กรุงเทพฯ 7 ก.ค. – กระทรวงสาธารณสุขจัดรถตรวจเชื้อโควิดและวัคซีนแอสตราเซเนกา หน้ากาก N95 ช่วยดูแลผู้อพยพจากเหตุโรงงานระเบิดที่จังหวัดสมุทรปราการ
ในการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์อพยพโรงเรียนวัดบางพลีใหญ่กลาง ศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 วัดบางพลีใหญ่กลาง และโรงพยาบาลบางพลี ติดตามสถานการณ์และให้กำลังใจผู้ประสบภัยเหตุโรงงานระเบิดและไฟไหม้ ย่านถนนกิ่งแก้ว
ต.บางพลี อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุขได้จัดรถตรวจเชื้อชีวนิรภัยไปประจำไว้ เพื่อตรวจหาเชื้อให้กับประชาชน หากพบการติดเชื้อจะส่งตัวเข้ารักษาในโรงพยาบาลต่อไป และจัดวัคซีนโควิด-19 จำนวน 1,000 โดส เพื่อควบคุมการระบาด ฉีดให้แก่ผู้ประสบภัยและบริเวณโดยรอบ เพราะยังเป็นพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาด และให้กรมอนามัยดูแลเรื่องสุขอนามัยสิ่งแวดล้อมและเรื่องอุปโภคบริโภค
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า จากการวัดมลพิษบริเวณศูนย์อพยพ พบว่าในระยะรัศมี 1-5 กิโลเมตร ยังมีค่าความเข้มข้นของสารสไตรีนโมโนเมอร์ ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพ จึงได้ให้กำลังใจ ขอให้รอ 2-3 วัน สภาพอากาศดีขึ้น ก็จะกลับเข้าบ้านได้
กระทรวงสาธารณสุขยังได้สนับสนุนอุปกรณ์ยังชีพและอุปกรณ์ป้องกันสารพิษและป้องกันโควิด-19 ให้กับศูนย์อพยพ ประกอบด้วย หน้ากากอนามัย 60,000 ชิ้น เจลแอลกอฮอล์ 1,000 ชิ้น น้ำดื่ม อาหารสำเร็จรูป รวมทั้งหน้ากากอนามัย N95 จำนวน 6,000 ชิ้น Face Shield ถุงมือและอุปกรณ์เพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อโควิด และส่งทีมด้านสุขภาพจิตเยียวยาจิตใจผู้ประสบเหตุ เพื่อประเมินความเครียดและดูแลความเสี่ยงทางสุขภาพจิต ซึ่งจะติดตามต่อเนื่อง 1-3 เดือน ที่พ้นความตกใจเข้าสู่ระยะการปรับตัว.-สำนักข่าวไทย