“อนุทิน” ย้ำพื้นที่ร่วมรับมือแรงงานอพยพกลับบ้าน

สธ.28 มิ.ย.-“อนุทิน” ย้ำใน สสจ.อสม. ร่วมรับมือแรงงานอพยพกลับบ้าน หลัง ศบค.สั่งปิดสถานที่ โดยบ่ายนี้เตรียมหารือผู้บริหารเมืองทองธานี ขอขยายเตียงใน รพ.บุษราคัม พร้อมเร่งฉีดวัคซีน สิ้น มิ.ย.ต้องครบ 10 ล้านโดส จากนั้น ก.ค.-ส.ค.ฉีดวัคซีนครบในสูงอายุและป่วย 7 กลุ่มโรค และเผยข่าวดี อภ.เตรียมเดินหน้าผลิตยารักษาโควิด-19 เอง ชื่อ “ยาฟาเวียร์” แทน ฟาวิพิราเวียร์


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังหารือประชุมทางไกลร่วมกับผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขและนายแพทย์สาธารณสุข ถึงการรับมือสถานการณ์โควิด-19 ว่า ได้กำชับให้ทุกฝ่ายร่วมมือกัน ทั้ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด อสม.ในพื้นที่ ร่วมกันวางแนวทางในการแก้ไขและรับมือสถานการณ์โควิด หลังจากเริ่มพบมีแรงงานทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา ภายหลัง ศบค.สั่ง ปิดสถานที่ชั่วคราว โดยให้ทุกฝ่ายร่วมกันบริหารจัดการ เขตสุขภาพของตนเองให้ดี และจัดทำแผนตั้งแต่ติดตามผู้ที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่เสี่ยง และ นำตัวไปกักใน Local quarantine คล้ายกับมาตรการเดิมในอดีต

พร้อมให้ความเชื่อมั่นเรื่องการรักษาพยาบาลว่ากระทรวงสาธารณสุขจะทำอย่างเต็ม พร้อมยอมรับขณะนี้เกิดความหนาแน่นเรื่องเตียงผู้ป่วยในกทม.และปริมณฑล จึงทำให้ในบ่ายวันนี้(28มิ.ย.)เตรียมไปหารือกับผู้บริหารเมืองทองธานี เพื่อขอขยายเตียงของรพ.บุษราคัมให้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังประสานเหล่าทัพ จัดหาเตียงสนามเพิ่ม 180 เตียง เพื่อเป็นโคฮอตวอร์ดไอซียู เช่น ในพื้นที่มณฑลทหารบกที่ 11 และจะมีทีมแพทย์มาหมุนเวียนคอยดูผู้ป่วย


นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับในเดือนมิ.ย.นี้ ตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ได้ครบ 10 ล้านโดส ขณะนี้เหลือเพียง 900,000 โดสเท่านั้น เชื่อว่าสามารถทำได้ อย่างไรก็ตามต้องเร่งการฉีดวัคซีนให้มากที่สุดโดยเฉพาะ 2 กลุ่มเสี่ยงได้แก่ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปและกลุ่มป่วย 7 โรคเรื้อรัง ภายในเดือน ก.ค. – ส.ค. พร้อมย้ำว่าการฉีดวัคซีนให้ได้รวดเร็ว ช่วยลดอัตราความรุนแรงของโรค ลดอัตราการเสียชีวิต ขณะเดียวกันมีข่าวดีว่าภายในเดือน ก.ค. อย.จะอนุมัติ ให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) สามารถเดินหน้าผลิตยารักษาผู้ป่วยโควิด จากเดิมใช้ชื่อยาฟาวิพิเราเวียร์ เป็นยา “ฟาเวียร์”ได้แล้ว โดยคาดว่าเริ่มเดินหน้าผลิตในเดือน ส.ค.จำนวน 2 ล้านเม็ด และยังมียาที่นำเข้ามาร่วมเสริมอีกด้วย

นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สำหรับแนวทางการดูแลผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเขียวที่บ้าน (Home Isolation) นั้น จะอยู่ภายใต้การการพิจารณาของบุคลากรการแพทย์ และอยู่ในระบบการตรวจสอบ ติดตามอาการ หากอาการเปลี่ยนแปลงก็มีระบบส่งต่อไปรักษาตัวยัง รพ. โดยแนวทางดังกล่าวเริ่มดำเนินการแล้ววันนี้ (28 มิ.ย.) เฉพาะพื้นที่ กทม.หวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากประชาชน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” คดี “แบงค์ เลสเตอร์”

ผบช.ภ.2 เผยคดี “แบงค์ เลสเตอร์” แจ้งข้อหา “เอ็ม” กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มอบตัวรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา คุมฝากขังค้านประกันตัว

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น

วันแรก ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน

สถิติวันแรก 10 วันอันตราย ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน​ “เพิ่มพูน” เน้นทุกฝ่ายช่วยกันดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวก เข้มเรื่องกฎหมาย