ป.ป.ช.เร่งสอบโครงการจัดซื้อเสาไฟกินรี

ภูมิภาค 14 มิ.ย. – ป.ป.ช. เร่งสอบโครงการเสาไฟกินรี และเสาไฟประติมากรรมทุกจังหวัด ปัดตอบคุ้มค่า เป็นประโยชน์ต่อประชาชนหรือไม่ ชี้ทุกรูปแบบศิลปะหาราคากลางได้


นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กล่าวกรณีสั่งให้ ป.ป.ช.จังหวัด ดำเนินการตรวจสอบโครงการจัดซื้อเสาไฟฟ้ารูปประติมากรรมกินรี และการสร้างเสาไฟประติมากรรมขององค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ว่าเรื่องนี้ต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานว่าโครงการดังกล่าวมีความคุ้มค่าต่อประชาชนอย่างไร และมีเหตุผลอย่างไรในการดำเนินการ ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะที่ จ.สมุทรปราการ ที่เดียว แต่เกิดขึ้นในอีกหลายแห่งก็ให้ตรวจสอบเช่นเดียวกัน และคงต้องทำควบคู่กับการทำข้อเสนอแนะไปยังหน่วยงานต่างๆ ว่าเวลาจะดำเนินโครงการอะไรขอให้พิจารณาว่าโครงการดังกล่าวว่าจะเกิดความคุ้มค่ากับประชาชนมากน้อยแค่ไหน ส่วนโครงการที่ จ.สมุทรปราการ ถือว่าคุ้มค่ากับประชาชนหรือไม่ ขณะนี้ขอยังไม่พูดอะไร ให้เขารวบรวมข้อมูลมาก่อน

ด้านนายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษก ป.ป.ช. กล่าวว่า การใช้วิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐของเอกชนในการประมูลงานภาครัฐ ซึ่งรวมถึงโครงการนี้ ป.ป.ช. มีข้อสังเกตในหลายกรณี ป้องกันเพื่อไม่ให้มีการฮั้วประมูล แต่ในทางปฏิบัติไม่มีหลักฐานชัดว่าการเคาะราคามีการรู้กันก่อนหรือไม่ ยืนยันว่าในส่วนของรูปแบบงานศิลปะสามารถหาราคากลางได้อยู่แล้ว ในการตรวจสอบเรื่องนี้ของ ป.ป.ช จะดูตั้งแต่การตั้งโครงการ จุดที่ตั้งโครงการ ทีโออาร์ การออกแบบ และราคากลาง ควรราคาเท่าใด


ด้านนายอุดม กลิ่นพวง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองปรือ จ.สมุทรปราการ เจ้าของพื้นที่เสาไฟประติมากรรมโซลาร์เซลล์รูปเครื่องบิน บอกว่าไม่กังวลหาก ป.ป.ช. จะตรวจสอบการจัดซื้อเสาไฟฟ้าดังกล่าว เพราะทุกขั้นตอนมีความโปร่งใส และใช้วัสดุที่ผ่านการคัดเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน ในราคาต้นละ 92,769 บาท ไม่ใช่ต้นละกว่าแสนบาทตามที่มีการแชร์กันในโลกโซเชียล โดยเสาประติมากรรมโซลาร์เซลล์รูปเครื่องบินมีทั้งหมดกว่า 300 ต้น ติดตามถนนสายหลักที่มีเลนส์จักรยาน เพื่อออกกำลังกาย ท่องเที่ยว และเพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ของพื้นที่ ส่วนตามซอยย่อยจะเป็นเสาไฟโซลาร์เซลล์แบบธรรมดา

นอกจากนี้ยังมีโครงการที่จะติดตั้งเสาไฟประติมากรรมโซลาร์เซลล์รูปเครื่องบิน ในถนนทางเข้าสนามบิน เป็นระยะทาง 2 กิโลเมตร แม้จะมีกระแสการโจมตีราคา ความคุ้มค่า แต่ทุกขั้นตอนตรวจสอบได้

ส่วนที่ จ.เชียงราย นายทัศนัย สุธาพจน์ นายอำเภอเชียงของ ชี้แจงกรณีเสาไฟส่องสว่างปลาบึกเสียบไม้ใน โครงการปรับภูมิทัศน์บริเวณสวนสาธารณะด่านชายแดน พื้นที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ว่าคุ้มค่างบประมาณของทางราชการหรือไม่ว่า เสาไฟดังกล่าวสร้างเสร็จมาแล้ว 4 ปี งบประมาณราว 1.4 ล้าน จำนวน 22 ต้น เฉลี่ยต้นละ 65,000 บาท ซึ่ง โครงการนี้อำเภอได้รับมอบหมาย จากทาง จ.เชียงราย เมื่อปี 2560 ให้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง โดยมีการประมูลงานตามขั้นตอน และการสร้างเสาโคมไฟปูนปั้นนี้เป็นการออกแบบให้สอดคล้องกับลานปลาบึกเจ็ดสีที่เป็นสวนสาธารณะใกล้กับท่าเรือบั๊ค ที่มีรูปปั้นปลาบึกขนาดใหญ่ ติดกับด่านพรมแดนท่าเรือข้ามฟากเชียงของ-ห้วยทราย ซึ่งเป็นที่พักผ่อนออกกำลังกายของคนเชียงของ คนต่างถิ่น และคนท่องเที่ยว ซึ่งเสานี้เป็นรูปบึกพันรอบเสา ไม่ใช่ปลาบึกเสียบไม้ โดยเรื่องของโครงสร้างที่ต้องให้ตัวปลาบึกยึดกับเสาได้


ทั้งนี้ ชาว อ.เชียงของ ส่วนใหญ่เห็นว่าเป็นการทำให้เกิดจุดเด่นของ อ.เชียงของ ที่จะแสดงให้เห็นถึงเมืองแห่งปลาบึก และอาจมีคนบางคนเห็นว่าไม่ดี วิพากษ์วิจารณ์ได้ ซึ่งที่ผ่านมาพื้นที่ดังกล่าวได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวมาแล้วหลายครั้ง รวมทั้งการทำกิจกรรมวิ่ง ปั่นจักรยาน ของชาว อ.เชียงของ และผู้ที่ให้ความสนใจในการออกกำลังกาย

ที่ จ.กาญนบุรี ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบเสาไฟส่องสว่างในพื้นที่เทศบาลตำบลหวายเหนียว อ.ท่ามะกา ซึ่งมีเสาไฟฟ้าส่องสว่างเป็นรูปกามเทพ แต่เมื่อได้เข้าดูแล้วพบว่ามีเสาไฟประมาณ 20 ต้น ในซอยเข้าหมูบ้านหวายเหนียว มีเสาไฟหัวเสามีรูปเทพคิวปิดนั่งถือหลอดไฟส่องสว่างจริง แต่พบว่าเสาบางต้นไม่มีหลอดไฟ ตัวเสาเกิดสนิมแดง เพราะสร้างมาหมายปี จึงได้ติดต่อไปยังเทศบาล แต่เป็นเวลาเลิกงานแล้ว และนายกเทศบาลก็ติดต่อไม่ได้ จึงยังไม่ทราบถึงที่มาโครงการทั้งหมด แต่ทราบจากชาวบ้านบอกว่า นายประยูร ลี้ไพบูลย์ นายกเทศบาลหวายเหนียว เป็นผู้สร้างเสาไฟใช้รูป “เทพคิวปิด” นี้ขึ้นมา เนื่องจากอดีตชาวบ้านในซอยมีปัญหาไม่ค่อยจะลงรอยกัน จึงได้ไกล่เกลี่ยจนชาวบ้านเกิดความรักความสามัคคี จึงสร้างเสาไฟที่เป็นรูป “เทพคิวปิด” ขึ้นมา .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนทูลเกล้าฯ ครม.

กทม 16 ก.ย.- “อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ไหว้ศาลหลักเมือง – วัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปราะ ขณะ “บิ๊กเล็ก” ว่าที่ รมว.กลาโหม รอรับ พลาดลื่นคะมำที่บันได นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รอต้อนรับ โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพล ที่เดินตามข้างหลัง ได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพล ได้ลุกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ ต่อมา นายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี ถัดจากนั้นได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง ต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน “นายกฯ สู้ๆ” ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ […]

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]