สธ. 2 ก.ค.-ผู้ทรงคุณวุฒิใน คกก.โรคติดต่อแห่งชาติ แจงประสิทธิภาพวัคซีน 3 ชนิด ไม่ต่างกัน ทั้งเชื้อตาย ไวรัลเวกเตอร์ และ m-RNA ชี้เชื้อไวรัสกลายพันธุ์ทำประสิทธิภาพลดลง ซิโนแวค-แอสตรา-ไฟเซอร์-โมเดอร์นา แต่ยังช่วยลดตาย ป่วยรุนแรง ฉะนั้นอย่าสนยี่ห้อให้รีบฉีด
นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ กล่าวในการเสวนาเรื่อง “วัคซีนโควิด ไทยจะเดินทางต่อไปอย่างไร” ว่า วัคซีนทุกชนิดที่มีใช้ในบ้านเรา ทั้งซิโนแวค และแอสตราเซเนกา ล้วนแต่มีประสิทธิภาพในการลดอัตราการเสียชีวิต และความรุนแรงของโรค หากมีการเจ็บป่วย แต่ต้องยอมรับสถานการณ์ของเชื้อไวรัสกลายพันธุ์มีผลต่อวัคซีนทุกตัว ยิ่งสายพันธุ์เดลตาที่กำลังจะเข้ามาแทนที่อัลฟา มีผลทำให้ซิโนแวค ประสิทธิภาพลดลงเหลือ 69% ลดรุนแรงและตายเหลือ 95% ส่วนเบตา ยังไม่มีข้อมูล ขณะที่แอสตราฯ เมื่อเจอกับไวรัสกลายพันธุ์เดลตา ประสิทธิภาพลดลงเหลือ 80-90% แต่สำหรับเบตา พบว่าประสิทธิภาพลดลงเหลือ 10.4%
นพ.ทวี กล่าวว่า ส่วนวัคซีนชนิด m-RNA พบกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี ไฟเซอร์ ประสิทธิภาพ 95% และโมเดอร์นา ประสิทธิภาพ 94% แต่พบว่า มีปัญหากล้ามเนื้อหัวใจอักเสบในคนอายุน้อย โดยเฉพาะเด็กผู้ชาย เมื่อได้รับเข็ม 2
ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบกับวัคซีนทั้ง 3 ชนิด ซิโนแวคถือว่าดีในระดับ 1, แอสตราฯ ภูมิคุ้มกันสูงกว่า แต่การต่อสู้กับเชื้อไวรัสต้องขึ้นอยู่กับร่างกายจะจดจำและภูมิคุ้มกันได้มากแค่ไหน ส่วนวัคซีน m-RNA แม้จะให้ประสิทธิภาพประสิทธิผลดี แต่ผลข้างเคียงสูง ดังนั้นจะวัคซีนยี่ห้อไหน ควรรีบฉีดๆ ไว้ก่อน เพื่อป้องกัน.-สำนักข่าวไทย