กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 25 มิ.ย.- กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยประเทศไทยมีระบบติดตามกลุ่มผู้ได้รับวัคซีนโควิด 19 แนะประชาชนไม่ต้องตรวจหาภูมิคุ้มกันหลังได้รับวัคซีน
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการระดมฉีดวัคซีน เพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด 19 ทำให้ประชาชนหลายคนมีความสนใจตรวจภูมิคุ้มกันหลังได้รับวัคซีนนั้น กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ขอชี้แจงว่าในปัจจุบันการตรวจภูมิคุ้มกันที่มีให้บริการยังไม่สามารถบอกได้ว่า ระดับของภูมิคุ้มกันแบบแอนติบอดีที่ตรวจพบสามารถป้องกันโรคโควิด 19 ได้ อีกทั้งประเทศไทยมีระบบ การติดตามกลุ่มผู้ได้รับวัคซีนอยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่ประชาชนจะต้องตรวจหาระดับแอนติบอดี หลังได้รับวัคซีน ซึ่งสอดคล้องกับคำแนะนำจากองค์การอนามัยโลก และองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ เช่นกัน
นพ.ศุภกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนการศึกษาระดับภูมิคุ้มกันหลังได้รับวัคซีนยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาวิจัย ทั้งการศึกษากลไกของระบบภูมิคุ้มกัน การตอบสนองทางภูมิคุ้มกันโดยการสร้างแอนติบอดี ระดับของแอนติบอดี ระยะเวลาในการสร้างแอนติบอดี และระยะเวลาการคงอยู่ของแอนติบอดีในร่างกาย ซึ่งแอนติบอดีชนิดที่สามารถป้องกันการติดโรคโควิด 19 นั้น เป็นชนิด neutralizing antibody ซึ่งชุดตรวจแอนติบอดีในท้องตลาดปัจจุบันเป็นชุดตรวจแอนติบอดีโดยรวม จึงไม่สามารถระบุระดับของ neutralizing antibody โดยเฉพาะได้ ทำให้การตรวจด้วยชุดตรวจที่มีในปัจจุบัน ยังไม่สามารถบอกระดับการป้องกันการติดเชื้อได้ และการตรวจ neutralizing antibody อย่างจำเพาะนั้น จะต้องทำในห้องปฏิบัติการควบคุมความปลอดภัยระดับสูงเท่านั้น และไม่สามารถตรวจได้ในห้องปฏิบัติการทั่วไป
“การนำชุดตรวจแอนติบอดีมาใช้ต้องปฏิบัติตามข้อบ่งชี้ในการใช้งาน และชุดตรวจแอนติบอดีจะต้องผ่านการประเมินและรับรองโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งชุดตรวจแอนติบอดีเหล่านี้ กำหนดให้ใช้ได้เฉพาะในสถานพยาบาล โรงพยาบาล คลินิกเวชกรรม คลินิกเฉพาะทางเวชกรรม คลินิกเทคนิคการแพทย์ นอกจากนั้นการตรวจและการแปลผลการตรวจ ต้องทำโดยบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น เพราะจะต้องพิจารณาข้อมูลอาการหรือการตรวจอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย จึงห้ามไม่ให้ประชาชนหาซื้อมาตรวจ ด้วยตัวเอง เพราะอาจตรวจผิดพลาด เกิดความเข้าใจผิดและก่อให้เกิดปัญหาในการควบคุมโรคระบาดได้ ดังนั้นเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 จึงขอให้ประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำในการป้องกันโรคต่อไป โดยการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และรักษาระยะห่าง แม้จะได้รับวัคซีน จนครบ 2 เข็มแล้วก็ตาม” นพ.ศุภกิจ กล่าว .-สำนักข่าวไทย