เล็งใช้วัคซีนไฟเซอร์บริจาค 1.5 ล้านโดสฉีดให้หมอพยาบาล

สธ. 6ก.ค.-“นพ.อุดม”รับพิจารณาวัคซีนเข็ม 3ให้หมอพยาบาลก่อน ทั้งไฟเซอร์ แอสตราฯ เล็งใช้วัคซีนบริจาคไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส เนื่องจากเด็กติดเชื้อน้อย ขณะที่ประชาชนไม่จำเป็นต้องแห่จองเข็ม3 วัคซีน m-RNA เพราะอาจได้วัคซีนรุ่นเก่า อดใจรอของใหม่พัฒนาปลายปี


ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.อุดม คชินทร รองประธานที่ปรึกษา ศบค.กล่าวถึงวัคซีนบริจาคไฟเซอร์ ที่จะได้รับจากสหรัฐอเมริกา 1.5 ล้านโดส ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะมาถึงเมื่อไหร่และจำนวนเท่าใดแต่ที่แน่ชัดว่าวัคซีนดังกล่าวจะไม่ได้นำมาฉีดให้กับกลุ่มเด็กอายุ12-17 ปีอีกต่อไป แต่จะนำมาฉีดให้กับบุคลากรทางแพทย์ก่อน อาจเป็นวัคซีนเข็ม 3 (บูสเตอร์โดส)แทน อีกทั้งข้อมูลอัตราการป่วยและติดเชื้อในเด็กมีน้อยกว่าผู้ใหญ่ และป่วยไม่รุนแรง จึงจะนำมาฉีดให้กับบุคลากรทางแพทย์ด่านแทน เพื่อลดอัตรการป่วยและเสียชีวิต แต่ก็ยอมรับในทั่วโลกขณะนี้มีปัญหาเรื่องวัคซีนชนิด m-RNA มี ผลทำให้กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลัน ซึ่งทาง CDC สหรัฐอเมริกา ออกมาเผยรายงานว่ามีผู้ได้รับผลกระทบกว่า 1,000 คน

ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.อุดม กล่าวว่า ในการพิจารณาวัคซีนเข็ม 3 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์จะใช้ข้อมูลจาก การศึกษาวิจัยของศิริราชพยาบาล และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่จะมีการศึกษาต้องการฉีดวัคซีนสลับชนิดกับระหว่างเชื้อตายและไวรัลเวกเตอร์ เพื่อพิจารณาว่า การชนิดวัคซีนสลับชนิด แบบไหนสร้างภูมิคุ้มกันมากที่สุด คาดว่าผลการศึกษาจะแล้วเสร็จในเดือนนี้ โดยจากศึกษาจะฉีดวัคซีนแอสตราฯสลับกับซิโนแวค ในคนที่มีอาการแพ้ พบว่ากลับให้ภุมิคุ้มกันสูงถึง 8 เท่า เมื่อเทียบกับการได้ซิโนแวค 2เข็ม และศึกษาการรับวัคซีน 2 เข็มซิโนแวคและแอสตราฯ ดังนั้น หากวัคซีนไฟเซอร์มาไม่ทัน ก็อาจเป็นได้ที่จะพิจารณาฉีดวัคซีนแอสตราฯไปก่อน แต่ทั้งนี้ขึ้นกับวัคซีนที่มาถึง และการจัดส่ง และ อยู่ในช่วงจังหวะ ที่ต้องรับวัคซีนบูสเตอร์เข็ม 3 พอดี


ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.อุดม กล่าวว่า ส่วนการแห่จองวัคซีนเข็ม 3 ชนิด m-RNA ในคนทั่วไป รับยังไม่จำเป็นอยากให้รอเพราะอาจได้รับ วัคซีน เจนเนอเรชันก่อน ที่ยังไม่ครอบคลุมทุกสายพันธุ์ ขอให้อดใจรอเจนเนอเรชัน 2 ที่วัคซีนจะออกปลายปี ครอบคลุมทุกสายพันธุ์และปลอดภัย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย