กทม. 16 มิ.ย.- รองปลัด กทม. ลงพื้นที่เขตยานนาวา ตรวจคัดกรองโควิด-19 เข้มทั้งตลาด และแคมป์คนงาน ป้องกันเป็นคลัสเตอร์ใหม่
นางวัลยา วัฒนรัตน์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร (รองปลัด กทม.) ลงพื้นที่ตรวจแผนการดำเนินงานเฝ้าระวัง และค้นหาผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในกลุ่มประชากรเสี่ยง และสถานที่เสี่ยง (Sentinel Surveillance) ในตลาดและแคมป์ที่พักคนงานก่อสร้าง พื้นที่เขตยานนาวา โดยมีคณะเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน พร้อมทีมเฉพาะกิจด้านความมั่นคง ชุดบูรณาการร่วมกลุ่มเขตกรุงเทพใต้ ร่วมลงพื้นที่
รองปลัด กทม. เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้เกิดขึ้นในหลายพื้นที่และแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว มีการติดเชื้อต่อเนื่องจากสถานที่เฉพาะกลุ่ม เช่น แคมป์คนงานก่อสร้าง หรือตลาด ส่งผลให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ และผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก จึงกำหนดลงพื้นที่ในวันนี้ เพื่อตรวจคัดกรองเชิงรุกให้กับผู้ค้าและผู้ประกอบการในตลาดพื้นที่เขตยานนาวา ซึ่งมีทั้งหมด 6 ตลาด
โดยตรวจคัดกรองด้วยวิธีเก็บตัวอย่างน้ำลาย ซึ่งได้สุ่มตัวอย่างจากกลุ่มเป้าหมาย ตลาดละ 75 คน รวม 450 คน แบ่งพื้นที่การตรวจออกเป็น 2 จุด โดยจุดคัดกรองจุดที่ 1 บริเวณตลาดรุ่งเจริญ ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ มีแผงค้า 422 แผง มีผู้ค้าคนไทย 200 คน และต่างด้าว 50 คน และตลาดไฮโซ มีแผงค้า 98 แผง มีผู้ค้าคนไทย 31 คน และต่างด้าว 17 คน และจุดที่ 2 บริเวณวัดดอกไม้ คัดกรองกลุ่มตัวอย่างผู้ค้าจากตลาดวัดดอกไม้ ตลาดลานทราย ตลาดเพิ่มทรัพย์ และตลาดบางโพงพาง
ทั้งนี้ กทม.ได้กำชับให้ทุกสำนักงานเขตดำเนินการตามมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 มาตรการป้องกันและการเฝ้าระวังในพื้นที่ รวมทั้งแผนการบูรณาการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค สำหรับการเฝ้าระวังตลาด ชุมชน และแคมป์ก่อสร้าง จะดำเนินการในระดับเขต และบริหารจัดการในรูปแบบกลุ่มเขต โดยสำนักงานเขตพื้นที่และศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. จะบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานด้านความมั่นคงในการปฏิบัติงาน
จากนั้น ลงพื้นที่บริเวณแคมป์ที่พักคนงาน บริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) ถนนพระรามที่ 3 ซอย 77 ติดตามมาตรการควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะ (Bubble and Seal) ของบริษัท ซึ่งพบผู้ติดเชื้อกลุ่มก้อนใหม่ (Cluster) โดยจากข้อมูล ณ วันที่ 2-15 มิ.ย.64 มีจำนวนคนงาน 609 ราย พบผู้ติดเชื้อ 252 ราย รักษาอยู่ 146 ราย และรอยืนยันผลตรวจ 106 ราย ทั้งนี้ ได้นำตัวผู้ที่ตรวจพบเชื้อจากแคมป์ดังกล่าวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนามทั้งหมดแล้ว
ตลอดจนได้ดำเนินการปิดแคมป์ พร้อมดำเนินการตามที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด เช่น ปรับปรุงด้านสุขลักษณะภายในแคมป์ที่พักคนงาน ทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคภายในที่พักอาศัย รวมทั้งเฝ้าระวังอาการเจ็บป่วย โดยสังเกตอาการระบบทางเดินหายใจ ตาแดง มีผื่น มีน้ำมูก ท้องเสีย เป็นต้น หากพบคนงานมีอาการป่วยให้นำส่งตรวจที่โรงพยาบาล
นอกจากนี้ ยังได้แนะนำแนวทางการปฏิบัติตนเพื่อป้องกันการระบาดในวงกว้างให้กับผู้ที่กักตัวภายในแคมป์ พร้อมได้กำชับให้สำนักงานเขตเฝ้าระวังในพื้นที่อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง เพื่อให้ทราบแนวโน้ม และควบคุมการแพร่ระบาดได้ทันท่วงที เพื่อเป็นการควบคุมการระบาดในพื้นที่ต่อไป.-สำนักข่าวไทย