ผู้ต้องขังป่วยโควิด-19 หายแล้วร้อยละ 85

กรมราชทัณฑ์ 25 มิ.ย.-กรมราชทัณฑ์ รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในเรือนจำ เผยยอดผู้ต้องขังป่วยโควิดหายแล้วร้อยละ 85การระบาดพื้นที่ กทม.ดีขึ้น เตรียมลดสถานะเรือนจำสีแดงเพิ่ม


นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 24 มิถุนายน 2564 เวลา 16.00 นาฬิกา) มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 162 ราย รักษาหายวันนี้ 515 รายเสียชีวิต 1 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 5,010 ราย

สถานการณ์การแพร่ระบาดในวันนี้ มีเรือนจำสีขาวที่ไม่พบการแพร่ระบาดคงที่ จำนวน 127 แห่ง


ส่วนเรือนจำสีแดงที่พบการแพร่ระบาดอยู่ที่ 12 แห่งคงเดิม โดยรายงานผู้ติดเชื้อในวันนี้ เป็นการติดเชื้อจากแดนในของเรือนจำสีแดง จำนวน 159 ราย จากเรือนจำกลางสงขลา ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา เรือนจำพิเศษธนบุรี ทัณฑสถานหญิงสงขลา และเรือนจำกลางคลองเปรม และการตรวจพบเชื้อในห้องแยกกักโรคซึ่งเป็นผู้ต้องขังรับใหม่ 3 ราย จากเรือนจำกลางสมุทรปราการ เรือนจำกลางกำแพงเพชร และเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร แห่งละ 1 ราย

ขณะที่จำนวนผู้ป่วยรักษาหายยังคงมีจำนวนเพิ่มขึ้นและมากกว่าผู้ติดเชื้อรายใหม่ ทำให้ยอดรักษาหายสะสมอยู่ที่ 30,608 ราย หรือร้อยละ 85 ของจำนวนผู้ป่วยสะสม โดยผู้ติดเชื้อในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ปัจจุบัน เป็นกลุ่มสีเขียว 4,423 ราย หรือร้อยละ 88.4 สีเหลือง 558 ราย หรือร้อยละ 11 และสีแดง 29 ราย หรือร้อยละ 0.6 ซึ่งได้รับการรักษาตัวอยู่ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลเรือนจำกลางบางขวาง ในขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตวันนี้ มีจำนวน 1 ราย รวมเสียชีวิต 37 ราย หรือร้อยละ 0.1 ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด

นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวโน้มการแพร่ระบาดในเรือนจำสีแดงวันนี้ สถานการณ์ยังคงดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครที่พบว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อได้รับการรักษาหายเพิ่มขึ้น ขณะที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่มีเรือนจำสีแดงหลายแห่งที่ไม่พบผู้ติดเชื้อติดต่อกัน อาทิ เรือนจำจังหวัดนนทบุรีและเรือนจำจังหวัดสงขลา ที่ไม่พบการติดเชื้อใหม่กว่า 1 สัปดาห์ และเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ที่ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จากแดนในเป็นระยะเวลา 12 วัน และมีผู้ติดเชื้อเหลือเพียง 2 รายเท่านั้น จึงคาดว่าจะได้รับการลดสถานะจากเรือนจำสีแดงได้ในเร็วๆ นี้


สำหรับผู้เสียชีวิต 1 รายในวันนี้ เป็นผู้ต้องขังชาย อายุ 36 ปี จากทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง มีโรคประจำตัว ไวรัสตับอักเสบซี โรคตับแข็ง เข้ารับการรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เมื่อวัน 13 มิถุนายน 2564 แพทย์ให้การรักษาด้วยยา favipiravir ยาปฏิชีวนะ และยาขับปัสสาวะ ตรวจพบน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด แพทย์พิจารณาให้ใช้เครื่องออกซิเจนอัตราการไหลสูง จนกระทั่งในวันที่ 23 มิถุนายน 2564 ผู้ป่วยซึมลง หายใจหอบ ความดันโลหิตต่ำ ได้รับยากระตุ้นความดันโลหิต แต่ไม่ตอบสนองและได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งกรมราชทัณฑ์ ได้ประสานญาติ และดำเนินการตามกระบวนการส่งศพของผู้เสียชีวิต เพื่อนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอย่างปลอดภัย ตามวิธีการจัดการศพของผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นที่เรียบร้อย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง