สปสช.ถกฟู้ดเดลิเวอรีจัดระบบส่งอาหารผู้ป่วยโควิดรักษาตัวที่บ้าน

กรุงเทพฯ 1 ก.ค.-สปสช.เชิญผู้ประกอบการฟู้ดเดลิเวอรี ถกวางระบบจัดส่งอาหารแก่ผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาตัวที่บ้าน ด้านผู้ประกอบการขานรับพร้อมส่งทั้งแบบกำหนดจุดรับส่งประจำและส่งให้ถึงบ้านผู้ป่วย หลังจากนี้รอข้อมูลจำนวนผู้ป่วยและพื้นที่อาศัยจากกรมการแพทย์ ก่อนหารือรายละเอียดกันอีกครั้ง


สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จัดประชุมออนไลน์วันนี้ (1 ก.ค.) โดยเชิญผู้ประกอบการบริการจัดส่งอาหารร่วมให้ข้อมูลและหารือถึงความเป็นไปได้ในการวางระบบจัดส่งอาหารแก่ผู้ป่วยโควิด-19ที่รักษาตัวที่บ้าน (Home Isolation) โดย นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มมากขึ้นจนอาจเกิดปัญหาเตียงไม่พอ ทำให้กรมการแพทย์และ สปสช.จัดระบบการดูแลผู้ป่วยที่บ้านหรือ Home Isolation ซึ่งประเด็นสำคัญอย่างหนึ่ง คือการส่งอาหารให้คนไข้กักตัวที่บ้าน โดย สปสช.สนับสนุนค่าอาหารและค่าบริการจัดการวันละ 1,000 บาท โดยให้โรงพยาบาลเป็นผู้บริหารค่าใช้จ่าย ด้วยเหตุนี้จึงได้จึงเชิญองค์กรธุรกิจที่ทำอาหารหรือจัดส่งอาหารมาร่วมหารือถึงความเป็นไปได้ในการจัดระบบส่งอาหารแก่โรงพยาบาล ไม่ว่าจะจากโรงครัวของโรงพยาบาลแล้วจัดส่งไปให้ที่บ้าน หรือให้ผู้ป่วยสั่งออเดอร์ผ่านแอปพลิเคชัน

ตัวแทนฝ่ายครัวการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในส่วนของครัวการบินไทย สามารถผลิต Set box ซึ่งประกอบด้วย อาหาร ผลไม้ เครื่องดื่ม และอุปกรณ์ในการรับประทาน มีเมนูหลากหลายไม่ซ้ำ เพื่อไม่ให้ผู้ป่วยรู้สึกจำเจ โดยในส่วนของแพ็คเก็จจิ้งจะเป็นแบบใช้แล้วทิ้ง อย่างไรก็ดี ในส่วนของส่วนลดค่าอาหารอาจต้องหารือแบบ case by case ขึ้นอยู่กับปริมาณที่แต่ละโรงพยาบาลสั่ง


ด้านตัวแทน บริษัท ลาล่ามูฟ ประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทให้บริการแอปพลิเคชันขนส่งสินค้าทุกประเภทรวมทั้งอาหาร โดยมีรถให้บริการ 7 ประเภท ในกรณีของอาหารปรุงสุก เสนอว่าการขนส่งด้วยรถที่ควบคุมอุณหภูมิได้น่าจะสำหรับการรักษาคุณภาพอาหาร จึงเสนอใช้รถ CRV 5 ประตู ที่บรรจุอาหาร 200-500 กล่องในการขนส่ง

“ลาล่ามูฟ สามารถรวบรวมจุดขนส่งสินค้าที่ไม่ใช่ทีละบ้าน เพราะรถที่สนับสนุนได้จะเป็นรถใหญ่ ขณะนี้ก็มีคลัสเตอร์ในชุมชนต่างๆ หรือแคมป์ก่อสร้าง แต่ละจุดอาจมีผู้ป่วยหลายร้อยคน ลาล่ามูฟสามารถช่วยสนับสนุนการขนส่งอาหารไปยังชุมชนที่มีการระบาดจำนวนมากได้ แต่การกระจายไปตามบ้านอาจต้องมีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) หรือผู้นำชุมชน เป็นตัวกลางแจกจ่ายอาหาร”ตัวแทน บริษัท ลาล่ามูฟ ประเทศไทย กล่าว

ขณะที่ตัวแทนจากแอปพลิเคชันไลน์แมน กล่าวว่า ระบบของไลน์แมนจะส่งจุดต่อจุด โดยผู้ใช้กดสั่งอาหารจากร้านที่กำหนด อย่างไรก็ตามในกรณีของผู้ป่วยโควิด-19 ผู้ใช้จะมีการสั่งซ้ำๆกันและมีร้านที่ค่อนข้างแน่นอน จึงเสนอว่าอาจใช้ไลน์แท็กซี่ที่ขนอาหารได้มากกว่ามอเตอร์ไซค์ โดยจุดที่มีผู้ป่วยหลายคนก็กำหนดจุดรับส่งที่แน่นอนแล้วนัดเวลาแล้วไปส่งทีเดียวโดยบริษัทประสานไรเดอร์ให้


อย่างไรก็ดี ในแอปพลิเคชันไลน์แมน สามารถสร้างคอลเล็คชั่นเมนูอาหารสำหรับผู้ป่วยได้แล้วให้ผู้ป่วยเป็นคนสั่งเอง หากเป็นลักษณะนี้ สปสช.หรือโรงพยาบาลสามารถแจกคูปองแก่ผู้ป่วยสำหรับใช้ชำระค่าอาหารและค่าส่งได้เช่นกัน

ขณะที่ตัวแทนบริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ผู้ให้บริการแอปฯโรบินฮู้ด กล่าวว่า บริษัทสามารถจัดบริการได้ทั้ง 2 Mode คือส่งอาหารจากโรงประกอบอาหารไปยังจุดรับหรือบ้านผู้ป่วยได้ หรือ ให้คนไข้มี playlist รายการอาหารแล้วเลือกสั่งด้วยตัวเองก็ได้

ด้านตัวแทนแอปฯฟู้ดแพนด้า กล่าวว่า ฟู้ดแพนด้ามีบริการทั้งลูกค้าทั่วไปและลูกค้าองค์กร ดังนั้นจึงมีแพล็ทฟอร์มสำหรับลูกค้าองค์กรอย่างโรงพยาบาล ให้บริหารจัดการส่งอาหารจาก Catering หรือร้านอาหารไปให้คนไข้ที่บ้านได้เลย โดยพร้อมส่งทีมงานไปเทรนนิ่งการใช้งานให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล

ตัวแทนฟู้ดแพนด้า กล่าวอีกว่า ระบบของฟู้ดแพนด้า ยังสามารถทำ pre order สั่งอาหารล่วงหน้าได้สูงสุด 7 วัน ทำให้โรงพยาบาลไม่ต้องมานั่งสั่งอาหารทุกๆวัน รวมทั้งมีระบบหลักบ้านที่ช่วยควบคุมงบประมาณได้ โดยดูได้ว่าแต่ละวันใช้เงินไปเท่าไหร่ เหลือเท่าไหร่ รวมทั้งตรวจสอบได้ว่าส่งไปที่ไหนบ้าง

นอกจากนี้ ฟู้ดแพนด้า ยังมีครัวของตัวเอง มีรายการอาหารที่หลากหลาย มีพาร์ทเนอร์ร้านอาหารประมาณ 1 แสนร้าน มีจำนวนไรเดอร์มากเป็นอันดับต้นๆของประเทศ สามารถกระจายอาหารไปยังบ้านผู้ป่วยได้เลย ซึ่งในกรณีผู้ป่วยโควิด-19 บริษัทจะไม่คิดเงินค่าจัดส่งอาหาร และยังมีส่วนลดเพิ่มเติมแก่โรงพยาบาลอีกด้วย

ส่วนผู้แทนบริษัท ไปรษณีย์ไทย ดิสทริบิวชั่น จำกัด ระบุว่าบริษัทไม่ได้มีแพล็ทฟอร์มร้านอาหารโดยตรงแต่ก็มีรถขนส่งกระจายทั่วประเทศ ดังนั้นขอนำข้อมูลการประชุมในครั้งนี้ไปหารือกับทีมงานเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะและจะหารือมายัง สปสช. ต่อไป

นพ.จเด็จ กล่าวทิ้งท้ายว่า หลังจากนี้กรมการแพทย์น่าจะมีข้อมูลจำนวนผู้ป่วยและพื้นที่อยู่มากขึ้น สปสช.จะเชิญบริษัทต่างๆมาร่วมวางแผนอีกครั้ง รวมทั้งจะเป็นตัวกลางสื่อสารประชาสัมพันธ์ระหว่างบริษัทผู้จัดส่งอาหารให้โรงพยาบาลต่างๆได้รับทราบต่อไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” แจงย้ำเวทีโลกกัมพูชาเปิดฉากโจมตีก่อน UNSC แนะเจรจาสันติวิธี

กระทรวงการต่างประเทศ 26 ก.ค.- “มาริษ” เผยเวที UNSC ให้ไทยกัมพูชายับยั้งชั่งใจ เจรจา 2 ฝ่ายสันติวิธียุติขัดแย้ง ย้ำแจงเวทีโลกแล้วกัมพูชาละเมิดอธิปไตยไทย-เปิดฉากโจมตีก่อน บอกสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ได้เป็นการคุกคามสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ สั่งกรมสนธิฯ พิจารณายื่นศาลอาญาโลกฟ้องเขมรฐานอาชญากรสงคราม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อนำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี ค.ศ. 2025 (High-Level Political Forum on Sustainable Development 2025) หรือ HLPF2025 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์กว่า ในห้วงการประชุมดังกล่าว ตนเองได้ใช้โอกาสนี้ พบหารือกับผู้แทนระดับสูงจากสหประชาชาติ และผู้แทนระดับสูงประเทศต่าง ๆ เพื่อชี้แจงพัฒนาการชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งตนเองได้ยืนยันให้ทุกประเทศ และผู้แทนระดับสูงของสหประชาชาติได้รับทราบมาโดยตลอดการปฏิบัติภารกิจว่า การปะทะกันเมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม ฝ่ายกัมพูชา เป็นผู้เริ่มโจมตีก่อน พร้อมแสดงความกังวล ต่อการโจมตีในสถานที่ที่ไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร เช่น โรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน และร้านสะดวกซื้อ ซึ่งสะท้อนการโจมตีพื้นที่พลเรือนไทย […]

องคมนตรีมอบสิ่งของพระราชทาน ศูนย์อพยพ จ.ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ 26 ก.ค.- สถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนศรีสะเกษ ดุเดือดกว่าทุกวัน ขณะองคมนตรีมอบสิ่งของพระราชทานแก่ประชาชนที่ศูนย์อพยพ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรีเดินทางมายังที่พักอาศัยของผู้อพยพ จ.ศรีสะเกษ มอบสิ่งของพระราชทานให้กับประชาชน พร้อมแจ้งให้ทราบถึงกระแสความห่วงใย หลังทราบข่าวประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทรงมีความห่วงใยประชาชนและไม่ประสงค์ที่จะเห็นมีการบาดเจ็บล้มตายเพิ่มอีก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่เรียบร้อย ขอให้ประชาชนอยู่ในพื้นที่อพยพไปอีกสักระยะ ขณะเดียวกัน พยาบาลจากคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา ให้บริการตรวจดูแลสุขภาพเบื้องต้นและปฏิบัติการทางจิตรฉรีญาพร้อมมอบสิ่งของให้กับผู้อพยพหลังต้องจากบ้านมาวันนี้เป็นวันที่ 3 แล้ว ซึ่งตามหลักบางรายอาจเกิดความเครียดสะสมขึ้นได้ ปกติแล้วบริเวณศูนย์อพยพแห่งนี้ซึ่งห่างจากชายแดนประมาณ 40 กิโลเมตร จะไม่ได้ยินเสียงปืนใหญ่ แต่วันนี้แม้จะอยู่ที่ศูนย์อพยพก็สามารถได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังขึ้น ไม่น้อยกว่า 9 นัดแล้วในขณะนี้ -สำนักข่าวไทย

เชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอด “ภูมะเขือ” กองทัพยึดคืนพื้นที่เบ็ดเสร็จ

26 ก.ค.- ธงชาติไทยโบกสะบัด! ปักยอด “ภูมะเขือ” หลังทหารไทยเปิดปฏิบัติการเข้าตียึดพื้นที่คืนจากฝ่ายกัมพูชาสำเร็จช่วงเย็นวานนี้ กองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ว่า เมื่อเวลา 09.20 น. ได้มีการเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดภูมะเขือ หลังจากที่ทหารไทยได้เปิดปฏิบัติการเข้าตียึดพื้นที่ภูมะเขือ ซึ่งเป็นบริเวณที่ฝ่ายทหารกัมพูชาได้วางกำลังไว้อย่างหนาแน่น และสามารถยึดพื้นที่ได้สำเร็จเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความพยายามจากฝ่ายกัมพูชาในการเข้าตีเพื่อแย่งยึดพื้นที่คืนอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการระดมยิงปืนใหญ่และเตรียมการจัดกำลังเข้าตีตอบโต้ฝ่ายไทย -สำนักข่าวไทย

นาวิกโยธินคุมพื้นที่ได้ทั้งหมด ตอบโต้ทหารกัมพูชาหนีกระเจิง

26 ก.ค.- เหตุปะทะชายแดนตราด ทหารนาวิกโยธิน ตอบโต้ทหารกัมพูชาหนีกระเจิง ถอยร่นออกจากพื้นที่อธิปไตยไทย ส่วนประชาชนอพยพไปที่ปลอดภัย เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 26 ก.ค.69 รายงานข่าวจากหน่วยความมั่นคงจังหวัดตราด เปิดเผยว่าถึงสถานการณ์ บริเวณบ้านชำราก จ.ตราด ทหารกัมพูชา ได้วางกำลังรุกล้ำเขตแดนไทย 3 จุดเปิดฉากยิงทหารไทย เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา โดยกำลังทหารนาวิกโยธิน ได้เปิดยุทธการ “ตราดพิฆาตไพรี1” จนสามารถควบคุมพื้นที่ได้ทั้งหมด ผลักดันกำลังทหารกัมพูชา ออกนอกพื้นที่ ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนประชาชนพื้นที่ อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ได้อพยพไปพื้นที่ปลอดภัย ในอำเภอเมืองตราด ประมาณ 75 เปอร์เซนต์เมื่อวันที่ 24-25 ก.ค.68 -สำนักข่าวไทย