสอบชี้แจงข่าวปลอม/ข่าวบิดเบือน ทำให้ประชาชนได้รับทราบและสร้างความรู้ความเข้าใจข้อมูลที่ถูกต้องอย่างรวดเร็วนั้น ขณะนี้ได้รับรายงานจากสำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม(สป.วธ.) ได้จัดตั้งคณะทำงานศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม(Fake News) กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) ขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว โดยมีนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัด วธ.เป็นที่ปรึกษาคณะทำงาน นายประสพ เรียงเงิน รองปลัด วธ.เป็นประธานคณะทำงาน และผู้บริหารกระทรวง วธ.เจ้าหน้าที่หน่วยงานสังกัดสป.วธ.ประกอบด้วย กองเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กลุ่มประชาสัมพันธ์ กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กองกฎหมายและกองกลาง เป็นคณะทำงาน

“ทำหน้าที่ติดตามตรวจสอบประเด็นข้อมูลข่าวสารที่เป็นข่าวปลอม/ข่าวบิดเบือนที่มีการเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ โดยเฉพาะสื่อออนไลน์ อีกทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบและชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับประเด็นข้อมูลข่าวสารกรณีมีข่าวปลอม/ข่าวบิดเบือนรวมถึงส่งต่อข้อมูล ประสานงานและแจ้งเตือนไปยังศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อคลี่คลายสถานการณ์และแก้ไขปัญหาได้ทันที” รมว.วธ.กล่าว


รมว.วัฒนธรรม กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน วธ.ได้บูรณาการการดำเนินการติดตามและชี้แจงข่าวปลอม/ข่าวบิดเบือนระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ภายใน วธ. โดยผ่านคณะทำงานโฆษกกระทรวงวัฒนธรรมประกอบด้วยผู้แทนส่วนราชการและองค์การมหาชนสังกัด วธ. ได้แก่ กรมการศาสนา (ศน.) กรมศิลปากร (ศก.) กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.)สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (สบศ.) ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) และศูนย์คุณธรรม(องค์การมหาชน)

ทั้งนี้ ทุกหน่วยงานจะตรวจสอบประเด็นข้อมูลข่าวปลอม /ข่าวบิดเบือน รวมถึงประสานกับคณะทำงานศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมของ วธ. ในการชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับข่าวปลอม/ข่าวบิดเบือนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับแต่ละหน่วยงาน รวมถึงบูรณาการความร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมในการตรวจสอบข่าวปลอม/ข่าวบิดเบือน การชี้แจงข้อเท็จจริงและสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชนให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ถือเป็นสร้างภูมิคุ้มกันกัน และใช้วิจารณญาณในการรับข่าว ว่ามีข้อเท็จจริงหรือไม่ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง และหากพิจารณาแล้วว่าข่าวไม่น่าเชื่อถือและไม่มีมูลความจริง ขอความร่วมมือไม่ควรแชร์ออกไป .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัด-กลางวันฟ้าหลัว

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10%

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง