กรุงเทพฯ 6 ก.ค. – ที่กระทรวงสาธารณสุข วันนี้มีการแถลงเรื่องวัคซีนโควิด-19 ที่อาจพิจารณาให้วัคซีนไฟเซอร์กับบุคลากรทางการแพทย์ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง ยืนยันวัคซีนทุกตัวในไทย หากฉีดครบ 2 เข็ม ป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรง การเสียชีวิต ได้มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์
ศ.เกียรติคุณ นพ.อุดม คชินทร รองประธานที่ปรึกษาศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. กล่าวถึงสถานการณ์ที่ระบาดช่วงนี้มีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์โควิด จากสายพันธุ์อัลฟา อังกฤษ เป็นเดลตา อินเดีย โดยภาพรวมการระบาดในประเทศ พบสายพันธุ์เดลตาแล้วร้อยละ 30 และกำลังจจะกลายเป็นสายพันธุ์หลัก ทั้งนี้ จากข้อมูลวิจัยวัคซีน ทั้งไฟเซอร์ แอสตราเซเนกา และซิโนแวค แม้เจอสายพันธุ์เดลตาแล้วประสิทธิภาพลดลง แต่ทั้ง 3 เทคโนโลยีช่วยป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้มากกว่า 90%
เนื่องจากภูมิคุ้มกันในร่างกาย เมื่อได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม ภูมิจะค่อยๆ ลดลง ภายใน 3-6 เดือน จึงจำเป็นต้องพิจารณาบูสเตอร์วัคซีนเข็ม 3 ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ก่อน ส่วนจะเป็นวัคซีนชนิดใด ระหว่างเชื้อตาย ไวรัลเวกเตอร์ หรือ m-RNA อยู่ระหว่างศึกษาทดลองของศิริราชพยาบาล และจุฬาลงกรณ์ฯ ว่าการฉีดวัคซีนสลับชนิด แบบไหนสร้างภูมิได้มากที่สุด โดยจะทราบผลในเดือนนี้ แต่เบื้องต้นหากได้รับวัคซีนบริจาคจากไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส จะพิจารณาฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์เป็นกลุ่มแรก
ศ.เกียรติคุณ นพ.อุดม ยังเห็นส่วนตัวว่าตอนนี้ไทยเข้าสู่การระบาดระลอก 4 แล้ว ทุกคนต้องช่วยกัน ลดการเคลื่อนย้ายคน หากวันที่ 11-12 ก.ค.นี้ จำนวนผู้ติดเชื้อป่วย-เสียช่วิต ยังไม่ลดลง ต้องเสนอให้ใช้มาตรการล็กดาวน์เต็มระบบ เหมือนที่เคยทำได้ผลมาแล้ว.-สำนักข่าวไทย