สธ.7ก.ค.-อธิบดี คร.ย้ำสถานการณ์ระบาดโควิดใน กทม.น่าห่วง พบติดในครอบครัว ที่ทำงานมากขึ้น เหตุไว้ใจถอดหน้ากากคุย กินข้าวร่วมกัน ย้ำมาตรการส่วนบุคคลสำคัญที่สุด หากทำได้ 2-3 สัปดาห์ อัตราป่วยลดแน่
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขกล่าวรับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ใน กทม. หนัก โดยพบการติดเชื้อในครอบครัวเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับที่ทำงาน เหตุเพราะความใกล้ชิด ไว้ใจ ทำให้ไม่ได้มีการระมัดระวังตัวหรือป้องกันตนเอง ทั้งไม่สวมหน้ากากอนามัย รับประทานอาหารร่วมกัน ดังนั้น มาตรการส่วนบุคคลจึงสำคัญที่สุด การไม่สวมหน้ากากอนามัย โดยมีการพบปะพูดคุยเกิน 5 นาที มีโอกาสติดเชื้อได้ เช่นเดียวกันการฉีดวัคซีนทุกชนิด ยังมีพบป้องกันโรคได้ แม้ไม่ 100% แต่ดีกว่าไม่ฉีด และในที่ทำงานควรงดรับประทานอาหารร่วมกัน ควรนั่งรับประทานลำพัง
นพ.โอภาส กล่าวว่า การเคร่งครัดมาตรการส่วนบุคคลนี้ หากทำได้อย่างเข้มงวดใน 2-3 สัปดาห์ มีผลช่วยลดโรค เพราะระยะเวลาการฟักตัวของโรคยังเป็น 14 วัน ส่วนการแห่ตรวจเชื้อทันทีเมื่อเจอผู้ป่วยหรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ขอให้พิจารณาก่อนหากเดินผ่านไม่ติดกัน ยกเว้นพูดคุยรับประทานอาหารร่วมกัน เพราะเป็นช่วงที่เปิดหน้ากากอนามัย การกักตัวสังเกตอาการก็สำคัญ เช่นเดียวกับมาตรการส่วนบุคคล โรคจะลดได้ด้วยมาตรการส่วนบุคคลที่เคร่งครัด .-สำนักข่าวไทย