กรมราชทัณฑ์ 1 ก.ค.-ราชทัณฑ์รายงานสถานการณ์โควิดในเรือนจำ ผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ 44 ราย เสียชีวิต 2 ราย ขณะที่วันนี้เป็นวันแรกที่ยอดผู้ติดเชื้อระหว่างรักษาของพื้นที่กรุงเทพฯ ลดลงต่ำกว่า 2 พันราย เร่งคุมเรือนจำที่ยังมีผู้ติดเชื้อใหม่ต่อเนื่อง
นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ 44 ราย เสียชีวิต 2 ราย รวมมีผู้ต้องขังติดเชื้อ 2,501 ราย โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นการติดเชื้อจากแดนในของเรือนจำสีแดง 39 ราย ตรวจพบเชื้อในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 5 ราย
นายอายุตม์ กล่าวอีกว่า วันนี้นับเป็นวันแรกที่ยอดผู้ติดเชื้อระหว่างรักษาของพื้นที่กรุงเทพมหานคร ลดลงต่ำกว่า 2,000 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสีเขียว ที่เมื่อได้รับการดูแลรักษาจะหายได้ในระยะเวลา 14 วัน จึงคาดว่าจะมีผู้ป่วยที่หายเพิ่มอีกกว่า 1,000 ราย ในช่วงต้นเดือนนี้ ส่งผลให้การแพร่ระบาดในเรือนจำพื้นที่กรุงเทพมหานคร น่าจะดีขึ้นตามลำดับ
ส่วนในพื้นที่ปริมณฑลและต่างจังหวัด พบ 4 แห่ง ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อเนื่อง คือ เรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร เรือนจำกลางนครปฐม เรือนจำกลางสงขลา และทัณฑสถานหญิงสงขลา ซึ่งอยู่ระหว่างเร่งตรวจหาเชื้อ เพื่อให้ได้รับการรักษาที่รวดเร็ว ช่วยลดผู้ป่วยหนัก ลดการเสียชีวิต และควบคุมสถานการณ์โดยเร็ว
สำหรับผู้เสียชีวิต 2 ราย ในวันนี้ รายแรกเป็นผู้ต้องขังชาย อายุ 44 ปี จากเรือนจำกลางบางขวาง มีโรคประจำตัว ไตวายระยะสุดท้าย เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ เข้ารักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ มีอาการเหนื่อย ร่วมกับภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดจากแผลกดทับ ให้การรักษาด้วยยา Favipiravir ยาปฏิชีวนะระดับสูง กระทั่งวันที่ 29 มิถุนายน ผู้ป่วยมีอาการซึมลง วัดสัญญาณชีพไม่ได้ ได้ทำการช่วยชีวิตตามกระบวนการอย่างเต็มประสิทธิภาพ ผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อการรักษา และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ส่วนรายที่ 2 เป็นผู้ต้องขังชาย อายุ 44 ปี รักษาตัวอยู่ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ มีโรคประจำตัว ไตวายระยะสุดท้าย มีอาการหอบเหนื่อย มีไข้ X-ray พบปอดอักเสบ รักษาโดย Oxygen HFNC Favipiravir Dexamethasone ยาปฏิชีวนะระดับสูง ต่อมาผู้ป่วยมีภาวะความดันโลหิตต่ำ ให้ยาปรับความดันโลหิต Levophed ได้ประสานญาติผู้ป่วยทราบและการตัดสินใจของผู้ป่วยเรื่องการรักษาแบบประคับประคอง ญาติรับทราบและยินยอมตามการตัดสินใจของผู้ป่วย กระทั่งในวันที่ 29 มิถุนายน ผู้ป่วยมีอาการซึมลง วัดสัญญาณชีพไม่ได้ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา.-สำนักข่าวไทย