fbpx

กรมอนามัย ย้ำโรงเรียนที่เปิดสอน คุมเข้มโควิด

กทม. 26 มิ.ย.-กรมอนามัย ย้ำโรงเรียนที่เปิดสอน คุมเข้มความปลอดภัย ใช้มาตรการป้องกันโควิด-19 เคร่งครัด

​นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากกรณีการแพร่ระบาดและการติดเชื้อโควิด-19 หลังจากเปิดภาคเรียนเมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่มีประวัติเสี่ยง จากสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน ร้อยละ 69 รองลงมา ค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก ร้อยละ 13 ทำให้โรงเรียนบางพื้นที่ต้องปิด การเรียนการสอน เพื่อลดการแพร่เชื้อ และสำหรับโรงเรียนที่เปิดสอนขณะนี้ต้องใช้มาตรการเพื่อป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มข้น ทั้งมาตรการหลักคือ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก 100 เปอร์เซ็นต์ ตลอดเวลาอยู่ในสถานศึกษา ล้างมือ คัดกรองวัดไข้ ลดเข้าพื้นที่เสี่ยง แออัด และทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสร่วม และมาตรการเสริม คือ ดูแลตนเอง ใช้ช้อนส่วนตัว กินอาหารปรุงสุกใหม่ ลงทะเบียนไทยชนะ ตรวจสอบคนมาจากพื้นที่เสี่ยง และกักกันตัวเอง โรงเรียนต้องปฏิบัติตามมาตรการเฉพาะดังนี้


1) รถรับ-ส่งนักเรียน สวมหน้ากาก 100 เปอร์เซ็นต์ ลดพูดคุย เล่นหยอกล้อ กันบนรถ มีและใช้เจลแอลกอฮอล์บนรถ เปิดประตูหน้าต่างรถ ระบายอากาศ ถ่ายเท และทำความสะอาดภายในและนอกรถ รวมถึงจุดสัมผัสเสี่ยง 2) หอพักนักเรียน คัดกรองวัดอุณหภูมิก่อนเข้าหอพัก มีจุดล้างมือด้วยสบู่ และเจลแอลกอฮอล์เพียงพอ ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัส วันละ 2 ครั้ง คัดแยกขยะและ กำจัดทุกวัน จัดเตียงนอน เว้นระยะห่าง 1-2 เมตร เปิดประตูหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท 3) สถานปฏิบัติศาสนกิจ คัดกรองอุณหภูมิ ประเมินความเสี่ยง สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ทำความสะอาดมือทุกครั้งหลังเสร็จพิธี เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1-2 เมตร ลดการแออัด งดทำกิจกรรมรวมกลุ่มคนจำนวนมาก และ 4) กรณีเฉพาะความพิการ ทำความสะอาดอุปกรณ์ช่วยคนพิการประจำทุกวัน รถเข็น ไม้เท้า จัดเพิ่มช่องทางสื่อสารอำนวยความสะดวก และผู้ดูแลปฏิบัติตนป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

​“ทั้งนี้ ผู้ปกครองควรเตรียมความพร้อมให้บุตรหลาน ดังนี้ 1) จัดหาของใช้ส่วนตัว เช่น ช้อน ส้อม แก้วน้ำ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ผ้าเช็ดหน้า และหน้ากาก ให้บุตรหลาน 2) จัดหาสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ โดยกำกับบุตรหลานให้ หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ก่อนกินอาหาร หลังใช้ส้วม หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา ปาก จมูก โดยไม่จำเป็น 3) จัดเตรียมอาหารปรุงสุกใหม่ กินอาหารสุกร้อน หรือจัดเตรียมอาหารกลางวัน (Lunch box) ให้นักเรียนนำมารับประทานเอง ครบ 5 หมู่ และผัก ผลไม้ 5 สี ออกกำลังกาย อย่างน้อย 60 นาที ทุกวัน และ นอนหลับให้เพียงพอ 9-11 ชั่วโมงต่อวัน 4) สังเกตอาการเจ็บป่วยของบุตรหลาน หากมีอาการ ไอ จาม เป็นหวัด มีไข้ หายใจเหนื่อยหอบให้รีบพาไปพบแพทย์ กรณีมีคนในครอบครัวป่วยหรือกลับจากพื้นที่เสี่ยงและอยู่ในช่วงกักกัน ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอย่างเคร่งครัด 5) หลีกเลี่ยงการพาบุตรหลานไปในสถานเสี่ยง สถานที่แออัด หรือสถานที่ที่มีการรวมกันของคนจำนวนมาก 6) กรณีมีการจัดการเรียน การสอนออนไลน์ ผู้ปกครองให้ความร่วมมือกับครูในการจัดการเรียนการสอน เช่น การส่งการบ้าน การร่วมทำกิจกรรม เป็นต้น และ 7) ติดตามข้อมูลข่าวสารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค พื้นที่เสี่ยง คำแนะนำ การป้องกันตนเองและลดความเสี่ยงจากการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กโจ๊ก” ถอนคำร้องเอาผิด “เศรษฐา” อ้างไม่ติดใจแล้ว

“บิ๊กโจ๊ก” ยื่น ป.ป.ช. ขอถอนคำร้องเอาผิด “นายกฯ เศรษฐา” กรณีปฏิบัติหน้าที่มิชอบตาม ม.157 อ้างไม่ติดใจดำเนินคดีแล้ว

นายกฯ เชิญ 4 ธนาคารใหญ่ ถกลดดอกเบี้ยบ้านกลุ่มเปราะบาง

นายกฯ เชิญผู้บริหาร 4 ธนาคารใหญ่ เข้าหารือ ขอให้ทั้ง 4 ธนาคาร ช่วยลดราคาดอกเบี้ยเงินกู้บ้านให้กับประชาชน ส่วนความเคลื่อนไหวทางด้านการเมือง เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เผยส่งชื่อรัฐมนตรีให้นายกฯ พิจารณาแล้ว

สถานการณ์ชายแดนแม่สอดยังไม่น่าไว้วางใจ มีเสียงปืน-ระเบิดจากฝั่งเมียนมา

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก ยังไม่น่าไว้วางใจ หลังเช้านี้ได้ยินเสียงปืนและระเบิดจากการปะทะของกองกำลังกะเหรี่ยงกับทหารเมียนมา ดังขึ้นในรอบ 3 วัน ขณะที่บ่ายนี้ (23 เม.ย.) รมว.ต่างประเทศ เตรียมลงพื้นที่

เฮลิคอปเตอร์กองทัพเรือมาเลเซียชนกันกลางอากาศ-ดับแล้ว 10

กองทัพเรือมาเลเซียกล่าวในแถลงการณ์ว่า เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือมาเลเซีย 2 ลำ ชนกันกลางอากาศในระหว่างการฝึกซ้อมสำหรับการแสดงในขบวนพาเหรดของกองทัพเรือ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย