นำร่อง “ผู้ป่วยบัตรทอง” ติดเชื้อโควิดแยกกักตัวรักษาที่บ้าน

กรุงเทพฯ 29 มิ.ย. – อธิบดีกรมการแพทย์ ยอมรับสถานการณ์โควิด-19 ตึง จำต้องใช้ Home Isolation หรือการแยกตัวอยู่ที่บ้าน สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว และในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่สำคัญต้องสมัครใจ ไม่มีโรคประจำตัวอื่นแทรกซ้อนรุนแรง ตอนนี้ทดลองนำร่องกับผู้ใช้สิทธิบัตรทองแล้ว


นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงแนวทางการดูแลผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเขียวที่บ้าน (Home Isolation) ว่าต้องยอมรับสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในขณะนี้ ตึง โดยมีผู้ป่วยรอเตียงเฉลี่ยวันละ 400-500 คน และคาดว่าเหลือรอเตียงประมาณ 1,000 คน ทำให้แนวทางการดูแลผู้ป่วยต้องใช้เป็นแบบ Home Isolation จะใช้ต่อเมื่อผู้ป่วยสมัครใจที่จะเข้ากระบวนการนี้ ไม่มีโรคประจำตัวอื่นแทรกซ้อนรุนแรง และต้องใช้ในผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการไม่รุนแรง (ผู้ป่วยสีเขียว) เป็นผู้ป่วยใหม่ อยู่ระหว่างรอเตียง หรือเป็นผู้ป่วยที่ดำเนินการรักษาครบ 10 วัน และเหลือ อีก 4 วัน ที่ให้กลับมารักษาดูอาการที่บ้าน

ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวได้ผ่านการเห็นชอบจาก สปสช. พร้อมมีการอนุมัติเบิกจ่ายงบประมาณให้ดูแลผู้ป่วย ตกรายละไม่เกิน 1,000 บาทต่อวัน เป็นค่าปรอท ค่าวัดออกซิเจนในเลือด และค่าติดตามและอาหาร 3 มื้อ แนวทางนี้เหมาะกับผู้ป่วยที่พักอาศัยในคอนโดมิเนียม อยู่บ้านคนเดียว หรือไม่แออัด มีการแยกห้องน้ำส่วนตัว พร้อมย้ำว่าไม่ใช่คนป่วยทุกคนที่แพทย์จะอนุญาตให้มีการ Home Isolation อยู่ที่บ้านได้ จะทำเฉพาะรายเท่านั้น


ส่วนการทดสอบใช้แนวทาง Home Isolation กับผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 18 คน เป็นคนไข้ของโรงพยาบาลราชวิถี พบว่ามีเพียง 2 คน ที่มีอาการรุนแรงขึ้น ต้องกลับมารับการรักษาที่โรงพยาบาล และแนวทางนี้ได้นำร่องใช้กับผู้ป่วยที่ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือบัตรทอง ส่วนผู้ที่อยู่ในสิทธิประกันสังคม และสิทธิข้าราชการ จะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ระเบียบและข้อปฏิบัติของผู้ที่ Home Isolation คือต้องมีการวัดไข้ 2 ครั้งต่อวัน ต้องมีการวัดระดับออกซิเจนในเลือด 2 ครั้งต่อวัน และต้องมีการพูดคุยกับแพทย์ด้วยระบบวิดีโอคอล เพื่อตรวจเช็กอาการ ที่สำคัญผู้ป่วยต้องอยู่บ้านอย่างเคร่งครัด หากฝ่าฝืนจะผิด พ.ร.บ.โรคติดต่อ และย้ำว่าแนวทางการรักษานี้จะใช้แค่ในพื้นที่กรุงเทพฯ เท่านั้น

ส่วนแนวทางที่โรงพยาบาลจะพิจารณาให้ผู้ติดเชื้อใช้ที่พักเป็นสถานที่แยกตัวได้ ผู้ป่วยต้องผ่านเกณฑ์พิจารณา คือเป็นผู้ติดเชื้อแบบที่ไม่มีอาการ มีอายุไม่เกิน 40 ปี มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีผู้อาศัยร่วมที่พักไม่เกิน 1 คน ไม่มีภาวะอ้วน และไม่มีโรคร่วม อย่างโรคปอดอุดตันเรื้อรัง ไตเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง เบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ และโรคอื่นๆ ตามดุลพินิจของแพทย์ ที่สำคัญต้องที่สุดยินยอมแยกตัวในที่พักของตนเอง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ววันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟนฝากลูกหลานช่วยด้วย

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข